ธปท. ลั่นโควิดดันหนี้ครัวเรือนพุ่ง ชี้คนไทย 1 ใน 3 มีหนี้สูงฉุดรั้งเศรษฐกิจ

ธปท. รับโควิดซ้ำเติมหนี้ครัวเรือนเพิ่ม หลังตัวเลขไตรมาสที่ 2 อยู่ที่ 83.8% จากสิ้นปี 62 อยู่ที่ 80% ชี้คนไทย 1 ใน 3 มีหนี้สูง ย้ำเร่งสร้างภูมิคุ้มกันทางการเงิน

นายเศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) กล่าวในงาน “มหกรรมการเงินครั้งที่ 20” ว่า การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในช่วงต้นปีนี้ ได้ซ้ำเติมความเปราะบางทางเศรษฐกิจของประเทศไทย และมีผลกระทบโดยเฉพาะต่อรายย่อย ทำให้ครัวเรือนประสบปัญหาการขาดรายได้ ความสามารถในการชำระหนี้ลดลง

ยิ่งไปกว่านั้น สถานการณ์โควิด-19 ยังมีความไม่แน่นอนสูงว่าจะจบลงอย่างไรและเมื่อใด โดยการฟื้นตัวของเศรษฐกิจจะใช้เวลาไม่น้อยกว่า 2 ปี ในการกลับสู่ระดับก่อนโควิด-19 ความไม่แน่นอนนี้จะยิ่งซ้ำเติมปัญหาหนี้ครัวเรือน ที่เป็นปัญหาเชิงโครงสร้างต่อการพัฒนาเศรษฐกิจไทยในหลายปีที่ผ่านมา 1 ใน 3 ของคนไทยในปัจจุบัน มีภาระหนี้สูง จนกลายเป็นปัจจัยฉุดรั้งการอุปโภคบริโภคและการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ โดยการศึกษาของธนาคารแห่งประเทศไทยและสถาบันวิจัยเศรษฐกิจ ป๋วย อึ๊งภากรณ์ ล่าสุดพบว่า

เศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ
เศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ

 

– คนไทยเป็นหนี้เร็ว เริ่มเป็นหนี้ตั้งแต่อายุยังน้อย โดยกว่าครึ่งหนึ่งของคนอายุ 30-40 ปี เป็นหนี้ โดยส่วนมากเกิดจากหนี้ส่วนบุคคลหรือหนี้บัตรเครดิต

– นอกจากนี้ คนไทยเป็นหนี้นาน โดยร้อยละ 80 ของหนี้ครัวเรือนที่สูงขึ้นในระยะเวลา 9 ปี มาจากผู้กู้รายเดิม และ 1 ใน 5 ของคนหลังเกษียณยังเป็นหนี้ โดยคนช่วงอายุ 61-65 ปี มีหนี้เฉลี่ยสูงกว่าแสนบาท

สถานการณ์โควิด-19 ทำให้สุขภาพการเงินของคนไทยอ่อนแอมากขึ้น จากการถูกลดชั่วโมงการทำงานจนถึงการถูกเลิกจ้าง ทำให้ขาดสภาพคล่องของรายได้หนี้ครัวเรือนเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว จากประมาณร้อยละ 80 ต่อ GDP เมื่อสิ้นปี 2562 มาอยู่ที่ร้อยละ 83.8 ต่อ GDP ในไตรมาส 2 ของปีนี้ และมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น

ธนาคารแห่งประเทศไทยจึงได้ร่วมมือกับสถาบันการเงินดำเนินมาตรการให้ความช่วยเหลือบรรเทาผลกระทบ เพื่อให้ภาคครัวเรือนสามารถผ่านพ้นวิกฤตโควิด-19 ไปได้ ซึ่งพิจารณาตามสถานะของลูกหนี้ที่แตกต่างกันโดย

– สำหรับลูกหนี้ที่มีปัญหาระยะสั้นที่ต้องการสภาพคล่องเป็นการชั่วคราว มาตรการที่เหมาะสมกับลูกหนี้กลุ่มนี้ มีการพักชำระเงินต้นและดอกเบี้ย 3 เดือน สำหรับสินเชื่อส่วนบุคคลที่ผ่อนชำระเป็นงวด และการลดอัตราการผ่อนชำระขั้นต่ำจาก 10% เหลือ 5% สำหรับสินเชื่อบัตรเครดิตและสินเชื่อส่วนบุคคลที่มีวงเงินหมุนเวียน

– สำหรับลูกหนี้ที่ได้รับผลกระทบระยะยาว ธนาคารแห่งประเทศไทยส่งเสริมให้เกิดการปรับโครงสร้างหนี้ เปลี่ยนสินเชื่อส่วนบุคคลซึ่งเป็นสินเชื่อระยะสั้นเป็นสินเชื่อระยะยาว (term loan) รวมถึงโครงการคลินิกแก้หนี้ เพื่อเป็นการแก้ปัญหาระยะยาว ช่วยบรรเทาภาระหนี้ให้แก่กลุ่มครัวเรือนที่รายได้ลดลงเมื่อกลับมาทำงานภายหลังการผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์

“การแก้ไขปัญหาหนี้ครัวเรือนอย่างยั่งยืนจำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องสร้างภูมิคุ้มกันทางการเงินที่แข็งแกร่ง ผ่านการเสริมสร้างความรู้ทางการเงินควบคู่กับการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการออมและการใช้จ่ายของภาคครัวเรือน เพื่อเป็นรากฐานทางการเงินที่มั่นคง สอดคล้องกับแนวคิด Wealth Being ของ Money Expo ในปีนี้


ผมจึงหวังว่า ทุกท่านจะได้ใช้โอกาสที่มาเข้าร่วมงาน Money Expo ครั้งนี้ ในการสร้างความมั่นคงทางการเงินผ่านการออมและการลงทุน และขอขอบคุณภาคการเงินที่ได้เป็นส่วนหนึ่งในการให้ความช่วยเหลือธุรกิจและภาคครัวเรือนให้ผ่านพ้นช่วงวิกฤต ตลอดจนสนับสนุนการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการออมของภาคครัวเรือน โดยนำเสนอผลิตภัณฑ์ทางการเงินที่เหมาะสมกับความต้องการของแต่ละบุคคล”