ค่าเงินดอลลาร์อ่อนค่า หลังทรัมป์ออกจาก รพ.

หุ้น-ดอลลาร์ สหรัฐ

ฝ่ายค้าเงินตราต่างประเทศ ธนาคารกรุงเทพ รายงานว่า ภาวะการเคลื่อนไหวตลาดปริวรรตเงินตราปะจำวันจันทร์ที่ 5 ตุลาคม 2563 ค่าเงินบาทเปิดตลาดเช้าวันนี้ (5/10) ที่ระดับ 31.53/54 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ แข็งค่าจากระดับปิดตลาดในวันศุกร์ (2/10) ที่ระดับ 31.59/60 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ

ดัชนีดอลลาร์อ่อนค่าลง หลังจากแพทย์ประจำทำเนียบขาวได้แถลงว่าประธานาธิบดี ทรัมป์มีอาการดีขึ้นและสามารถออกจากโรงพยาบาลได้ในวันนี้

ด้านการเปิดเผยตัวเลขทางเศรษฐกิจในคืนวันศุกร์ที่ผ่านมา (2/10) ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรปรับเพิ่มขึ้น 661,000 ตำแหน่งในเดือน ก.ย. ซึ่งต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 850,000 ตำแหน่ง ในขณะที่อัตราการว่างงานลดลงสู่ระดับ 7.9% ในเดือน ก.ย. ต่ำกว่าที่คาดการณ์ที่ระดับ 8.2% และลดลงจากเดือนก่อนหน้า (ส.ค.) ที่ระดับ 8.4%

ในส่วนของผลตอบรับการโต้วาทีรอบแรกระหว่างประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ จากพรรครีพับลิกัน และนายโจ ไบเดน จากพรรคเดโมแครต โพลในหลายสำนักชี้ ไบเดนคะแนนนิยมนำ แต่เปอร์เซ็นต์ยังทิ้งห่างไม่มากพอที่จะชี้วัดว่าใครจะได้เป็นผู้นำคนต่อไป

อย่างไรก็ดี นักลงทุนรอดูการโต้วาทีระหว่างผู้สมัครชิงตำแหน่งรองประธานาธิบดีสหรัฐในวันพุธที่ 7 ต.ค. ทั้งนี้นักลงทุนคาดว่ามีความเป็นไปได้น้อยที่สภาคองเกรสของสหรัฐจะออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจชุดใหม่ได้ทันก่อนการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐในวันที่ 3 พ.ย.

สำหรับปัจจัยภายในประเทศมีการประกาศแต่งตั้ง นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังคนใหม่ แทนายปรีดี ดาวฉาย ที่ได้มีการประกาศลาออกจากตำแหน่งไปเมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมา ด้าน ครม.อนุมัติรับนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้าไทย โดยจะเริ่มกลุ่มแรกในวันที่ 8 ต.ค.นี้

ทั้งนี้ระหว่างวันค่าเงินบาทเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบระหว่าง 31.40-31.55 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ ก่อนปิดตลาดที่ระดับ 31.40/41 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ

สำหรับการเคลื่อนไหวของค่าเงินยูโรเปิดตลาดเช้าวันนี้ (5/10) ที่ระดับ 1.1710/13 ดอลลาร์สหรัฐ/ยูโร ทรงตัวจากระดับปิดตลาดเมื่อวันศุกร์ (2/10) ที่ระดับ 1.716/18 ดอลลาร์สหรัฐ/ยูโร โดยระหว่างวันค่าเงินยูโรปรับตัวแข็งค่าขึ้นตามการแข็งค่าขึ้นของค่าปอนด์ ในขณที่นักลงทุนรอดูการเจรจาต่อรองรอบสุดท้ายเรื่องข้อตกลงทางการค้าระหว่างอังกฤษกับสหภาพยุโรป (อียู) ก่อนที่ช่วงเวลาเปลี่ยนผ่านหลัง Brexit จะสิ้นสุดลงในช่วงสิ้นเดือน ธ.ค.

ทั้งนี้นายกรัฐมนตรีบอริส จอห์นสันของอังกฤษ กับนางเออร์ซูลา ฟอน เดอ เลเยน ประธานคณะกรรมาธิการยุโรป (อีซี) ได้ตกลงกันทางโทรศัพท์ในวันเสาร์ว่า จะมีการเร่งรัดการเจรจาต่อรองเรื่องข้อตกลงหลัง Brexit

อย่างไรก็ดี นายจอห์นสันกล่าวในวันอาทิตย์ว่า ถึงแม้เขาไม่ต้องการให้ช่วงเวลาเปลี่ยนผ่านสิ้นสุดลง โดยไม่มีการบรรลุข้อตกลงการค้าใหม่ เขาก็เชื่อว่าอังกฤษสามารถยอมรับผลแบบนั้นได้ ทั้งนี้ระหว่างวันค่าเงินยูโรเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบระหว่าง 1.1707-1.1746 ดอลลาร์สหรัฐ/ยูโร และปิดตลาดที่ระดับ 1.2750/51 ดอลลาร์สหรัฐ/ยูโร

สำหรับการเคลื่อนไหวของค่าเงินเยน ค่าเงินเยนเปิดตลาดเช้าวันนี้ (1/10) ที่ระดับ 105.32/34 เยน/ดอลลาร์สหรัฐ อ่อนค่าลงเล็กน้อยจากระดับปิดตลาดเมื่อวันศุกร์ (2/10) ที่ระดับ 105.28/29 เยน/ดอลลาร์สหรัฐ ในวันนี้ตลาดหุ้นญี่ปุ่นได้จัดแถลงข่าวในเวลา 16.00 น. ตามเวลาไทย เพื่อชี้แจงเกี่ยวกับการตรวจสอบปัญหาระบบเครือข่ายล่มเมื่อวันพฤหัสบดีที่ 1 ต.ค. โดยได้ดำเนินการตรวจสอบร่วมกับบริษัทฟูจิตสึ ซึ่งเป็นผู้พัฒนาระบบการซื้อขายของตลาดญี่ปุ่น ซึ่งตลาดหุ้นได้กลับมาดำเนินการซื้อขายตามปกติแล้วตั้งแต่วันศุกร์ที่ 2 ต.ค.

ทั้งนี้ระหว่างวันค่าเงินเยนเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบระหว่าง 105.28-105.68 เยน/ดอลลาร์สหรัฐ และปิดตลาดที่ระดับ 105.66/68 เยน/ดอลลาร์สหรัฐ

ดัชนีสำคัญทางเศรษฐกิจในสัปดาห์นี้้ ได้แก่ ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) และดัชนีภาคบริการเดือน ก.ย. จากสถาบัน ISM (5/10), ธนาคารกลางออสเตรเลียจะจัดการประชุมกำหนดนโยบายและดุลการค้าสหรัฐเดือน ส.ค. (6/10), ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคของไทยเดือน ก.ย. และธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะเปิดเผยรายงานการประชุม กำหนดนโยบายประจำวันที่ 15-16 ก.ย. (8/10), จำนวนผุ้ขอรับสวัสดิการการว่างงานรายสัปดาห์ (8/10), GDP และดัชนีผลผลิตภาคอุตสาหกรรมของอังกฤษ (9/10)

สำหรับอัตราป้องกันความเสี่ยง (Swap point) ภาคเช้า 1 เดือนในประเทศอยู่ที่ +0.20/+0.35 สตางค์/ดอลลาร์สหรัฐและอัตราป้องกันความเสี่ยงภาคเช้า 1 เดือนต่างประเทศอยู่ที่ 14.6/+6.20 สตางค์/ดอลลาร์สหรัฐ