ตลาดหุ้นไทย ร่วง 13 จุด ตามทิศทางตลาดต่างประเทศ

ตลาดหุ้น

ตลาดหุ้นไทยปรับลงกว่า 13 จุด สอดคล้องกับตลาดหุ้นต่างประเทศ นักวิเคราะห์ชี้ปัจจัยกดดัน หุ้นเทคฯ ต่างประเทศร่วง-การเมืองสหรัฐระอุ-วัคซีนสะดุด-ราคาน้ำมันดิบไม่ฟื้น

นายสรพล วีระเมธีกุล ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ กสิกรไทย จำกัด เปิดเผยแนวโน้มตลาดหุ้นประจำวันที่ 9 ก.ย. 2563 ว่า ดัชนีตลาดหลักทรัพย์ SET (SET Index) เปิดตลาดปรับลดลงประมาณ 13 จุด เนื่องจากได้รับแรงกดดันจากตลาดหุ้นต่างประเทศ โดยเฉพาะตลาดหุ้น NASDAQ ของสหรัฐที่ปรับลดลงมากถึง 12% จากความกังวลการเกิดภาวะฟองสบู่ในหุ้นเทคโนโลยี

นอกจากนี้ ปัจจัยการเมืองของสหรัฐที่จะมีการจัดดีเบตระหว่าง ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ และ นายโจ ไบเดน ผู้ชิงตำแหน่งประธานาธิบดี ในวันที่ 29 ก.ย.นี้ ตลาดหุ้นกำลังจับตานโยบายภาษีธุรกิจ (Corporate Tax) ส่งผลให้นักลงทุนบางส่วนขายหุ้นเพื่อรอฟังผล

ขณะที่ปัจจัยการพัฒนาวัคซีน พบว่ามีกระแสข่าวเชิงลบอ่อนๆ หลังจากที่บริษัท AstraZeneca ชะลอการทดลองวัคซีน เฟส 3 ส่งผลกดดันหุ้นกลุ่มท่องเที่ยว อย่างไรก็ตาม ฝ่ายวิจัยเชื่อว่าบริษัทที่เหลือจะยังสามารถพัฒนาวัคซีนต่อในระยะถัดไปได้ เนื่องจากมีรายละเอียดการพัฒนาวัคซีนคนละประเภทกัน

ส่วนปัจจัยกดดันในต่างประเทศปัจจัยสุดท้าย ชี้ว่ามาจากราคาน้ำมันดิบโลกที่ยังปรับลงต่อเนื่อง สร้างแรงกดดันต่อหุ้นในกลุ่มพลังงาน

เมื่อสอบถามถึงโอกาสการลงทุน นายสรพล กล่าวว่า บล.กสิกรไทย ประเมินแนวรับที่ 1,260 จุด ซึ่งระดับดังกล่าวนักลงทุนสามารถ “ทยอยสะสม” เพื่อลงทุนได้ โดยแนะนำหุ้นเด่น ได้แก่ GULF แนะนำสะสมที่ระดับราคาประมาณ 30.00 บาท และ MINT ที่ 21.30 บาท

“แต่ไม่จำเป็นต้องรีบซื้อไล่ราคา เนื่องจากยังมีปัจจัยลบในประเทศที่คอยกดดันตลาด ได้แก่ การเมืองในประเทศ และการครบอายุของมาตรการขายชอร์ต (Short Sale) ซึ่งจะกดดันให้ดัชนีปรับขึ้นอย่างจำกัด” นายสรพล กล่าว