เปิดเงื่อนไขโครงการ “คนละครึ่ง” รับ 3,000 บาท 1 สิทธิ์ 10 ล้านคน ร้านค้าเริ่มลงทะเบียนต้นเดือนตุลาคม ประชาชนลงทะเบียนกลางเดือนตุลาคม เริ่มใช้จ่ายพฤศจิกายน-ธันวาคม
ภายหลังจากวานนี้ (16 ก.ย.) คณะกรรมการศูนย์บริหารสถานการณ์เศรษฐกิจจากผลกระทบการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือ ศบศ. ได้เห็นชอบมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ “โครงการคนละครึ่ง” (Co-pay) คนละ 3,000 บาทต่อ 1 สิทธิ์
- ประกาศแล้ว! พระราชกฤษฎีกาเงินช่วยค่าครองชีพผู้รับเบี้ยหวัดบำนาญ รับ 11,000 บาทต่อเดือน
- เปิดไทม์ไลน์ลูกค้าซิตี้แบงก์ต้องรู้! ก่อนโอนย้ายบัญชีมาเป็น “ยูโอบี” 21 เม.ย.นี้
- ออมสิน เปิดให้กู้สินเชื่อรีไฟแนนซ์ ลดดอกเบี้ย 4 กลุ่ม เช็กเลย !
โครงการดังกล่าว กำหนดกลุ่มเป้าหมายจำนวน 10 ล้านคน งบประมาณที่ต้องใช้รวม 30,000 ล้านบาท ใช้จ่ายผ่านแอปพลิเคชั่นเป๋าตังค์ โดยมีข้อกำหนดว่า เงินส่วนนี้ไม่สามารถใช้ได้กับการซื้อลอตเตอรี่ เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ยาสูบ และการบริการ สำหรับเงื่อนไขการรับสิทธิ์ มีดังนี้
วันที่ลงทะเบียนสำหรับร้านค้า
วันที่ 1 ตุลาคม 2563
วันที่ลงทะเบียนสำหรับประชาชน
16 ตุลาคม 2563
ระยะเวลาของโครงการ
ปลายเดือนตุลาคม – ธันวาคม 2563
คุณสมบัติผู้ที่ลงทะเบียน
- อายุ 18 ปีขึ้นไป
- สัญชาติไทย
- 10 ล้านคน
ช่องทางการลงทะเบียน
www.คนละครึ่ง.com
วิธีการใช้สิทธิ์
รัฐจะจ่ายเงินให้ 50% ของมูลค่าสินค้า ไม่เกิน 100 บาท/คน/วัน แต่ละคนจะได้รับเงิน 3,000 บาท ทั้งหมดยกตัวอย่างเช่น หากต้องการซื้อของมูลค่า 200 บาท เมื่อใช้จ่ายผ่านโครงการคนละครึ่ง จะจ่ายเงินแค่ 100 บาทเท่านั้น แต่ในวันเดียวกันนั้น ต้องการซื้อของอีกชิ้นมูลค่า 200 บาท ผู้ซื้อจะต้องต้องออกเงินเต็มจำนวน เนื่องจากเกินลิมิตที่จำกัดไว้ที่ 100 บาท/คน/วัน
การใช้จ่าย
- ผ่านแอปกระเป๋าตัง (วิธีโหลดแอป “เป๋าตัง” สำหรับรับเงิน “คนละครึ่ง” 3 พันบาท)
- ต้องนำเงินที่ได้ไปใช้ในร้านค้ารายย่อยที่ขึ้นทะเบียน “ถุงเงิน” ไว้กับธนาคารกรุงไทย
ช่องทางที่สามารถใช้สิทธิ์ได้
- ร้านอาหาร
- เครื่องดื่มทั่วไป
- ร้านแผงลอย
- โชห่วย
- ไม่รวมร้านค้าที่จดทะเบียนนิติบุคคล ไม่ใช่ร้านสะดวกซื้อ ไม่ใช่ร้านเฟรนไชส์ เช่น เซเว่น-อีเลฟเว่น
ทั้งนี้ แนวทางดังกล่าวจะนำเข้าสู่ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี ในวันอังคารหน้าที่ 22 กันยายน 2563