หุ้น-การเงิน

“ขุนคลัง” สั่ง “สรรพสามิต” ศึกษาเก็บภาษีเครื่องใช้ไฟฟ้าเบอร์ 5

แฟ้มภาพเครื่องใช้ไฟฟ้า

รมว.คลัง สั่ง กรมสรรพสามิต ศึกษาจัดเก็บภาษีเครื่องใช้ไฟฟ้าเบอร์ 5 ตอบโจทย์วัตถุประสงค์รัฐ “เป็นมิตรสิ่งแวดล้อม” เผยเกณฑ์ปัจจุบัน “เบอร์ 5 ระดับ 1-3 ดาว” ยังน้อยมีไม่ถึง 10% “อธิบดีกรมสรรพสามิต” ชี้ต้องใช้เวลาอีกพักใหญ่ ดูไทม์มิ่ง ไม่อยากให้กระทบการฟื้นตัวของภาคเศรษฐกิจ

นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า ได้มอบนโยบายกรมสรรพสามิตไปศึกษาเพื่อกำหนดเกณฑ์การลดใช้พลังงาน ของสินค้าประเภท “เครื่องใช้ไฟฟ้า” ที่ต้องเสียภาษีสรรพสามิต ตามวัตถุประสงค์และนโยบายของรัฐบาลที่มุ่งเน้นการสร้างสิ่งแวดล้อมที่เป็นมิตร ช่วยลดภาวะโลกร้อนโดยหากทำได้ถึงมาตรฐานขั้นสูงที่กรมฯ กำหนดก็อาจจะลดภาษีให้ แต่ถ้าสินค้าเหล่านั้นไม่ถึงเกณฑ์ต่อไปอาจจะต้องจัดเก็บภาษี ทั้งนี้ทั้งนั้นขณะนี้ยังอยู่ในระหว่างการศึกษาเท่านั้น หากมีผลบังคับไปแล้วก็ต้องมีเวลาให้ภาคธุรกิจปรับตัวอยู่แล้ว

นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ.

“ปัจจุบันเครื่องใช้ไฟฟ้าไม่ได้เก็บภาษี แต่อยู่ในขอบเขตที่จัดเก็บได้ แต่เราต้องการช่วยประหยัดพลังงานไฟฟ้ามากขึ้น ซึ่งก็จะช่วยให้สิ่งแวดล้อมดีขึ้นด้วย ดังนั้นถ้าเราเพิ่มเกณฑ์ที่สูงขึ้น เช่น (ประหยัดไฟเบอร์ 5 พลัส) ถ้าใครทำได้ต่ำกว่าเกณฑ์ก็ต้องเสียภาษี ยกตัวสินค้าเหล่านี้ เช่น แอร์, ตู้เย็น เป็นต้น ทั้งนี้อย่าพึ่งตกใจ เพราะเรื่องนี้เป็นสิ่งที่ดีในการช่วยส่งเสริมสิ่งแวดล้อม” นายอาคมกล่าว

นายลวรณ แสงสนิท อธิบดีกรมสรรพสามิต กล่าวว่า ปัจจุบันนี้มาตรฐานในการประหยัดพลังงานเปลี่ยนไปแล้ว ประหยัดไฟเบอร์ใช้มาเป็น 10 กว่าปีแล้ว ขณะนี้เกณฑ์สูงขึ้นมีเกณฑ์ประหยัดไฟเบอร์ 5 ระดับ 1 ดาว, 2 ดาว, 3 ดาว เพราะฉะนั้นเกณฑ์การประหยัดพลังงานที่แท้จริงในปัจจุบันคือเกณฑ์ที่ควรจะได้รับการส่งเสริมและสนับสนุน

ดังนั้นใครที่ยังไม่ถึงเกณฑ์การประหยัดพลังงานก็จะมาพิจารณาเพื่อให้ส่งเสริมทำเรื่องเหล่านี้ โดยข้อมูลของกรมฯ พบว่า ขณะนี้เครื่องใช้ไฟฟ้าประหยัดไฟเบอร์ 5 ระดับ 3 ดาว มีสัดส่วนน้อยมากไม่ถึง 10% ส่วนที่เหลือจะเป็นเครื่องใช้ไฟฟ้าประหยัดไฟเบอร์ 5 และบางประเภทก็ยังต่ำกว่า

“เรื่องนี้เพิ่งรับการบ้านมาจาก รมว.คลัง ซึ่งคงต้องใช้เวลาอีกสักพักใหญ่ เพราะไทม์มิ่งสำคัญมาก เพราะจะทำอะไรจะต้องไม่กระทบต่อการฟื้นตัวของภาคเศรษฐกิจ” นายลวรณกล่าว

แนวทางสมมุติหากใครที่ปรับเงื่อนไขการประหยัดไฟได้สูงตามเกณฑ์ในอนาคต อาจจะให้แรงจูงใจ (Incentive) จากภาครัฐในการทำดี แต่รางวัลจะเป็นอะไรยังอยู่ในขั้นตอนศึกษา