“สภาตลาดทุนไทย” ชง 7 มาตรการ เสนอ “ขุนคลังคนใหม่”

ปรีดี ดาวฉาย รมว.คลัง
แฟ้มภาพ

สภาธุรกิจตลาดทุนไทย(FETCO) นัดประชุมบ่ายนี้เตรียมชง 7 ข้อเสนอ “ปรีดี ดาวฉาย” รัฐมนตรีคลังคนใหม่ เน้นมาตรการสร้างเงินออมระยะยาว-ยกระดับตลาดทุนไทยสู่ระดับภูมิภาค

วันนี้ (13 ส.ค.63) นายไพบูลย์ นลินทรางกูร ประธานสภาธุรกิจตลาดทุนไทย(FETCO) เปิดเผยว่า บ่ายนี้ทางสภาธุรกิจตลาดทุนไทยจะมีการนัดประชุมคณะกรรมการ(บอร์ด) เพื่อเตรียมข้อเสนอมาตรการพัฒนาตลาดทุนไทยทั้งในระยะกลางและระยะยาว เพื่อนำเสนอต่อ นายปรีดี ดาวฉาย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังคนใหม่ โดยจะทำหนังสือขอเข้าพบ เพื่อนำเสนอแนวทางดังกล่าวต่อไป ทั้งนี้ข้อเสนอในเบื้องต้นมีรายละเอียดดังนี้

มาตรการสร้างเงินออมระยะยาว
1.เสนอภาครัฐให้พิจารณาต่ออายุกองทุนรวมเพื่อการออมพิเศษ (SSFX) สำหรับระยะเวลาการลดหย่อนภาษีออกไปอีก 10 ปี และปรับเว้นระยะเวลาการถือครองลดเหลือแค่ 7 ปี เทียบเคียงกองทุนรวมหุ้นระยะยาว(LTF)

2.เว้นภาษีเงินปันผลสำหรับผู้ลงทุนเกิน 1 ปี

3.ปลดล็อคกฎหมายสมาคมให้ลงทุนในตราสารเสี่ยงได้ จากปัจจุบันกำหนดให้ลงทุนได้เฉพาะเงินฝาก อย่างไรก็ตามกฎหมายดังกล่าวจะเป็นความรับผิดชอบของกระทรวงพาณิชย์ ซึ่งอาจจะนำร่องโดยสมาคมการค้าก่อน

4.ผลักดันกฎหมายกองทุนบำเหน็จบำนาญแห่งชาติภาคบังคับ เพื่อให้เป็นการออมที่รองรับการเกษียณมากยิ่งขึ้น

5.สนับสนุนกองทุนใหม่ๆ และกระตุ้นให้มีการลงทุนตั้งแต่เด็ก

มาตรการยกระดับตลาดทุนไทยสู่ระดับภูมิภาค

6.ต้องการให้รัฐยกสถานะตลาดทุนไทยให้เป็น “ศูนย์กลางตลาดทุนของภูมิภาค” (regional capital market center) เหมือนโครงการระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก (EEC) ในภาคตลาดทุน ซึ่งต้องปรับองคาพยพและแก้กฎหมายหลายส่วนล้อไปกับตลาดโลก ซึ่งเรื่องนี้อาจต้องตั้งคณะทำงานชุดใหญ่มาศึกษา

“ช่วงนี้ควรใช้ประโยชน์ที่บางประเทศกำลังเกิดปัญหาความมั่นคงในประเทศ หลายธุรกิจโดยเฉพาะธนาคารกำลังต้องการย้ายที่ตั้งสำนักงานใหญ่ภูมิภาค ฉะนั้นถือเป็นจังหวะเพื่อดึงดูดเขาเข้ามาในประเทศของเราได้”

อย่างไรก็ตามผลลัพธ์ที่ได้ในอนาคตคือ ต้นทุนทางการเงินของภาคธุรกิจไทยถูกลง บริษัทไทยก็สามารถเข้าไปหาแหล่งทุนที่หลากหลายมากขึ้น ส่งผลต่อความเข้มแข็งของเศรษฐกิจไทยที่ดีขึ้นกว่าเดิม

7.สานต่อในการใช้ตลาดทุนไทยเป็นแหล่งระดมทุนของเอสเอ็มอี(SMEs) โดยเฉพาะขณะนี้หนี้รัฐบาลจะไปแตะระดับ 60% ในเร็วๆ นี้ ฉะนั้นรัฐควรใช้ประโยชน์จากตลาดทุน โดยเฉพาะการออกตราสาร อาทิ อินฟราทรัสเตอร์ ฟันด์ เป็นต้น