รับบทบาทตลาดทุน! ตลท.เพิ่มอำนวยความสะดวก หนุนสตาร์ตอัพ-เอสเอ็มอี เกิดง่ายๆ

dig

ที่โรงแรมอินเตอร์คอนติเนนตัล นางเกศรา มัญชุศรี กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) กล่าวในงานเสวนา Nikkei Asia 300 Global Business Forum เรื่องโอกาสและความเสี่ยงที่ตลาดการเงินในอาเซียนต้องเผชิญ ว่า เมื่อเทียบกับ 20 ปีก่อนที่เกิดวิกฤตต้มยำกุ้ง จะเห็นว่ารายได้ของประชากรโตขึ้น 3 เท่า เศรษฐกิจเติบโตขึ้น 4 เท่า ขณะเดียวกันหนี้สินและตลาดทุนมีอัตราเปลี่ยนแปลงไป ตลาดการเงินไทยมีความสมดุลมากขึ้น ระบบธนาคารมีความแข็งแกร่ง หนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (เอ็นพีแอล) ลดลง ดังนั้น จึงมองว่าจะไม่เกิดวิกฤตเศรษฐกิจหลังจากนี้ ไม่ใช่เพราะเศรษฐกิจมหภาคแข็งแรงหรือมีเสถียรภาพมากขึ้น แต่เพราะเศรษฐกิจมีความยืดหยุ่น ตลาดทุนมีบทบาทมากขึ้น ทำให้ตลาดทุนไทยเป็นที่รู้จักของนักลงทุนต่างชาติมากขึ้น

“ตลท.กำลังพัฒนาแพลตฟอร์มและการให้บริการเพื่ออำนวยความสะดวกแก่นักลงทุน เอสเอ็มอีและสตาร์ตอัพมากขึ้น เช่น การทำฟันด์คอนเน็ค โดยแพลตฟอร์มนี้จะช่วยนักลงทุนรายย่อยเข้าไปซื้อขายในตลาดทุนง่ายขึ้น รวมถึงสตาร์ตอัพแพลตฟอร์ม ที่จะเริ่มสิ้นปีนี้ เพื่อช่วยเหลือเรื่องการระดมทุนให้กับสตาร์ตอัพและเอสเอ็มอีให้มีทางเลือกมากขึ้น หลังจากที่ได้มีการนำร่องทำแพลตฟอร์มนี้กับเอสเอ็มอีไปบ้างแล้วในปีที่ผ่านมา” นางเกศรากล่าว

นายพิพิธ เอนกนิธิ กรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ตามการประมาณการของธนาคารโลก ประชากรอาเซียนจะเติบโต 3.9% และจะเป็นตลาดสำคัญในอนาคต ซึ่งในภาคธนาคารเองก็ต้องปรับตัวและเพิ่มความยืดหยุ่น เพื่อรองรับความเสี่ยงและความท้าทายที่เพิ่มขึ้น โดยต้องเข้าใจใน 2 มิติ คือ 1.การเข้าใจความเปลี่ยนแปลงของตลาดทั้งในประเทศและนอกประเทศ และ 2.การเปลี่ยนแปลงของดิจิทัล (digitalization) ที่ธนาคารต้องปรับตัวทำธุรกิจกับใครก็ได้ในระบบนิเวศใหม่ๆ ไม่จำกัดเฉพาะโอกาสของเทคโนโลยีทางการเงิน (ฟินเทค) เท่านั้น เพราะในอนาคตงานธนาคารจะไม่เหมือนเดิม ดิจิทัลจะทำให้การปรับตัวต้องมีความยืดหยุ่นและว่องไวมากขึ้น

 


ที่มา : มติชนออนไลน์