ลุ้นหุ้นไทยกลับไปทดสอบ 1,300 จุด รับมาตรการกระตุ้นการบริโภค

ตลาดหุ้นไทย-ตลาดหลักทรัพย์ฯ

ตลาดหุ้นไทยเช้านี้มีลุ้นกลับไปทดสอบ 1,300 จุด ในกรอบระหว่าง 1,285-1,305 จุด หลังได้ปัจจัยหนุนอ่อนๆ จากมาตรการกระตุ้นการบริโภคในประเทศผ่าน “เพิ่มวงเงินบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ 500 บาท เป็นระะวลา 3 เดือน – โครงการคนละครึ่ง วงเงินไม่เกิน 3,000 บาทต่อคน”

วันที่ 17 กันยายน 2563 บริษัท หลักทรัพย์ ฟิลลิป (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) รายงานแนวโน้มตลาดหุ้นไทยเช้าวันพฤหัสบดี ว่า ตลาดหุ้นวันนี้ ลุ้นกลับไป 1,300 จุด หลังจากดัชนี SET INDEX ใน 2 วันทำการที่ผ่านมา พยายามกลับตัวขึ้นมาใกล้แนวต้านที่ 1,300 จุด ได้ปัจจัยหนุนอ่อนๆ จากมาตรการภาครัฐด้านการท่องเที่ยวที่ให้เปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติแบบ STV

เมื่อวานนี้ (16 กันยายน 2563) ทางรัฐบาลโดย ศบศ. ได้อนุมัติมาตรการกระตุ้นการบริโภคในประเทศผ่านการเพิ่มวงเงินบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ 500 บาท เป็นระะวลา 3 เดือน และโครงการคนละครึ่ง วงเงินไม่เกิน 3,000 บาทต่อคน ประกอบกับผลการประชุมธนาคารกลางสหรัฐ (Fed) ที่ยังคงดอกเบี้ยต่ำไว้ในระยะยาว และหนุนใช้มาตรการเป้าหมายเงินเฟื้อเฉลี่ย จึงคาดเช้านี้ตลาดชหุ้นไทยมีลุ้นกลับไปทดสอบ 1,300 จุด ในกรอบระหว่าง 1,285-1,305 จุด

สำหรับผลการประชุม Fed ที่ประชุมมีมติให้คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ 0.00-0.25% ต่อปีตามเดิม และจะยังไม่ปรับขึ้นจนกว่าจะปี 2566 เช่นเดียวกันกับเป้าหมายเงินเฟ้อระยะยาวที่จะไม่เกิน 2% ส่วนมุมมองเศรษฐกิจ Fed คาดว่าเศรษฐกิจสหรัฐในปีนี้จะหดตัวลง -3.7% ในปีนี้ (เดิมคาดการณ์ -6.5%)

ด้านองค์การเพื่อความร่วมมือและการพัฒนาทางเศรษฐกิจ (OECD) ปรับคาดการณ์การเติบโตของเศรษฐกิจโลกในปี 2563 จากเดิมหดตัว -6.0% ขึ้นมาเป็น -4.5% และคาดการณ์ปีหน้าเศรษฐกิจโลกกลับมาขยายตัว 5% ด้วยตัวเลขเศรษฐกิจทั้งในสหรัฐและจีนกลับมาฟื้นตัวอีกครั้งและอยู่บนสมมติฐานว่าการแพรระบาดของไวรัส COVID-19 จะไม่รุนแรงถึงขั้นต้อง Lockdown อีกรอบ นับว่าเป็นสัญญาณดีต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจและสะท้อนว่าการอัดฉีดสภาพคล่องของแต่ละธนาคารกลางได้ผลดี

ส่วนประเด็น Tech War ส่อวุ่นอีก หลัง “ทรัมป์” เปิดเผยว่าเขาไม่พอใจกับข้อตกลงระหว่าง ByteDance กับ Oracle เรื่องการให้บริการแอปพลิเคชั่น Tik Tok ในสหรัฐ เพราะต้องการให้บริษัทสหรัฐครอบครอง 100% มากกว่า โดยอ้างเหตุภัยของความมั่นคง จึงมีโอกาสสูงที่สหรัฐจะยังไม่ปลดแบนแอปฯ TikTok ส่งผลลบต่อความสัมพันธ์สหรัฐจีน