ตลาดจับตาทรัมป์หารือเยลเลนเพื่อหาประธานเฟดคนใหม่

ฝ่ายค้าเงินตราต่างประเทศ ธนาคารกรุงเทพ รายงานว่า ภาวะการเคลื่อนไหวตลาดปริวรรตเงินตราประจำวันอังคารที่ 17 ตุลาคม 2560 ค่าเงินบาทเปิดตลาดเช้าวันนี้ ที่ระดับ 33.08/09 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ อ่อนค่าลงเล็กน้อยจากระดับปิดตลาดในวันจันทร์ (16/10) ที่ 33.05/06 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ วานนี้ธนาคารกลางสหรัฐ สาขานิวยอร์ก รายงาน ดัชนีภาคการผลิตเพิ่มสูงขึ้นในเดือนตุลาคม พุ่งขึ้นแตะระดับ 30.2 จากระดับ 24.2 ในเดือนกันยายน โดยดัชนียังคงอยู่สูงกว่าระดับ 0 ซึ่งบ่งชี้ถึงการขยายตัวของภาคการผลิตในนิวยอร์ก นอกจากตัวเลขทางเศรษฐกิจแล้ว นักลงทุนยังคงจับตาดูการประชุมระหว่างประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐกับนางเจเน็ต เยลเลน ประธานธนาคารกลางสหรัฐที่จะมีขึ้นในวันพฤหัสบดีนี้ โดยถือเป็นส่วนหนึ่งของการหาผู้ที่จะมาดำรงตำแหน่งประธานเฟดคนใหม่ แทนนางเยลเลน ซึ่งจะพ้นวาระการดำรงตำแหน่งในเดือนกุมภาพันธ์ 2561 โดยแหล่งข่าวกล่าวว่า ประธานาธิบดีทรัมป์กำลังพิจารณารายชื่อตัวเก็งตำแหน่งประธานเฟดคนใหม่ในช่วงนี้ โดยบุคคลในรายชื่อนี้รวมถึงนายเจอโรม พาวเวล ซึ่งเป็นผู้ว่าการคนหนึ่งในเฟด นายเควิน วอร์ช อดีตผู้ว่าการเฟด และนายแกรี คอห์น ซึ่งเป็นที่ปรึกษาทางเศรษฐกิจของทรัมป์ ทั้งนี้ระหว่างวันค่าเงินบาทเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบ 33.08-33.14 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ ก่อนปิดตลาดที่ระดับ 33.10/12 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ

สำหรับการเคลื่อนไหวของค่าเงินยูโรในวันนี้ (17/10) ค่าเงินยูโรเปิดตลาดที่ระดับ 1.1786/90 ดอลลาร์สหรัฐ/ยูโร ปรับตัวอ่อนค่าลงจากระดับปิดตลาดเมื่อวันจันทร์ (16/10) ที่ 1.1802/05 ดอลลาร์สหรัฐ/ยูโร วานนี้ นายกรัฐมนตรีของอังกฤษ นางเทเรซา เมย์ และนายฌอง-คล็อต ยุงเกอร์ ประธานคณะกรรมาธิการยุโรปเห็นตรงกันว่า ควรจะมีเจรจาต่อรองเรื่องที่อังกฤษจะถอนตัวออกจากสหภาพยุดรปโดยเร็ว แต่ในแถลงการณ์ครั้งนี้ไม่มีการระบุถึงรายละเอียดส่วนอื่น ๆ และความคืบหน้าของการเจรจาแต่อย่างใด จึงทำให้นักธุรกิจจากหลายแห่งกล่าวเตือนว่า หากไม่มีความชัดเจนว่าในเรื่องของความคืบหน้าในการเจรจา ธุรกิจเหล่านี้ก็จะเริ่มต้นโยกย้ายการลงทุนในช่วงต้นปี 2561 จนกว่านางเมย์จะให้รายละเอียดในเรื่องนี้ ขณะที่ในช่วงที่ผ่านมาทั้งสองฝ่ายต่างได้แต่เพียงกล่าวหาอีกฝ่ายหนึ่งว่าสร้างทางตันในการเจรจา อียูเคยกล่าวหานางเมย์ว่าไม่ยอมให้รายละเอียดในเรื่องที่ว่า อังกฤษเต็มใจที่จะจ่ายเงินมากเพียงใดเพื่อแยกกับการถอนตัวออกจากอียู และทางสหภาพยุโรปจะไม่ยอมเจรจาเรื่องการทำข้อตกลงทางการค้ากับอังกฤษในอนาคต ทั้งวันค่าเงินยูโรเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบระหว่าง 1.1763-1.1791 ดอลลาร์สหรัฐ/ยูโร และปิดตลาดที่ระดับ 1.1766/67 ดอลลาร์สหรัฐ/ยูโร

สำหรับค่าเงินเยนในวันนี้ (17/10) เปิดตลาดที่ระดับ 112.21/23 เยน/ดอลลาร์สหรัฐ อ่อนค่าลงจากระดับปิดตลาดเมื่อวันจันทร์ (16/10) ที่ระดับ 111.76/78 เยน/ดอลลาร์สหรัฐ รอยเตอร์เปิดเผยผลสำรวจในวันนี้ระบุว่า ดัชนีความเชื่อมั่นของบริษัทผู้ผลิตญี่ปุ่นดีดขึ้นในเดือนตุลาคม สู่ระดับ 31 สูงสุดนับตั้งแต่ช่วงกลางปี 2550 และสิ่งนี้ถือเป็นหลักฐานอีกชิ้นหนึ่งที่แสดงให้เห็นว่า การฟื้นตัวทางเศรษฐกิจในญี่ปุ่นกำลังทวีความเร็วขึ้น โดยได้รับแรงหนุนจากการอ่อนค่าของเยน และจากอุปสงค์ที่แข็งแกร่งจากต่างประเทศ นอกจากนี้ รอยเตอร์ยังมีการเปิดเผยผลสำรวจรอยเตอร์ ทังกันรายเดือน โดยผลสำรวจระบุว่าบริษัทผู้ผลิตขนาดใหญ่ของญี่ปุ่นคาดการณ์ในทางบวกต่อแนวโน้มธุรกิจมากที่สุดในรอบ 10 ปี ซึ่งมุมมองเชิงบวกนี้จะส่งผลดีต่อนายกรัฐมนตรีชินโซ อาเบะ ของญี่ปุ่น ก่อนที่จะมีการเลือกตั้งสมาชิกสภาล่างในวันที่ 22 ตุลาคม ที่กำลังจะมาถึง ขณะที่ นายอาเบะพยายามจะทำให้ประชาชนเชื่อมั่นว่า นโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจและเงินเฟ้อของเขาจะช่วยทำให้เศรษฐกิจญี่ปุ่นฟื้นตัวอย่างยั่งยืน ทั้งนี้การเคลื่อนไหวระหว่างวันค่าเงินเยนเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบระหว่าง 112.13-112.25 เยน/ดอลลาร์สหรัฐ และเปิดตลาดที่ระดับ 112.14/17 เยน/ดอลลาร์สหรัฐ

ดัชนีสำคัญทางเศรษฐกิจในช่วงสัปดาห์นี้ได้แก่ จำนวนที่อยู่อาศัยเริ่มสร้างของสหรัฐ (18/10) และน้ำมันดิบคงคลังของสหรัฐ (18/10)

สำหรับอัตราป้องกันความเสี่ยง (Swap point) ภาคเช้า 1 เดือนในประเทศอยู่ที่ -0.30/-0.10 สตางค์/ดอลลาร์สหรัฐ และอัตราป้องกันความเสี่ยง ภาคเช้า 1 เดือนต่างประเทศอยู่ที่ -2.50/1.50 สตางค์/ดอลลาร์สหรัฐ