ปัญหา แอปฯ “เป๋าตัง” เด้งออก แล้วไม่สามารถเข้าได้ ทำให้ไม่สามารถทำรายการอื่นต่อได้ เป็นอีกหนึ่งปัญหาที่มีประชาชนผู้ใช้สิทธิ โครงการ “คนละครึ่ง” พบเจอ
“ประชาชาติธุรกิจ” สรุปวิธีการจากชาวเน็ตที่ใช้แล้วได้ผลมาให้ดังนี้
- สมชัย เลิศสุทธิวงค์ ซีอีโอ “เอไอเอส” สละโสดในวัย 62 ปี
- กองทุนประกันวินาศภัยถังแตก แจ้งชะลอจ่ายคืนหนี้ตั้งแต่ มี.ค.2567
- เรือชนสะพานถล่มในสหรัฐ กระทบเศรษฐกิจ การขนส่งสินค้าเป็นอัมพาต
- เริ่มจากการเข้า ระบบขึ้นว่า “ไม่สามารถผูกกระเป๋า G-Wallet ได้ เนื่องจากผู้ไว้แล้ว” ซึ่งที่เป็นลักษณะดังกล่าว เนื่องจากบัญชีที่ใช้งานของผู้ใช้ต้องการยืนยันตัวตน แต่ติดตรงที่ โทรศัพท์ 1 เครื่อง สามารถยืนยันได้เพียง 1 ครั้งเท่านั้น
- หากใครยังยืนยันตัวตนไม่เกิน 3 ครั้ง ให้ทำการยืนยันอีกครั้งในโทรศัพท์เครื่องที่ยังไม่เคยมีการยืนยัน (อาจจะเป็นโทรศัพท์ เพื่อน หรือญาติ ที่ไม่ได้รับสิทธิ์)
- นำโทรศัพท์ที่ยังไม่เคยมีการยืนยันมา โหลดแอปฯ เพื่อแสกนบัตร ใส่ข้อมูล พร้อมถ่ายรูปตนเอง
- จากนั้น ระบบจะขึ้นว่า “ให้รอ SMS ยืนยัน” ให้คืนโทรศัพท์ผู้ที่เรายืมมาได้เลย เพราะไม่มีอะไรต้องใช้งานอีก
- กลับมาที่โทรศัพท์ของตนเอง (ที่ไม่สามารถยืนยันได้) โดยทำการ ลบแอปฯ แล้วติดตั้งใหม่อีกครั้ง
- จากนั้น เข้าแอปฯ ระบบจะให้ใส่รหัส OTP อีกครั้ง ก็จะสามารถเข้าไปใช้งานที่หน้าหลักได้เหมือนเดิม
สำหรับผู้ที่มีโทรศัพท์ 1 เครื่อง และยืนยันเกิน 3 ครั้ง แล้ว
- ให้เดินทางไปที่ ธนาคารกรุงไทย โดยแจ้งเจ้าหน้าที่ว่า มาขอยืนยันตัวตน แอปฯ เป๋าตัง
- ยื่นบัตรประชาชน พร้อมเบอร์มือถือ เพื่อให้เจ้าหน้าที่จัดการตามขั้นตอน
- จากนั้นรอประมาณ 1 วัน ทำการลบและติดตั้ง แอปฯ อีกครั้ง โดยระบบจะให้ใส่รหัส OTP อีกครั้ง ก็จะสามารถเข้าไปใช้งานที่หน้าหลักได้เหมือนเดิม
คำตอบสำหรับผู้ลงทะเบียน ไม่สำเร็จ ในกรณีอื่นๆ
1. กรณีไม่สามารถถ่ายภาพเพื่อยืนยันตัวตนเพื่อใช้สิทธิโครงการ บนแอปฯ เป๋าตัง เพื่อผูก G-Wallet หรือทำการสแกนหน้าไม่สำเร็จ ต้องทำอย่างไร
สามารถลองใหม่ได้ โดยถ่ายบัตรประชาชนตนเองในที่ที่มีแสงสว่างพอดี และไม่มีเงาบนหน้าบัตร และการถ่ายรูปใบหน้าตนเองให้ถ่ายในที่ที่มีแสงสว่างเพียงพอ ไม่มืดหรือสว่างเกินไป
แต่หากรูปถ่ายบนบัตรมีความไม่ชัดเจน หรือไม่สามารถถ่ายรูปเพื่อยืนยันตัวตนได้ แนะนำให้ไปยืนยันตัวตนที่สาขาเพื่อดำเนินการ หลังจากเรียบร้อยแล้วให้ประชาชนทำการยืนยันตัวตนใหม่บนแอปฯ อีกครั้ง
2. หากมีการเปลี่ยนแปลงเบอร์โทรศัพท์ โดยเบอร์โทรศัพท์ที่ลงทะเบียนในเว็บไซต์ในโครงการ เราเที่ยวด้วยกัน ไม่ตรงกับเบอร์โทรศัพท์ที่ลงทะเบียนไว้ในเว็บไซต์ในโครงการ คนละครึ่ง ทำให้การยืนยันตัวตน G-Wallet ไม่สำเร็จ ต้องทำอย่างไร
ต้องนำบัตรประชาชนตัวจริงไปติดต่อเพื่อยืนยันตัวตนที่สาขาของธนาคารกรุงไทย
3. เวอร์ชั่นโทรศัพท์มือถือที่รองรับแอปฯ เป๋าตัง สำหรับประชาชนที่เข้าร่วมโครงการครั้งนี้ ขั้นต่ำเป็นเวอร์ชั่นใด
โทรศัพท์มือถือแบบสมาร์ตโฟน ซึ่งรองรับการใช้งานแอปฯ เป๋าตัง และสามารถถ่ายรูปได้ รองรับโทรศัพท์ที่ใช้ระบบปฏิบัติการ Android ver.5.0 ขึ้นไป หรือโทรศัพท์ไอโฟน iOS ver.9.0 ขึ้นไป
4. ในกรณียืนยันตัวตนไม่สำเร็จแล้วต้องไปยืนยันตัวตนที่สาขา เมื่อดำเนินการเสร็จ สามารถเข้าใช้งานได้ทันทีหรือไม่
สามารถเข้าใช้งานเมื่อทำการยืนยันตัวตนหลังจากทางสาขาทำการยืนยันตัวตนสำเร็จ จากนั้นประชาชนทำการยืนยันตัวตนใหม่บนแอปฯ เป๋าตัง อีกครั้ง
5. กรณีมีการเปลี่ยนชื่อ-สกุล ชื่อที่แสดงบน G-Wallet แอปฯเป๋าตัง จะแสดงเป็นชื่อเก่าหรือชื่อใหม่?
การลงทะเบียนเว็ปไซด์โครงการฯ และขั้นตอนการยืนยันตัวตนลูกค้าสามารถลงทะเบียนด้วยชื่อ-นามสกุล ตามบัตรประชาชนใหม่ได้ตามปกติ อย่างไรก็ดีเนื่องจากปัจจุบันลูกค้ายังไม่สามารถเปลี่ยนชื่อในระบบได้ชื่อบน G-Wallet จะแสดงชื่อ-นามสกุลเดิม ซึ่งไม่ได้ส่งผลกระทบกับการใช้สิทธิในโครงการฯ แต่อย่างใด
6. กรณีไม่ได้ลงทะเบียน คนละครึ่งทางเว็บไซต์ หรือยังไม่ได้ยืนยันตัวตนผ่านแอปฯ เป๋าตัง (ยืนยันรหัส Pin ของ Next หรือผูกบัญชีกรุงไทยผ่านแอปฯ เป๋าตัง) สามาถทำธุรกรรมใดได้บ้างบนแอปฯ เป๋าตัง?
สามารถทำธุรกรรมได้ 2 รายการ ดังต่อไปนี้
1.โอนเงินเข้าบัญชีกรุงไทยของตนเอง
2.โอนเงินพร้อมเพย์ เลขบัตรประชาชนตนเอง (ต้องสมัครก่อน)
ทั้งนี้ ทุกปัญหาที่พบจากการใช้แอปพลิเคชั่น “เป๋าตัง” ให้ติดต่อเจ้าหน้าที่ ที่ธนาคารกรุงไทย สาขาใกล้บ้านได้เลย