FETCO เผยดัชนีความเชื่อมั่นนักลงทุนอีก 3 เดือนเพิ่มขึ้น 4% เกณฑ์ “ทรงตัว” คาดหวัง ศก.ฟื้นตัว

สภาธุรกิจตลาดทุนไทย(FETCO) เผยผลสำรวจดัชนีความเชื่อมั่นนักลงทุนในอีก 3 เดือนข้างหน้า(ก.ย.63) เพิ่มขึ้น 4% อยู่ในเกณฑ์ “ทรงตัว” เหมือนเดือนก่อน นักลงทุนคาดหวังการเติบโตของเศรษฐกิจในประเทศ-นโยบายภาครัฐ ขณะที่กังวลผลกำไรบริษัทจดทะเบียน-การไหลเข้าออกเงินทุน

นายไพบูลย์ นลินทรางกูร ประธานกรรมการสภาธุรกิจตลาดทุนไทย(FETCO) เปิดเผยดัชนีความเชื่อมั่นนักลงทุน (FETCO Investor Confidence Index) ประจำเดือน ก.ค.2563 ว่า ดัชนีความเชื่อมั่นนักลงทุนในอีก 3 เดือนข้างหน้าเพิ่มขึ้น 4% อยู่ในเกณฑ์ทรงตัวเหมือนเดือนก่อน นักลงทุนคาดหวังการเติบโตของเศรษฐกิจในประเทศเป็นปัจจัยหนุนมากที่สุด รองลงมาคือนโยบายภาครัฐ และการไหลเข้าออกของเงินทุน อย่างไรก็ตามมีความกังวลต่อผลประกอบการบริษัทจดทะเบียนช่วงไตรมาส 2 ที่เป็นปัจจัยฉุดความเชื่อมั่นนักลงทุนมากที่สุด รองลงมาคือการไหลเข้าออกของเงินทุน และนโยบายทางการเงินจากธนาคารกลางสหรัฐ รวมถึงยังคงกังวลการระบาดรอบ 2 ของโรคโควิด-19

ทั้งนี้ ดัชนีความเชื่อมั่นนักลงทุน สำรวจในเดือนมิถุนายน 2563 ได้ผลสำรวจโดยสรุป ดังนี้ คือ ดัชนีความเชื่อมั่นรวมทุกกลุ่มนักลงทุนในอีก 3 เดือนข้างหน้า (กันยายน 2563) อยู่ในเกณฑ์ “ทรงตัว” (ช่วงค่าดัชนี 80-119) โดยเพิ่มขึ้น 4% มาอยู่ที่ระดับ 101.19 ขณะที่นักลงทุนต่างชาติปรับขึ้นมาอยู่ในระดับ “ทรงตัว” ที่ 100.00 กลุ่มนักลงทุนบุคคลปรับตัวลงอยู่ในระดับ “ซบเซา” ที่ 71.79

– หมวดธุรกิจที่น่าสนใจมากที่สุด คือหมวดอาหารและเครื่องดื่ม (FOOD)
– หมวดธุรกิจที่ไม่น่าสนใจมากที่สุด คือหมวดธนาคาร (BANK)
– ปัจจัยหนุนที่มีอิทธิพลต่อตลาดหุ้นไทยมากที่สุด คือการเติบโตของเศรษฐกิจในประเทศ
– ปัจจัยฉุดที่มีอิทธิพลต่อตลาดหุ้นไทยมากที่สุด คือผลประกอบการบริษัทจดทะเบียน

“ผลสำรวจ ณ เดือนมิถุนายน 2563 รายกลุ่มนักลงทุน พบว่าความเชื่อมั่นนักลงทุนต่างชาติปรับขึ้นมาอยู่ในระดับ “ร้อนแรง” ในขณะที่กลุ่มบัญชีบริษัทหลักทรัพย์และสถาบันในประเทศอยู่ในระดับ “ทรงตัว” ยกเว้นกลุ่มนักลงทุนบุคคลที่ปรับตัวลงอยู่ในระดับ “ซบเซา”

อย่างไรก็ตาม ในช่วงเดือนมิถุนายน 2563 SET Index ปรับตัวลดลงเล็กน้อยจากเดือนพฤษภาคม โดยช่วงครึ่งเดือนแรกดัชนีเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบระหว่าง 1,341.99-1,438.66 จุด หลังจากได้รับแนวโน้มการผ่อนคลาย Lockdown ระยะที่สี่ รวมถึง ครม.เห็นชอบมาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยว วงเงินรวม 22,400 ล้านบาท จากนั้นดัชนีปรับตัวลงเล็กน้อยหลังจากธนาคารแห่งประเทศไทยปรับลดการคาดการณ์เศรษฐกิจไทยปี 2563 ติดลบ 8.1% และประกาศให้ธนาคารพาณิชย์งดจ่ายเงินปันผลระหว่างกาล อีกทั้งธนาคารกลางสหรัฐฯ ประกาศห้ามธนาคารจ่ายเงินปันผล โดย ณ สิ้นเดือนมิถุนายน 2563 SET index ปิดที่ 1,339.03 จุด

สำหรับปัจจัยทางเศรษฐกิจที่ต้องติดตาม ได้แก่ ผลกระทบทางเศรษฐกิจจากความขัดแย้งระหว่างประเทศต่างๆ เช่น สงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ-จีน ความขัดแย้งบริเวณชายแดนจีน-อินเดีย การเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ในส่วนของปัจจัยในประเทศที่น่าติดตาม ได้แก่ ผลกระทบของโควิดต่อเศรษฐกิจ การผ่อนคลายการล็อกดาวน์ และมาตรการสนับสนุนต่างๆ ทั้งมาตรการด้านการคลัง มาตรการด้านสินเชื่อ และมาตรการด้านการเงิน