กองหุ้น “สหรัฐ-จีน” รีเทิร์นเจ๋ง ผลตอบแทน 1 ปี สูงกว่า 50% เด่นไม่แพ้กัน

แฟ้มภาพ

กองทุนหุ้น 2 ประเทศมหาอำนาจ “สหรัฐ-จีน” ผลตอบแทนเด่นฝ่าวิกฤต “มอร์นิ่งสตาร์ฯ” เผยย้อนหลัง 1 ปี กองทุนหุ้นสหรัฐผลตอบแทนสูงสุดถึง 58.9% ขณะที่กองทุนหุ้นจีนไม่น้อยหน้า54.8% ส่วนกองทุนหุ้นไทยปี’63 อ่วมผลตอบแทนติดลบ 13% “บลจ.ทิสโก้” ชี้แนวโน้มหุ้นจีนแจ่ม “ศก.ฟื้นเร็ว-เทรดวอร์ผ่อนคลาย” ส่วนตลาดหุ้นสหรัฐ “หุ้นเทคโนโลยี-หุ้นเฮลท์แคร์” เริ่มลดดีกรีความร้อนแรง ด้าน“บล.กสิกรไทย” ชี้ตอนนี้แนวโน้มฟันด์โฟลว์ไหลเข้าเอเชีย

นางสาวชญานี จึงมานนท์ นักวิเคราะห์อาวุโส บริษัท มอร์นิ่งสตาร์ รีเสิร์ช (ประเทศไทย) เปิดเผยว่า ในปี 2563 นี้ การลงทุนในหุ้นต่างประเทศยังคงได้รับความนิยมมากกว่ากองทุนหุ้นไทย จากภาพรวมผลตอบแทนตลาดหุ้นต่างประเทศที่ดูดีกว่า

สะท้อนจากผลตอบแทนเฉลี่ยสะสมตั้งแต่ต้นปีถึงปัจจุบัน (YTD) ของกลุ่มกองทุนต่างประเทศ ได้แก่ กองทุนเทคโนโลยีต่างประเทศผลตอบแทน 36.5% กองทุนหุ้นต่างประเทศ 16.6% กองทุนหุ้นจีน 15.4% และกองทุนหุ้นสหรัฐ 15.5% ขณะที่กองทุนหุ้นไทยมีผลตอบแทนเฉลี่ยหดตัวอยู่ที่ -13%

ทั้งนี้ หากพิจารณากลุ่มธุรกิจที่มีการลงทุนในตลาดหุ้นทั้ง 2 ประเทศ พบว่า กองทุนหุ้นสหรัฐมีการลงทุนในกลุ่มเทคโนโลยีและกลุ่มการแพทย์ รวมกันเป็นสัดส่วนหลัก ซึ่งทั้ง 2 ธุรกิจ มีผลตอบแทนโดดเด่นในปีนี้ ล่าสุด ท่าทีของนายโดนัลด์ ทรัมป์อดีตประธานาธิบดีสหรัฐที่มีต่อผลการเลือกตั้ง และความคืบหน้าผลการวิจัยวัคซีนป้องกันโควิด-19 นั้น ส่งผลให้ตลาดหุ้นสหรัฐปรับตัวขึ้นต่อเนื่อง

ขณะที่กองทุนหุ้นจีนอาจมีลักษณะที่ต่างออกไป โดยมีการลงทุนในธุรกิจหมวดเพื่อการบริโภคและการเงินเป็นหลัก อย่างไรก็ดี เศรษฐกิจจีนถือได้ว่ามีการฟื้นตัวได้เร็วกว่าชาติอื่น และเมื่อเร็ว ๆ นี้ จีนได้ร่วมลงนามข้อตกลงเขตการค้าเสรี หรือความตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจระดับภูมิภาค (RCEP) ซึ่งถือเป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่หนุนการเติบโตทางการค้าทั้งจีนและหลายประเทศในเอเชียในอนาคต

นอกจากนี้ ข้อมูลมอร์นิ่งสตาร์ รีเสิร์ช (ประเทศไทย) ยังพบว่า กองทุนรวมหุ้นจีน และกองทุนรวมหุ้นสหรัฐให้ผลตอบแทนค่อนข้างดี โดยกองทุนหุ้นจีนให้ผลตอบแทนสูงสุด 54.8% ในช่วง 1 ปีย้อนหลัง และ 16.0% ในช่วง 5 ปีย้อนหลัง ส่วนกองทุนหุ้นสหรัฐให้ผลตอบแทนสูงสุด 58.9% และ 19.4% ในช่วงเวลาเดียวกันตามลำดับ (ดูตาราง)

“การลงทุนกองทุนต่างประเทศ นักลงทุนควรจะศึกษาและทำความเข้าใจถึงกลยุทธ์ของกองทุนหรือเข้าใจตลาดหุ้นประเทศนั้น ๆ ว่ามีโครงสร้างสัดส่วนมูลค่าตลาด (market cap) เป็นอย่างไร และรับทราบถึงปัจจัยบวกและลบที่ส่งผลต่อตลาดดังกล่าว เพื่อที่จะช่วยให้วางแผนและบรรลุเป้าหมายการลงทุนได้ แม้จะต้องเผชิญกับสถานการณ์เศรษฐกิจที่ไม่ปกติ” นางสาวชญานีกล่าว

นายสาห์รัช ชัฏสุวรรณ ผู้อำนวยการสายการตลาดและที่ปรึกษาการลงทุน บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) ทิสโก้ กล่าวว่า ภาพรวมตลาดหุ้นทั่วโลกเริ่มกลับมาดีขึ้น รวมถึงนักลงทุนต่างกลับเข้าสู่โหมดเปิดรับความเสี่ยง (risk on) หลังจากที่ข่าววัคซีนต้านไวรัสโควิด-19 มีความคืบหน้า โดยคาดว่าจะสามารถจำหน่ายได้จริงในปี 2564 ซึ่งปัจจัยดังกล่าวจะส่งผลบวกให้เศรษฐกิจปีหน้ากลับมาฟื้นตัว

อย่างไรก็ดี เมื่อพิจารณาการเคลื่อนไหวของตลาดหุ้น พบว่า กลุ่มที่ไม่ได้เกี่ยวข้องกับโควิด-19 เช่น ธนาคาร พลังงาน หรือกลุ่มที่เกี่ยวข้องกับวัฏจักรเศรษฐกิจ ราคาหุ้นกลับฟื้นตัวได้ดีกว่ากลุ่มที่เกี่ยวข้องกับไวรัสอย่างเทคโนโลยี และ healthcare ซึ่งคาดว่าเป็นผลจากการที่นักลงทุนย้ายกลุ่มลงทุนมายังหุ้นที่ราคายังไม่สูงมาก โดยเลือกหุ้นที่อิงกับเศรษฐกิจและภาคการผลิต (real sector) เป็นหลัก

นายสาห์รัชกล่าวว่า สำหรับตลาดหุ้นสหรัฐคาดว่ายังสามารถปรับขึ้นได้ต่อเนื่อง อย่างไรก็ดี กลุ่มหุ้นเทคโนโลยี และกลุ่มการแพทย์ ที่ราคาหุ้นปรับขึ้นได้ดีในช่วงที่ผ่านมา เริ่มชะลอความร้อนแรงลง ในทางกลับกัน กลุ่มหุ้นที่ราคาปรับลดลงในช่วงก่อนหน้านี้อย่างกลุ่มพลังงาน และกลุ่มการเงิน ราคาหุ้นเริ่มปรับขึ้น

ส่วนตลาดหุ้นจีนมีความโดดเด่นในแง่ที่เศรษฐกิจสามารถฟื้นตัวได้ก่อนประเทศอื่น ๆ จากวิกฤตโควิด-19 โดยเฉพาะการฟื้นตัวของการบริโภคภายในประเทศ ขณะที่แนวโน้มปี 2564 คาดว่าตลาดหุ้นจีนจะยังสามารถปรับขึ้นได้โดดเด่น (outperform) เมื่อเทียบกับตลาดหุ้นประเทศอื่น โดยได้รับปัจจัยหนุนจากการเปลี่ยนถ่ายอำนาจประธานาธิบดีของสหรัฐ ซึ่งคาดว่าสถานการณ์สงครามการค้าจะผ่อนคลายลง

นายสรพล วีระเมธีกุล ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) กสิกรไทย กล่าวว่า ตอนนี้กระแสเงินทุนเคลื่อนย้าย (ฟันด์โฟลว์)มีแนวโน้มไหลกลับเข้ามาลงทุนในแถบเอเชีย เพราะนอกจากค่าเงินแล้วการควบคุมโควิด-19 ก็ทำได้ดีกว่า โดยเงินที่ไหลกลับเข้ามาเป็นการย้ายกลุ่มลงทุนจากหุ้นที่มีการเติบโตสูง (growth stock) ในตลาดหุ้นยุโรปและสหรัฐ กลับเข้ามายังหุ้นคุณค่า (value stock) ที่กระจุกอยู่ในตลาดหุ้นเอเชีย