กองทุนทองคำรับอานิสงส์ราคาทองจ่อทำนิวไฮรอบ 9 ปีดันผลตอบแทน “มอร์นิ่งสตาร์ฯ” เผยครึ่งปีแรกรีเทิร์นเฉลี่ย 17.42% แซงหน้ากองทุนอื่นขณะที่ผลตอบแทน 1 ปีบวกสูง 23.18% เตือนลงทุนหลังจากนี้ราคาไปต่อยากขึ้น-นักลงทุนส่อขายทำกำไร “บลจ.พรินซิเพิล” ระบุเข้าลงทุนตอนนี้ “สายเกินไป” แนะนำเลี่ยงลงทุน
ผู้สื่อข่าว “ประชาชาติธุรกิจ” รายงานว่าจากข้อมูลของบริษัท มอร์นิ่งสตาร์ รีเสิร์ช (ประเทศไทย) จำกัด พบว่าในช่วงครึ่งปีแรกที่ผ่านมา กองทุนรวมทองคำ (Commodities Precious Metals) ให้ผลตอบแทนเฉลี่ยสูงสุดที่ 17.42% เมื่อเทียบกับกองทุนประเภทอื่น ๆ ขณะเดียวกันผลตอบแทนในช่วงต่าง ๆ ยังเป็นบวกอีก ได้แก่ ผลตอบแทน 3 เดือนย้อนหลังที่ 7.66% ผลตอบแทน 1 ปีย้อนหลังที่ 23.18% ผลตอบแทน 5 ปีย้อนหลังอยู่ที่ 5.6% ต่อปี และผลตอบแทน 10 ปีย้อนหลังอยู่ที่ 1.88% ต่อปี
- ประกาศแล้ว! พระราชกฤษฎีกาเงินช่วยค่าครองชีพผู้รับเบี้ยหวัดบำนาญ รับ 11,000 บาทต่อเดือน
- บังคับใช้แล้ว! หลักเกณฑ์การดำเนินงาน 30 บาทรักษาทุกที่ ด้วยบัตรประชาชนใบเดียว
- อะไรทำให้ “ทองคำ” แพง สงคราม หรือการเก็งกำไร ?
นางสาวชญานี จึงมานนท์ นักวิเคราะห์อาวุโส บริษัท มอร์นิ่งสตาร์รีเสิร์ช (ประเทศไทย) กล่าวว่า กองทุนทองคำ มีผลตอบแทนที่โดดเด่นในปี 2563 นี้ โดยในไตรมาส 2 ที่ผ่านมามีผลตอบแทนเฉลี่ยเพิ่มขึ้น 7.7% ทำให้ในรอบ 1 ปีที่ผ่านมาเป็นกลุ่มที่มีผลตอบแทนเฉลี่ยสูงสุดที่ 23.2%
โดยในระยะถัดไปมีความเป็นไปได้ที่จะเห็นเงินไหลออกบางส่วน เพื่อขายทำกำไร หลังจากที่ราคาทองคำปรับขึ้นทำจุดสูงสุดใหม่ (ในรอบเกือบ 9 ปี) แต่ไม่ส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมกองทุนรวมอย่างมีนัยสำคัญ
ขณะที่ในส่วนของกองทุนรวมที่ลงทุนในต่างประเทศ (FIF) พบว่า ช่วงครึ่งปีแรกกองทุนทองคำต่างประเทศมีเงินไหลออกสุทธิ 6,200 ล้านบาท โดยเป็นการขายทำกำไร เนื่องจากปัจจัยราคาทองคำที่ปรับขึ้นเช่นกัน
“ถ้าพูดกันตรง ๆ ราคาทองคำมันค่อนข้างสูงมากแล้ว หากเข้าลงทุนทองคำตอนนี้ สู้เข้าไปลงทุนในตลาดหุ้น น่าจะได้ส่วนต่างผลตอบแทนมากกว่า อีกทั้งราคาทองคำไม่ได้เหวี่ยงเร็วเท่ากับสินทรัพย์อื่น ๆ อย่างเช่น น้ำมัน นอกจากจะมีปัจจัยเสี่ยงเข้ามากระทบราคาถึงจะปรับขึ้น” นางสาวชญานีกล่าว
นายวิน พรหมแพทย์ ประธานเจ้าหน้าที่การลงทุน บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) พรินซิเพิล กล่าวว่า ที่ผ่านมากองทุนทองคำให้ผลตอบแทนที่น่าจูงใจเมื่อเทียบกับกองทุนรวมประเภทอื่น ๆ อย่างไรก็ดี สำหรับนักลงทุนที่หาจังหวะลงทุนในช่วงนี้ อาจสายเกินไปที่จะลงทุน เนื่องจากราคาทองคำต่างประเทศ (gold spot) ปรับขึ้นค่อนข้างรุนแรง หรือแนวโน้มเป็นการซื้อขายเก็งกำไร มากกว่าที่จะเป็นการซื้อขายตามปัจจัยพื้นฐานของทองคำจริง ๆ ดังนั้น จึงไม่แนะนำลงทุนสำหรับผู้ที่ไม่มีกองทุนทองคำในพอร์ตอยู่แล้ว
“หากใครมีการลงทุนอยู่ เราแนะนำให้ขายทำกำไรออกมาบ้าง แต่สำหรับคนที่ไม่มีการลงทุนในกองทุนประเภทนี้ แนะนำให้รอรอบถัดไปเพราะราคาทองที่ปรับขึ้นมารอบนี้จะไปต่อได้ยากแล้ว โดยเฉพาะในรอบนี้ที่ทองคำปรับขึ้นพร้อมกับตลาดหุ้น ซึ่งแปลกมาก” นายวินกล่าว