กรุงศรีฯ นำร่องธุรกรรม L/C ไทย-ญี่ปุ่นผ่านบล็อกเชนครั้งแรกในไทย

ธนาคารกรุงศรีอยุธยา ปลื้มนำร่องธุรกรรมเปิด L/C บนบล็อกเชนระหว่างคู่ค้าบริษัทไทย-ประเทศญี่ปุ่นเป็นครั้งแรกในไทย สร้างการขับเคลื่อนการทำธุรกรรมการค้าระหว่างประเทศให้รุดหน้าไปอีกขั้น ดำเนินการใน Own Sandbox ภายใต้การกำกับดูแลของ ธปท.

นายสยาม ประสิทธิศิริกุล รองประธานกลุ่มสนับสนุนธุรกิจด้านเทคโนโลยีสารสนเทศและปฏิบัติการ และรักษาการแทนผู้บริหารสายงายดิจิทัลแบงก์กิ้งและนวัตกรรม ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า

“กรุงศรียังคงมุ่งมั่นในพันธกิจการทำเรื่องเงินให้เป็นเรื่องง่ายสำหรับลูกค้าผ่านกระบวนการปฏิบัติงานของธนาคารและไม่เคยหยุดนิ่งในการพัฒนาเทคโนโลยีการเงินบนช่องทางดิจิทัล ในครั้งนี้กรุงศรีประสบความสำเร็จในการนำเทคโนโลยีบล็อกเชนมาประยุกต์ใช้ ในการทำธุรกรรม L/C ระหว่างคู่ค้าในประเทศไทยและประเทศญี่ปุ่น ซึ่งนับเป็นครั้งแรกในวงการธนาคารพาณิชย์ไทยที่สามารถให้บริการดังกล่าวด้วยนวัตกรรมชั้นแนวหน้าที่มีมาตรฐานความปลอดภัยระดับสากล”

สยาม ประสิทธิศิริกุล
สยาม ประสิทธิศิริกุล

“การนำร่องบริการ L/C แบบอิเล็กทรอนิกส์ระหว่างคู่ค้าธุรกิจในไทยและญี่ปุ่นผ่านเทคโนโลยีบล็อกเชนในครั้งนี้พัฒนาบนแพลตฟอร์มของ Contour ซึ่งเป็นเครือข่ายบล็อกเชนธุรกรรมเพื่อการค้าระหว่างประเทศ (Blockchain-based global trade finance platform) กรุงศรีทำหน้าที่ธนาคารผู้เปิดเครดิต (Issuing Bank) ให้กับผู้ซื้อ (Importer) ซึ่งเป็นบริษัทผลิตชิ้นส่วนโลหะสัญชาติญี่ปุ่นที่มีฐานการผลิตอยู่ในประเทศไทย และได้ทำการสั่งซื้อสินค้านำเข้าจากคู่ค้าซึ่งเป็นบริษัทชั้นนำในประเทศญี่ปุ่น การทำธุรกรรม L/C ระหว่างประเทศผ่านนวัตกรรมบล็อกเชนนี้ประสบผลสำเร็จด้วยดีภายในเวลาเพียง 1 ชั่วโมงเท่านั้น” นายสยาม กล่าวเพิ่มเติม

ความสำเร็จครั้งนี้นับเป็นการต่อยอดพัฒนาการของกรุงศรีในการนำเทคโนโลยีขั้นสูงมาประยุกต์ใช้ในบริการทางการเงินสำหรับลูกค้าธุรกิจ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและความรวดเร็วคล่องตัวในการทำธุรกรรมการเงิน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกลุ่มลูกค้าที่ทำธุรกิจการค้าระหว่างประเทศ โดยก่อนหน้านี้ กรุงศรีเป็นผู้นำในการนำเทคโนโลยีบล็อกเชนมาใช้ทำธุรกรรมโอนเงินระหว่างประเทศได้สำเร็จ

นางยิ่งลักษณ์ คงคาสัย ประธานคณะเจ้าหน้าที่ด้านธุรกรรมการเงิน ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “กรุงศรีภูมิใจที่ได้รับความไว้วางใจจากลูกค้าในโครงการนำร่องการใช้นวัตกรรมดังกล่าว ซึ่งถือเป็นครั้งแรกและประสบผลสำเร็จอย่างดีเยี่ยม นวัตกรรมดังกล่าวได้พลิกโฉมรูปแบบการทำธุรกรรม L/C แบบเดิมๆ และก้าวข้ามข้อจำกัดในเรื่องระยะเวลาการธุรกรรมระหว่างประเทศ และลดทอนกระบวนการยื่นเอกสารไปมาระหว่างกัน

อีกทั้งยังมีความปลอดภัย โปร่งใส และสามารถตรวจสอบได้ในทุกขั้นตอน ซึ่งจะเป็นประโยชน์โดยตรงกับกลุ่มลูกค้าที่ทำธุรกิจการค้าระหว่างประเทศให้สามารถเดินหน้าและขับเคลื่อนธุรกิจไปได้อย่างรวดเร็ว สะดวก และง่ายขึ้นอย่างมาก กรุงศรีเชื่อมั่นว่าในโลกธุรกิจที่มีความท้าทายมากมาย การส่งมอบนวัตกรรมที่เป็นตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าจะช่วยสร้างโอกาสให้ลูกค้าประสบความสำเร็จ”


นายคาร์ล แว็กเนอร์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร Contour กล่าวว่า “กรุงศรีประสบความสำเร็จในการ เชื่อมโยงธุรกรรมการค้าระหว่างไทยและญี่ปุ่นบนแพล็ตฟอร์มของ Contour เป็นครั้งแรก อีกทั้งยังเป็นก้าวสำคัญที่แสดงให้เห็นถึงศักยภาพของเทคโนโลยีบล็อกเชนที่จะช่วยการยกระดับธุรกรรมการค้าระหว่างประเทศให้ประสบความสำเร็จได้ดียิ่งขึ้น ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อทุกฝ่ายรวมถึงกลุ่มลูกค้าธุรกิจ สถาบันการเงิน อีกทั้งยังขับเคลื่อนการสร้างเครือข่ายการค้าระหว่างประเทศที่น่าเชื่อถืออีกด้วย”