หุ้นบัตรเครดิตคึกคักปลายปี “เพิ่มวันหยุด-ช้อปดีมีคืน” หนุนจับจ่าย

ภาพบัตรเครดิต

หุ้นรูดปรื๊ด “KTC-AEONTS” ฮอต ! นักลงทุนเก็งกำไรรับเทรนด์ช็อปปิ้งปลายปี อานิสงส์มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ “ช้อปดีมีคืน”-เพิ่มวันหยุดยาวหนุนคนใช้จ่ายท่องเที่ยว โบรกฯเชียร์ซื้อ “AEONTS” ราคาหุ้นมีโอกาสขึ้นต่อ เป้าหมาย 200 บาท

นายวิจิตร อารยะพิศิษฐ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยหลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) เปิดเผยว่า ธุรกิจบัตรเครดิตที่อยู่ในตลาดหุ้น ได้แก่ บมจ.บัตรกรุงไทย (KTC) และ บมจ.อิออน ธนสินทรัพย์ (ไทยแลนด์) (AEONTS) ต่างมีแนวโน้มกำไรดีขึ้น เนื่องจากได้รับอานิสงส์จากการบริโภคช่วงปลายปี

รวมถึงมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐ เช่น ช้อปดีมีคืน ที่ให้สิทธิลดหย่อนภาษีไม่เกิน 30,000 บาท คาดว่ายอดซื้อสินค้าจากมาตรการนี้จะอยู่ที่ใบเสร็จละ 10,000 บาทขึ้นไป ซึ่งลูกค้ามักจะเลือกชำระด้วยบัตรเครดิต

เมื่อพิจารณาภาพรวมธุรกิจรายตัว KTC แนวโน้มกำไรดูดีขึ้นต่อเนื่องไปจนถึงต้นปีหน้า โดยเฉพาะงวดไตรมาส 1/64 ที่คาดว่าจะปรับขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน (YOY) เนื่องจากฐานกำไรที่ต่ำในไตรมาส 1/63

นอกจากนี้ คุณภาพสินทรัพย์ยังอยู่ในเกณฑ์ที่ไม่แย่ โดยหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) ลดลงเหลือ 1.9% ในไตรมาส 3/63 จากไตรมาส 2/63 ที่ NPL ปรับขึ้นไปสูงถึง 6.6%

ขณะที่ AEONTS แม้ว่าความน่าสนใจจะน้อยกว่า KTC ในแง่อัตราผลตอบแทนต่อส่วนของผู้ถือหุ้น (ROE) จะต่ำกว่า รวมถึง NPL มีอัตราส่วนที่สูงกว่าที่ 3.9% จากการที่บริษัทจับกลุ่มเป้าหมายลูกค้าระดับกลาง-ล่าง แตกต่างจาก KTC ที่จับกลุ่มลูกค้าระดับกลาง อย่างไรก็ดี สำหรับการลงทุนพบว่าราคาหุ้นของ AEONTS มีโอกาสปรับขึ้นมากกว่า

“เราให้ราคาเป้าหมายของ KTC ไว้ที่ 52 บาท แต่ปัจจุบันราคาหุ้นปรับขึ้นเกินเป้าหมายไปแล้ว โดยไปทำจุดสูงสุดที่ 54 บาท ขณะที่ AEONTS ให้ราคาเป้าหมาย 200 บาท แม้ว่าความแข็งแกร่งทางธุรกิจจะสู้ KTC ไม่ได้ แต่ด้วยราคาหุ้นส่งผลให้ AEONTS มีความน่าสนใจลงทุนมากกว่า” นายวิจิตรกล่าว

นายวิจิตรกล่าวอีกว่า อีกหนึ่งปัจจัยหนุนต่อธุรกิจบัตรเครดิต ส่วนหนึ่งมาจากการระดมทุนของบริษัทขนาดใหญ่ที่เริ่มกลับไปใช้เงินกู้ของธนาคาร

เนื่องจากอัตราดอกเบี้ยในตลาดที่อยู่ในระดับต่ำ โดยในส่วนของธนาคารเองก็ปรับลดดอกเบี้ย เพื่อดึงดูดลูกค้ารายใหญ่ และหลีกหนีการปล่อยสินเชื่อให้ลูกค้ารายย่อย เพื่อลดความเสี่ยง NPL ทำให้คนหันมาใช้บัตรเครดิตมากขึ้น

นายณัฐพล คำถาเครือ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.หยวนต้า (ประเทศไทย) กล่าวว่า ภาพรวมกำไรของหุ้นบัตรเครดิตในไตรมาส 4/63 มีแนวโน้มฟื้นตัวจากไตรมาสที่ 2 และ 3 ที่ฐานกำไรต่ำ จากภาระการตั้งสำรองที่เพิ่มขึ้น โดยไตรมาสสุดท้ายบัตรเครดิตได้รับแรงหนุนจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐ รวมถึงการเพิ่มวันหยุดยาวที่ส่งผลให้คนออกไปท่องเที่ยวและใช้จ่ายมากขึ้น

ทั้งนี้ เนื่องจากราคาหุ้นปรับขึ้นค่อนข้างร้อนแรง โดย KTC ราคาวิ่งขึ้นมา 125% จากจุดต่ำสุดที่ 23.80 บาท มาอยู่ที่ 53.50 บาท ส่วน AEONTS ปรับขึ้น 84% จากราคาต่ำสุด 91.00 บาท มาอยู่ที่ 167.00 บาท

จากแรงเก็งกำไร ดังนั้น แนะนำนักลงทุนหาจังหวะย่อแล้วค่อยเข้าซื้อ นอกจากนี้ การฟื้นตัวของเศรษฐกิจส่งผลให้หุ้นการเงินขนาดใหญ่อย่างหุ้นธนาคารพาณิชย์มีความน่าสนใจและมีโอกาสปรับขึ้นมากกว่าหลังจากนี้ อีกทั้งในปี 2564คาดว่าผลประกอบการธุรกิจบัตรเครดิตอาจปรับขึ้นไม่โดดเด่นมากนัก เนื่องจากเผชิญมาตรการจำกัดเพดานดอกเบี้ยของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.)

อย่างไรก็ดี KTC ได้เปิดตัวสินเชื่อจำนำทะเบียนรถ “พี่เบิ้ม” ล่าสุด มีขนาดสินเชื่อราว 70 ล้านบาท เพิ่มขึ้นอย่างช้า ๆ จากไตรมาสก่อน ปัจจุบันดอกเบี้ยเรียกเก็บของพี่เบิ้มอยู่ที่ 24% เชื่อว่าบริษัทจะมีการขยายธุรกิจดังกล่าวในปี 2564 เพื่อชดเชยดอกเบี้ยรับในฝั่งบัตรเครดิตและสินเชื่อบุคคลที่ลดลงไป

ขณะที่ความเสี่ยงการผิดนัดชำระหนี้พบว่า แนวโน้มของคุณภาพสินทรัพย์เริ่มปรับตัวดีขึ้นเมื่อเทียบกับช่วงต้นปีที่มีการระบาดของโควิด-19 ส่งผลให้ ธปท.ออกมาตรการพักชำระหนี้ ซึ่งพบว่าลูกค้าของ KTC และ AEONTS ขอเข้าร่วมมาตรการประมาณ 10% เท่านั้น เมื่อเทียบกับสินเชื่อในพอร์ตทั้งหมด ทั้งนี้ ปัจจุบันอัตราส่วน NPL ของทั้ง 2 บริษัทอยู่ที่ 1.9% และ 3.1% ตามลำดับ