หุ้น-การเงิน

หุ้นไทยผันผวนสูง ระวังแรงเทขาย หวั่นเกณฑ์ “ชอร์ตเซลล์ปกติ” ซ้ำเติมตลาด

เล่นหุ้น

ตลาดหุ้นไทยเช้านี้คาดผันผวนสูงในกรอบ 1,225-1,245 จุด ท่ามกลางวอลุ่มซื้อขายเบาบางจากการหยุดทำการของหลายตลาดในภูมิภาค หวั่นตลาดหลักทรัพย์กลับไปใช้เกณฑ์ Ceilng-Floor และ Short Sell ตามปกติ จะซ้ำเติมตลาดหากปัจจัยแวดล้อมมีพัฒนาการที่ย่ำแย่ลง

วันนี้ (1 ต.ค.63) บริษัท หลักทรัพย์ ฟิลลิป (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) รายงานแนวโน้มตลาดหุ้นไทยวันพฤหัสบดีว่า ระวังแรงเทขาย คาด SET INDEX มีความผันผวนสูงในกรอบระหว่าง 1,225-1,245 จุด ท่ามกลางวอลุ่มการซื้อขายที่จะเบาบางลงจากการหยุดทำการของหลายตลาดในภูมิภาค นำโดยจีน, ฮ่องกง, เกาหลีใต้ และไต้หวัน ทั้งนี้จีนจะหยุดยาวเนื่องในวันชาติจนถึงวันที่ 7 ต.ค.63 ขณะที่ประเด็นภายในเกี่ยวกับการที่ตลาดหลักทรัพย์กลับไปใช้เกณฑ์ Ceilng-Floor และ Short Sell ตามปกติ จะซ้ำเติมตลาดหากปัจจัยแวดล้อมมีพัฒนาการที่ย่ำแย่ลง โดยทางฝ่ายให้น้ำหนักกับประเด็นการเมืองทั้งในและนอกประเทศ รวมถึงทิศทางเศรษฐกิจเป็นสำคัญ

วานนี้แบงก์ชาติเผยมุมมองเศรษฐกิจช่วงไตรมาส 3 และ 4 ของปีนี้ยังคงหดตัว 8.5% และจะติดลบไปจนถึงไตรมาส 1 ของปีหน้า ก่อนที่ในไตรมาส 2 จะพลิกกลับมาเป็นบวกครั้งแรก ห่วงการไม่มีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังทำให้หลายโครงการถูกชะลอออกไป ส่วนโครงการเปิดรับนักท่องเที่ยว

ต่างชาติกลุ่ม Long Stay หรือ Special Tourist Visa (STV) นั้นจะยังไม่ส่งผลในปีนี้ เพราะรับนักท่องเที่ยวเข้ามาได้เพียง 1,200 คนต่อเดือน เทียบกับสถานการณ์ปกติที่รับเดือนละ 3 ล้านคน การใช้จ่ายจึงน้อยมาก

ส่วนประเด็นแก้รัฐธรรมนูญยังไม่คืบ แต่วานนี้มีกระแสข่าวว่านายกรัฐมนตรีไฟเขียวให้ทางพรรคร่วมรัฐบาลเห็นชอบกับการแก้ไขรัฐธรรนูญให้ตั้ง ส.ส.ร. จากร่างของฝ่ายรัฐบาล 1 ฉบับ และฝ่ายค้าน 1 ฉบับ ล่าสุดทาง ส.ว. เผยเป็นท่าที่ของนายกฯ กับพรรคร่วมรัฐบาล จุดยืนของวุฒิสภายังเหมือนเดิมคือไม่เห็นด้วยกับการแก้มาตรา 256

ลุ้นมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจสหรัฐ ทางนายสตีเวน มนูชิน รมว.คลัง และนางแนนซี่ เพโลซี ประธานสภาผู้แทนราษฎรของสหรัฐ ยังไม่สามารถได้ข้อสรุปการเจรจาเรื่องมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจและเยียวยาผลกระทบจาก COVID- 19 ที่ล่าสุดทางเดโมแครตเสนอวงเงิน 2.2 ล้านล้านดอลลาร์ แต่ยังคงจะดำเนินการเจรจากันต่อไป และหวังบรรลุก่อนเลือกตั้งใหญ่สหรัฐ

ล่าสุดมีรายงานว่า ตลาดหุ้นญี่ปุ่น (JPX) ประกาศระงับการซื้อขายหลักทรัพย์ทั้งหมดในช่วงเช้านี้ เนื่องจากพบปัญหาเกี่ยวกับระบบเครือข่าย และขณะนี้ยังไม่สามารถระบุได้ว่า ทางตลาดจะสามารถแก้ปัญหาดังกล่าวได้เมื่อใด