ธปท.งัดมาตรการสกัดบาทแข็ง แจง 5 ปี ทุนสำรองฯ เพิ่มแสนล้านดอลลาร์

เศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ
REUTERS/Chalinee Thirasupa

ธปท.เผยเตรียมพิจารณามาตรการดูแลค่าเงินบาทแข็งค่า เผย ไม่นิ่งนอนใจ แค่ไม่ได้แถลง หลัง 5 ปี แทรกแซงค่าเงินดันทุนสำรองเพิ่มขึ้น 1 แสนล้านดอลลาร์-ดอกเบี้ยต่ำสุดในภูมิภาค 0.50% รับบาทแข็งจากข่าวดีวัคซีนกระทบมาร์จิ้นผู้ส่งออก

วันที่ 19 พฤศจิกายน 2563 นายเศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท. ) กล่าวว่า ตอนนี้ธปท.พิจารณามาตรการดูแลค่าเงินที่เหมาะสม โดยต้องดูในแง่ภาพรวม ไม่ได้เป็นมาตรการที่ดูแลเพียงค่าเงินเท่านั้น แต่ต้องดูถึงผลข้างเคียง

“ที่ผ่านมาคณะกรรมการนโยบายเงิน (กนง.) ไม่ได้นิ่งนอนใจในช่วงค่าเงินบาทแข็ง โดยมีการแทรกแซงค่าเงินมาตลอด ซึ่งจะเห็นได้จากตัวเลขทุนสำรองระหว่างประเทศในช่วง 5 ปีที่ผ่านมาเพิ่มขึ้นถึง 1 แสนล้านดอลลาร์ มาจากธปท.เข้าไปซื้อเงินดอลลาร์ เพื่อชะลอการแข็งค่าของเงินบาท รวมถึงอัตราดอกเบี้ยนโยบาย (RP) ที่อยู่ที่ 0.50% ถือว่าต่ำเป็นประวัติการณ์และต่ำสุดในภูมิภาค”

อย่างไรก็ดี เงินบาทที่แข็งค่าเร็ว ส่วนหนึ่งมาจากข่าววัคซีน ซึ่งทำให้คนคาดการณ์ว่าการท่องเที่ยวจะกลับมา และดุลบัญชีเดินสะพัดจะเกินดุลมากขึ้น แต่เรื่องของวัคซีนที่ออกมาไม่ได้เป็นการแก้ปัญหา เพราะคนยังไม่ได้รับการฉีดวัคซีน ทำให้นักท่องเที่ยวที่คาดว่าจะมาก็ไม่ได้มา ทำให้เงินบาทที่แข็งค่าจะกระทบต่อเศรษฐกิจที่ยังฟื้นตัวเปราะบาง

นอกจากนี้ เงินบาทที่แข็งค่าขึ้นในภาวะปกติไม่ได้ส่งผลต่อยอดการส่งออก แต่ส่งผลต่อมาร์จิ้นของผู้ประกอบการส่งออก ซึ่งที่ผ่านมาผู้ส่งออกได้รับผลกระทบจากดีมานด์ที่หายไปค่อนข้างมาก และมีหนี้ที่สูง ดังนั้น หากผู้ประกอบการมีสายป่านสั้น จะทำให้ประสบปัญหามีสูงขึ้น และเรื่องของคุณภาพสินเชื่อจะตามา ทำให้การประชุมกนง.รอบนี้ให้ความกังวลเรื่องเงินบาทเป็นพิเศษ

“ในระยะสั้นที่เงินทุนไหลกลับเข้ามาในภูมิภาคและไทย จากข่าวดีเรื่องมีวัคซีนป้องกันป้องโควิด-19 ทำให้เงินบาทแข็งค่าขึ้นและเร็ว และทำให้คนลำบาก ซึ่งธปท.ไม่ได้นิ่งนอนใจ เรามีการดูแลค่าเงินบาทในระยะสั้นมาตลอด เพียงแต่เราไม่ได้ออกมาแถลงหรือออกมาชี้แจง ไม่ได้แปลว่าเราไม่ทำอะไร ส่วนมาตรการในการดูแลเงินทุนเคลื่อนทุนเคลื่อนย้าย เราก็อยู่ระหว่างการศึกษาและต้องดูผลข้างเคียงของมาตรการด้วย”