บสย.ค้ำกู้ซอฟต์โลนออมสิน ประเดิมล็อตแรก 3 หมื่นล้าน

คลังดึง บสย.ค้ำซอฟต์โลนออมสินก้อนใหม่ “ปลดล็อก” ผู้ประกอบการท่องเที่ยวเข้าไม่ถึงซอฟต์โลน ธปท.เผยเบื้องต้น บสย.มีวงเงินค้ำประกันได้ 3 หมื่นล้านบาท ถึงสิ้น ก.ย.นี้ เหตุต้องใช้เงินทุนของ บสย.เอง เพราะติดล็อกกฎหมายการเงินการคลังรัฐอุดหนุนเพิ่มไม่ได้ ฟาก “วิทัย” ผอ.ออมสินคนใหม่ระบุเสนอซอฟต์โลนก้อนใหม่ให้คลังพิจารณาแล้ว พร้อมเคาะมาตรการขยายเวลา “พักหนี้” ถึงสิ้นปีให้ลูกค้าแจ้งความประสงค์ผ่านแอป “MyMo”

แหล่งข่าวจากกระทรวงการคลังเปิดเผย “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า จะมีการเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) อนุมัติโครงการสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ (ซอฟต์โลน) ก้อนใหม่วงเงิน 1 แสนล้านบาท ที่จะให้ธนาคารออมสินช่วยผู้ประกอบการท่องเที่ยวตัวเล็กตัวน้อยที่เข้าไม่ถึงสินเชื่อซอฟต์โลนก้อน 5 แสนล้านบาท ของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เนื่องจากกู้ไม่ได้ เพราะไม่เคยกู้ หรือผ่อนชำระไม่สม่ำเสมอ หรือผ่อนชำระไม่ตรงงวด เช่น บางรายพอหมดช่วงฤดูท่องเที่ยวก็อาจจะมีการขาดชำระ แล้วพอเข้าฤดูกาลท่องเที่ยวใหม่ก็กลับมาชำระหนี้ได้ปกติ เป็นต้น

“กลุ่มนี้เข้าไม่ถึงซอฟต์โลน ธปท.เพราะติดเงื่อนไขหลายอย่าง ทั้งการให้กู้ได้แค่ 20% ของยอดหนี้คงค้าง ณ วันที่ 31 ธ.ค. 2562 และจะต้องเป็นลูกหนี้เดิมของสถาบันการเงินที่ขอกู้ด้วย ขณะที่ซอฟต์โลนออมสินจะปลดล็อกข้อจำกัดซอฟต์โลน ธปท.เหล่านี้ เพราะไม่จำกัดลูกหนี้ว่าจะต้องเป็นลูกหนี้เดิม และดึง บสย.เข้ามาค้ำประกันความเสี่ยงด้านเครดิตให้ โดย บสย.รับความเสียหายกรณีเป็นหนี้เสียราว 30-40%” แหล่งข่าวกล่าว

แหล่งข่าวกล่าวอีกว่า เบื้องต้นการค้ำประกันจะใช้ทุนของ บสย.เองที่ปัจจุบันมีอยู่ที่ 9,000 ล้านบาท ซึ่งค้ำประกันได้ 3 หมื่นล้านบาท ดังนั้นจะใช้ชั่วคราวช่วง 2-3 เดือนไปก่อน รอให้ขึ้นปีงบประมาณใหม่ในเดือน ต.ค.ก่อน ทาง บสย.จึงจะสามารถเสนอโครงการค้ำประกันเฟสใหม่ได้ เนื่องจากปัจจุบันติดกรอบกฎหมายวินัยการเงินการคลังในปีงบประมาณ 2563 ทำให้รัฐอุดหนุนเพิ่มไม่ได้แล้ว

แหล่งข่าวกล่าวอีกว่า การช่วยเหลือเอสเอ็มอีท่องเที่ยวเรื่องสภาพคล่องตอนนี้ถือว่าจำเป็นมาก เพราะหากปล่อยไปธุรกิจจะไปต่อไม่ได้ ซึ่งผู้ประกอบการในธุรกิจท่องเที่ยวกว่า 9 ล้านราย มีการจ้างแรงงานอยู่ถึง 4 ล้านราย หากธุรกิจล้ม ก็จะกระทบการจ้างแรงงานเหล่านี้ ทั้งนี้ การให้ บสย.มาช่วยค้ำประกัน จะช่วยให้ธุรกิจมีทุนหมุนเวียนดำเนินกิจการต่อไปได้อีก 3-6 เดือน

ขณะที่นายวิทัย รัตนากร ผู้อำนวยการธนาคารออมสิน กล่าวว่า ได้เสนอโครงการซอฟต์โลน 1 แสนล้านบาท ไปให้กระทรวงการคลังพิจารณาแล้ว หากกระทรวงการคลังเห็นชอบก็จะเสนอ ครม.ต่อไป โดยการดำเนินการทางออมสินจะปล่อยกู้ซอฟต์โลนดังกล่าวให้ธนาคารพาณิชย์และธนาคารเฉพาะกิจของรัฐ อัตราดอกเบี้ย 0.01% ต่อปี เพื่อให้นำไปปล่อยกู้ต่อให้กับผู้ประกอบการท่องเที่ยว คิดดอกเบี้ย 2% ต่อปี ให้กู้ได้สูงสุดไม่เกิน 50 ล้านบาทต่อราย จากเดิมไม่เกิน 20 ล้านบาทต่อราย และมี บสย.เข้ามาค้ำประกัน

ส่วนความคืบหน้าซอฟต์โลน 1.5 แสนล้านบาทที่ออกมาก่อนหน้านี้ ล่าสุด ณ วันที่ 19 ก.ค. 2563 อนุมัติวงเงินรวมไปแล้ว 1.368 แสนล้านบาท ซึ่งช่วยเหลือผู้ประกอบการได้กว่า 1.48 หมื่นราย โดยวงเงินที่ยังเหลืออยู่เป็นวงเงินในส่วนของผู้ให้บริการที่ไม่ใช่สถาบันการเงิน (น็อนแบงก์)

นายวิทัย กล่าวด้วยว่า ธนาคารออมสินเตรียมจะขยายเวลาพักชำระหนี้และดอกเบี้ยให้กับลูกค้าไปจนถึงสิ้นเดือน ธ.ค. 2563 หลังจากมาตรการเดิมจะสิ้นสุดในเดือน ก.ย.นี้ ซึ่งลูกค้าสามารถแจ้งความประสงค์ขอขยายเวลาพักชำระหนี้ ผ่านแอปพลิเคชั่น MyMo ได้ภายในเดือน ก.ย. ทั้งนี้ ที่ผ่านมาออมสินพักชำระหนี้ให้กับลูกค้าที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 ไปทั้งสิ้นกว่า 3.1 ล้านราย