“กรุงศรี” ย้ำความเป็นผู้นำในตลาดลูกค้าบริษัทญี่ปุ่น ตั้งเป้าสู่การเป็นธนาคารอันดับหนึ่งของกลุ่มลูกค้าบริษัทข้ามชาติ ประกาศความพร้อมสนับสนุนบริษัทญี่ปุ่นและบริษัทข้ามชาติที่มองหาโอกาสทางธุรกิจในประเทศไทย ลั่นหนุนธุรกิจลงทุนใน EEC ในช่วง 2-3 ปีข้างหน้านี้
วันที่ 17 กันยายน 2563 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายโยชิยูกิ โฮริโอะ ประธานกลุ่มธุรกิจธนกิจพาณิชย์เกี่ยวกับญี่ปุ่น (JPC/MNC Banking) ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) ในเครือมิตซูบิชิ ยูเอฟเจ ไฟแนนเชียล กรุ๊ป (MUFG) สถาบันการเงินที่ใหญ่ที่สุดของญี่ปุ่น กล่าวว่า การดำเนินงานของกลุ่มธุรกิจ JPC/MNC บนเส้นทางสู่การเป็นพันธมิตรธุรกิจที่ได้รับความไว้วางใจจากลูกค้า ได้รับการพิสูจน์แล้วว่า ประสบความสำเร็จเป็นอย่างดี จากความมุ่งมั่นทุ่มเทเพื่อสนับสนุนลูกค้าให้เติบโตอย่างยั่งยืน
- ประกาศแล้ว! พระราชกฤษฎีกาเงินช่วยค่าครองชีพผู้รับเบี้ยหวัดบำนาญ รับ 11,000 บาทต่อเดือน
- บังคับใช้แล้ว! หลักเกณฑ์การดำเนินงาน 30 บาทรักษาทุกที่ ด้วยบัตรประชาชนใบเดียว
- กีรติ รัชโน ปลัดกระทรวงพาณิชย์ เสียชีวิต อายุ 56 ปี
ทั้งนี้ จากความเข้าใจในลูกค้าอย่างลึกซึ้งและการวิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึก ทำให้กลุ่ม JPC/MNC ไม่เพียงนำเสนอผลิตภัณฑ์และบริการทางการเงินที่มีคุณค่าที่ตอบสนองความต้องการและตอบโจทย์ตลอดจนแก้ปัญหาทางธุรกิจให้กับลูกค้าได้อย่างครบวงจร แต่ยังสามารถให้บริการคำปรึกษาที่จะช่วยให้ลูกค้าสามารถคว้าโอกาสทางธุรกิจและขับเคลื่อนความเติบโตอย่างยั่งยืนทั้งในประเทศและในระดับภูมิภาค
นายโยชิยูกิ กล่าวต่อว่า เพื่อยกระดับความเป็นผู้นำตลาด กลุ่มธุรกิจ JPC/MNC ของกรุงศรีได้ริเริ่มโครงการส่งเสริมธุรกิจทั้งในส่วนที่เกี่ยวข้องกับด้านสินทรัพย์และด้านหนี้สิน (Assets and Liabilities) ตลอดจนส่งเสริมโอกาสในการทำธุรกรรมด้านตราสารอนุพันธ์และการปริวรรตเงินตรา รวมทั้งด้านธุรกรรมการค้าและธุรกรรมการเงิน โดยมุ่งเน้นการเสริมสร้างความสัมพันธ์ที่แข็งแกร่งกับลูกค้าอย่างต่อเนื่อง เพื่อที่จะเป็นธนาคารผู้ให้บริการหลักของลูกค้า
ในขณะเดียวกันเรามีการทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิดระหว่างกลุ่มธุรกิจต่างๆ ของกรุงศรี ตลอดจนใช้ประโยชน์จากการผสานพลังศักยภาพกับ MUFG และธนาคารพันธมิตรในภูมิภาค โดยมุ่งเน้นการดำเนินงานที่เป็นเลิศ การนำข้อมูลมาใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด และการพัฒนาศักยภาพบุคลากร
การแพร่ระบาดของโควิด-19 นั้นได้ทำให้เกิดผลกระทบในวงกว้างท่ามกลางสถานการณ์ที่ท้าทายในการดำเนินธุรกิจอย่างที่ไม่เคยปรากฎมาก่อน กลุ่มธุรกิจ JPC / MNC ได้ยืนหยัดอยู่เคียงข้างลูกค้าตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาเพื่อให้มั่นใจว่าลูกค้าสามารถดำเนินธุรกิจได้อย่างต่อเนื่อง ด้วยการออกมาตรการให้ความช่วยเหลือหลากหลาย
อาทิ การให้วงเงินสินเชื่อเพิ่มเติมเพื่อเป็นเงินทุนหมุนเวียนและเสริมสภาพคล่องให้กับลูกค้า รวมทั้งการให้ข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับแนวโน้มตลาดและทิศทางอุตสาหกรรมต่างๆ ผ่านการจัดงานสัมมนาออนไลน์ และการสร้างโอกาสการเติบโตใหม่ๆ ให้กับลูกค้าผ่านการจัดกิจกรรมการเจรจาจับคู่ธุรกิจ
จากข้อมูลของสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (BOI) ที่เปิดเผยเมื่อเร็ว ๆ นี้ จำนวนโครงการลงทุนที่ยื่นขอรับการส่งเสริมการลงทุนและขอรับสิทธิประโยชน์จาก BOI ในช่วงครึ่งแรกของปี 2563 มีจำนวน 754 โครงการ เพิ่มขึ้นถึง 7% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน
ทั้งนี้ ประเทศไทยซึ่งเป็นฐานการผลิตที่สำคัญของการลงทุนของญี่ปุ่น โดยเฉพาะในอุตสาหกรรมยานยนต์ ยังคงเป็นหนึ่งในประเทศเป้าหมายการลงทุนที่สำคัญของนักลงทุนญี่ปุ่น ซึ่งยังคงครองอันดับหนึ่งในแง่ของจำนวนเงินลงทุนที่ยื่นขอสิทธิประโยชน์จาก BOI ในช่วงครึ่งแรกของปี 2563
“เพื่อเป็นการสนับสนุนการลงทุนจากต่างประเทศในประเทศไทย เราจะเน้นพัฒนาธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับโครงการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EEC) ซึ่งจะเป็นปัจจัยขับเคลื่อนสำคัญในการสร้างความเติบโตของกลุ่มธุรกิจ JPC/MNC ตลอดระยะเวลา 2-3 ปีข้างหน้านี้” นายโฮริโอะกล่าว