ลงทะเบียน “คนละครึ่ง” รอบเก็บตกอีก 7 แสนสิทธิ 6 โมงเช้านี้

เปิดลงทะเบียน “คนละครึ่ง” เพิ่มเติมครั้งที่ 3 เฉพาะคนที่เก็บตกจำนวน 7 แสนสิทธิ ในวันที่ 19 พ.ย.63

นายพรชัย ฐีระเวช ที่ปรึกษาด้านเศรษฐกิจการเงิน สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ในฐานะรองโฆษกกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริหารสถานการณ์เศรษฐกิจจากผลกระทบจากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบศ.) พล.อ.ประยุทธ์  จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี มีข้อสั่งการให้กระทรวงการคลังเปิดให้ประชาชนลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการคนละครึ่งเพิ่มเติมอีกครั้ง

ในวันพฤหัสบดีที่ 19 พฤศจิกายน 2563 จำนวน 722,598 สิทธิ โดยเป็นการรวบรวมสิทธิคงเหลือจากผู้ลงทะเบียนที่ไม่ผ่านการตรวจสอบสิทธิในรอบที่ผ่านมา

จึงขอเชิญชวนประชาชนที่สนใจเตรียมลงทะเบียนผ่านเว็บไซต์ www.คนละครึ่ง.com ระหว่างเวลา 06.00 น. – 23.00 น. จนกว่าจะครบจำนวน อย่างไรก็ดี ผู้ลงทะเบียนจะต้องไม่เคยได้รับสิทธิโครงการคนละครึ่งมาก่อน และผู้ประสงค์จะใช้สิทธิโครงการคนละครึ่งจะไม่สามารถใช้สิทธิมาตรการช้อปดีมีคืนได้

สำหรับการเปิดให้ลงทะเบียนเพิ่มเติมจำนวนกว่า 7 แสนสิทธิดังกล่าว เป็นการเปิดให้ลงทะเบียนเพื่อให้ครอบคลุมผู้เข้าร่วมโครงการตามที่ตั้งเป้าหมายไว้ 10 ล้านคน

รองโฆษกกระทรวงการคลังกล่าวว่า นายกรัฐมนตรีได้สั่งการเพิ่มเติมให้ กระทรวงการคลังพิจารณารายละเอียดหลักเกณฑ์เงื่อนไขที่เหมาะสมสำหรับโครงการคนละครึ่ง ระยะที่ 2 ตลอดจนพิจารณาความเป็นไปได้ในการขยายโครงการเพิ่มกำลังซื้อให้แก่ผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐอีกด้วย

สำหรับความคืบหน้าล่าสุด ณ วันที่ 18 พฤศจิกายน 2563 เวลา 12.00 น. มีร้านค้าลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการแล้วกว่า 7.17 แสนร้านค้า และมีผู้ใช้สิทธิแล้วจำนวน 8,773,534 คน

โดยมียอดการใช้จ่ายสะสม 18,797 ล้านบาท แบ่งเป็นเงินที่ประชาชนจ่าย 9,581 ล้านบาท และภาครัฐร่วมจ่ายอีก 9,216 ล้านบาท ยอดใช้จ่ายเฉลี่ย 200 บาทต่อครั้ง ซึ่งจังหวัดที่มีการใช้จ่ายสะสมมากที่สุด 5 อันดับแรก ได้แก่ กรุงเทพมหานคร สงขลา นครศรีธรรมราช สุราษฎร์ธานี และเชียงใหม่ ตามลำดับ

ทั้งนี้ รองโฆษกกระทรวงการคลังได้ขอความร่วมมือประชาชนและร้านค้าให้ปฏิบัติตามหลักเกณฑ์เงื่อนไขของโครงการ และอย่าหลงเชื่อการเชิญชวนของผู้ไม่หวังดีที่เสนอจะช่วยหาประโยชน์จากโครงการโดยไม่ได้ทำการซื้อขายสินค้าจริง

ซึ่งที่ผ่านมากระทรวงการคลังได้มีการระงับสิทธิร้านค้าที่มีพฤติการณ์เข้าข่ายกระทำผิดเงื่อนไขโครงการแล้ว พร้อมทั้งได้ส่งเอกสารหลักฐานให้แก่กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ (ปอศ.) เพื่อสืบสวนสอบสวนดำเนินคดีกับร้านค้าต่อไป


นอกจากนี้ กระทรวงการคลังยังได้รับความร่วมมือจากกรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์ ลงพื้นที่กวดขันไม่ให้ร้านธงฟ้าและร้านค้าทั่วไปที่เข้าร่วมโครงการคนละครึ่งฉวยโอกาสขึ้นราคาสินค้าซึ่งเป็นการเอาเปรียบประชาชนผู้บริโภค