New Normal ในโลกธุรกิจ ที่ต้องการเชอร์ล็อก โฮมส์

ภาพประกอบข่าวการลงทุน-กราฟ-หุ้น-ดัชนี-ตลาดหุ้น-ลงทุน
Photo by Frank Busch on Unsplash
คอลัมน์ คุยฟุ้งเรื่องการเงิน
พิเชฐ เจียรมณีทวีสิน (ทอมมี่) 
www.actuarialbiz.com

สิ่งที่เชอร์ล็อกโฮมส์ทำได้มากไปกว่าการเป็นแค่นักสืบนั่นก็คือ การที่สามารถวิเคราะห์สิ่งที่เกิดขึ้นในอดีต เพื่อนำมาจำลองเหตุการณ์ที่อาจจะเกิดขึ้นในอนาคตจากหลาย ๆ เหตุการณ์ตามแต่ข้อมูลและเงื่อนไขของสถานการณ์ที่มี ซึ่งก็เป็นหน้าที่ที่คล้ายคลึงกับนักคณิตศาสตร์ประกันภัยหรือนักวิทยาศาสตร์ข้อมูลมาก

และแน่นอนที่ว่าสิ่งที่เหมือนกันอีกอย่างหนึ่ง คือ เชอร์ล็อก โฮมส์เป็นคนนำสิ่งที่เขาได้คาดการณ์ไว้ไปปฏิบัติจริงเพื่อที่จะทำให้ได้ผลลัพธ์จากเหตุการณ์ที่จำลองเอาไว้อย่างมีประสิทธิภาพและประสิทธิผลอย่างดีที่สุด

ถ้าหากเหตุการณ์ที่ได้คาดการณ์เอาไว้นั้นเห็นท่าว่าจะเป็นสถานการณ์ที่เลวร้ายแล้วละก็ เขาก็จะไม่นิ่งนอนใจที่จะหาทางจัดการความเสี่ยงที่จะเกิดขึ้นในอนาคตเอาไว้เพื่อเตรียมพร้อมที่จะรับมือกับสถานการณ์ร้าย ๆ เหล่านั้น

สิ่งที่ทำให้เชอร์ล็อก โฮมส์ดูพิเศษแตกต่างจากคนอื่นก็คือ การที่จะไม่มีทางหลงกลไปติดกับดักของข้อมูลในอดีตและปัจจุบัน

เพราะสิ่งที่เขาต้องทำคือการใช้วิจารณญาณของการเป็นนักสืบเพื่อมองไปข้างหน้าและไขคดีให้ได้ในที่สุด เขาเป็นคนช่างสังเกตและค้นคว้าหาความรู้ใหม่ ๆ อยู่เรื่อย ๆ ไม่ว่าจะเป็นความรู้ทางการแพทย์ (กายวิภาค) วิทยาศาสตร์ (เคมี ฟิสิกส์ และธรณีวิทยา) ดนตรี (เล่นไวโอลินเก่งมาก) ศิลปะ (เป็นนักแสดงที่เก่งกาจเพื่อหันเหความสนใจของผู้ต้องสงสัยได้) กีฬา (เป็นทั้งมวยและฟันดาบ) กฎหมาย (รู้เรื่องกฎหมายอังกฤษเป็นอย่างดี) อาชญวิทยา หรือแม้กระทั่งข่าวสารต่าง ๆ รอบตัว

และเนื่องด้วยเชอร์ล็อก โฮมส์เป็นคนชอบอ่านหนังสือและยังเป็นนักคิดอยู่ตลอดเวลา จึงทำให้เชอร์ล็อกโฮมส์เป็นคนที่มีความรู้รอบตัวที่จะเอามาประยุกต์ใช้ในงานของเขาเองได้เยอะ มีคอมมอนเซนส์ (common sense) ที่เอาไว้มองเหตุการณ์ได้ล่วงหน้า โดยอาศัยความรู้ที่สะสมมาพร้อมกับการสังเกตและปะติดปะต่อข่าวสารต่าง ๆ จนกลายเป็นเรื่องราวที่ร้อยเรียงขึ้นมาจัดการกับรูปคดีที่ยาก ๆ และช่วยให้เขารอดพ้นสถานการณ์อันเลวร้ายได้

ซึ่งถ้ากลับมามองโลกแห่งธุรกิจในปัจจุบันนี้ นักคณิตศาสตร์ประกันภัยหรือนักวิทยาศาสตร์ข้อมูลที่เก่ง ๆ จะต้องเป็นคนที่สามารถมองไปข้างหน้าให้ได้ไกลและแม่นยำที่สุด การที่จะตัดสินใจทำการใหญ่อะไรซักอย่างในปัจจุบันนี้จะต้องมีหลักฐานหรือตัวเลขมาสนับสนุนการตัดสินใจ ซึ่งการที่จะคาดการณ์ล่วงหน้าได้ถูกต้องนั้นจำเป็นที่จะต้องใช้ข้อมูลในอดีตประกอบกับวิจารณญาณเพื่อที่จะนำมาใช้วางแผนและปรับเปลี่ยนกลยุทธ์ทางธุรกิจให้เหมาะสม

นอกจากจะต้องเก็บข้อมูลให้เหมาะสมและมากพอแล้ว ความรู้รอบตัวของมืออาชีพเหล่านี้ก็เป็นสิ่งที่สำคัญอย่างยิ่งที่ใช้ในการตีความตัวเลขหรือประกอบการพิจารณากลยุทธ์ต่าง ๆ โดยเฉพาะนักคณิตศาสตร์ประกันภัยที่ต้องมีความรู้พื้นฐานด้านการแพทย์ (เมื่อต้องเกี่ยวข้องกับชีวิตหรือสุขภาพของคน) ความรู้ด้านกฎหมาย (เมื่อต้องพิจารณาร่างหรือตีความสัญญากรมธรรม์) ความรู้ด้านการเขียนโปรแกรมคอมพิวเตอร์ (เพื่อเข้าถึงข้อมูลที่ต้องการ) ความรู้ทางด้านการเงิน ความรู้ทางด้านการลงทุน ไม่ว่าในหรือนอกประเทศ หรือแม้กระทั่งความรู้ทางด้านการตลาดและข่าวสารรอบตัว

เซนส์ด้านข้อมูลที่ได้มาจากประสบการณ์มากมาย

ถ้าติดตามเรื่องราวของเชอร์ล็อก โฮมส์เรื่อยมาก็จะรู้ว่า ยิ่งเขามีประสบการณ์ก็ยิ่งรู้ว่าจะต้องเริ่มต้นสืบจากจุดไหน เซนส์ของเขาจะบอกว่าควรจำลองรูปการณ์เป็นแบบไหน และอะไรที่เป็นแรงจูงใจให้ก่อคดี จากนั้นจึงสืบหาหลักฐานต่าง ๆ เพื่อยืนยันสมมุติฐานของเขาว่าถูกต้องหรือไม่ และท้ายที่สุดก็ต้องไม่หลงกลกับหลักฐานเท็จที่ถูกสร้างขึ้นมาจากตัวคนร้าย แน่นอนว่าชั่วโมงบินที่มีคุณภาพของการเป็นนักสืบของเขาทำให้เขาผงาดขึ้นมาเป็นยอดนักสืบในดวงใจของคนหลาย ๆ คน

การเป็นนักคณิตศาสตร์ประกันภัยหรือนักวิทยาศาสตร์ข้อมูลเอง ก็ต้องรู้ว่าข้อมูลไหนที่จำเป็นและจะต้องเริ่มหาข้อมูลจากจุดไหน จำลองเหตุการณ์ทางธุรกิจไปในทิศทางใด และอะไรที่เป็นความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นได้ โดยการนำตัวเลขมายืนยันสมมุติฐานที่ตั้งขึ้นไว้

ไม่ว่าจะเป็นเชอร์ล็อก โฮมส์หรืออะไรก็ตาม การที่ชั่วโมงบินหรือประสบการณ์จะมีคุณภาพหรือไม่นั้น ก็คงต้องขึ้นอยู่กับว่าจะมีการพัฒนาทักษะในการประมวลเหตุและผล มีการพัฒนากระบวนการความคิดเพื่อเพิ่มความแหลมคมในการวิเคราะห์ และเพิ่มความรู้ให้กับตัวเองอยู่ตลอดเวลาเพียงไหน

หากเชอร์ล็อก โฮมส์เอาแต่ทำงานไขคดีไปเรื่อย ๆ โดยไม่สนใจเพิ่มพูนทักษะและความรู้ของตัวเองแล้ว ก็คงจะไม่มีเชอร์ล็อก โฮมส์อย่างที่เรารู้จักกันในทุกวันนี้ก็ได้