ด่วน! ธปท.ต่อเวลาซอฟต์โลนอีก 6 เดือน พร้อมขยายขอบเขตปล่อยกู้ผู้ประกอบการในตลาด MAI มีผลวันนี้
ผู้ว่าการธปท.เซ็นออกประกาศต่อเวลาปล่อยกู้ซอฟต์โลนตาม พ.ร.ก.กู้เงิน อีก 6 เดือน พร้อมเปิดทางผู้ประกอบการในตลาด MAI เข้าถึงเงินกู้ได้ ชี้ ผลกระทบโควิด-19 กระทบรุนแรงลากยาว ร่อนประกาศให้ธนาคารพาณิชย์-แบงก์รัฐ มีผลตั้งแต่ 19 ต.ค.63 เป็นต้นไป
- ร้านธงฟ้า 1.4 แสนแห่ง พร้อมรับดิจิทัลวอลเลต เช็กจังหวัดไหนร้านธงฟ้ามาก-น้อยสุด
- นักท่องเที่ยวเข้าต่ำแสน หวั่นโลว์ซีซั่นทรุดหนัก ททท.ชี้กระทบสั้นยอดบุ๊กกิ้งแอร์ไลน์แน่น
- เปิด 10 อันดับมหาวิทยาลัยรัฐ-ราชภัฏ-เอกชน ที่ได้รับความนิยมมากสุด
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) โดยนายเศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ได้ลงนามประกาศธปท. เรื่อง การให้ความช่วยเหลือทางการเงินแก่ผู้ประกอบการวิสาหกิจ ที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ฉบับที่ 2) ลงวันที่ 16 ตุลาคม 2563
ซึ่งออกโดยอาศัยอำนาจพระราชกำหนดการให้ความช่วยเหลือทางการเงิน แก่ผู้ประกอบวิสาหกิจที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 โดยได้ส่งประกาศฉบับนี้ให้แก้ธนาคารพาณิชย์ตามกฎหมายว่าด้วยธุรกิจสถาบันการเงินทุกแห่ง และสถาบันการเงินเฉพาะกิจทุกแห่ง (SFIs) โดยประกาศนี้ใช้บังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 19 ตุลาคม 2563 เป็นต้นไป
สำหรับสาระสำคัญของประกาศฉบับนี้ คือ 1.ขยายเวลาให้สถาบันการเงินยื่นคำขอกู้ยืมเงินต่อธนาคารแห่งประเทศไทยออกไปอีกเป็นระยะเวลา 6 เดือน นับตั้งแต่วันที่ประกาศมีผลใช้บังคับ และ 2.ขยายคุณสมบัติของผู้ประกอบวิสาหกิจที่ได้รับสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ (ซอฟต์โลน) ให้ครอบคลุมถึงบริษัทที่มีหลักทรัพย์จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (MAI)
ทั้งนี้ เหตุผลในการออกประกาศ เนื่องจากสถานการณ์การระบาดในประเทศและในต่างประเทศทั่วโลกยังคงมีความรุนแรง และมีแนวโน้มยืดเยื้อต่อไปโดยมิอาจคาดการณ์ได้ จนส่งผลกระทบต่อการค้า การส่งออก การท่องเที่ยว และเศรษฐกิจในประเทศอย่างรุนแรงและต่อเนื่องยาวนานมากขึ้นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ จึงมีผลกระทบต่อผู้ประกอบวิสาหกิจในวงกว้างและยืดเยื้อต่อไปอีกระยะหนึ่ง
ธปท.จึงเห็นสมควรขยายระยะเวลาให้สถาบันการเงินยื่นคำขอกู้ยืมเงินจาก ธปท. ตามพระราชกำหนด (พ.ร.ก.) ข้างต้นออกไปอีก 6 เดือน
พร้อมทั้งปรับปรุงหลักเกณฑ์การให้ความช่วยเหลือทางการเงินแก่ผู้ประกอบการวิสาหกิจที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ให้ครอบคลุมลูกหนี้ที่ยังไม่ได้รับความช่วยเหลือมากขึ้น