คปภ.ลงดาบเพิกถอนใบอนุญาต 15 ตัวแทน-นายหน้าทำผิดกฎหมาย

คปภ.ตัดเนื้อร้ายเพิกถอนใบอนุญาตตัวแทน-นายหน้าประกันภัย ทำผิดกฎหมาย ในช่วงไตรมาส 3/60 ทั้งสิ้น 15 ราย เน้นย้ำบังคับใช้กฎหมายกำกับดูแลตัวแทน-นายหน้าประกันภัยเข้มข้นมากยิ่งขึ้น
 
นายสุทธิพล ทวีชัยการ เลขาธิการคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 30 กันยายน 2560 ธุรกิจประกันภัยทั้งระบบมีตัวแทน/นายหน้าประกันภัย จำนวน 532,697 ราย แบ่งเป็นตัวแทนประกันชีวิตจำนวน 271,483 ราย ตัวแทนประกันวินาศภัยจำนวน 19,735 ราย นายหน้าประกันชีวิตจำนวน 109,303 ราย และนายหน้าประกันวินาศภัยจำนวน 132,176 ราย
 
“ซึ่งส่วนใหญ่เป็นบุคลากรที่มีมาตรฐานและคุณภาพที่ดี ในขณะที่ตัวแทน/นายหน้าประกันภัยที่กระทำผิดกฎหมายสร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชนนั้นถือได้ว่ามีอัตราส่วนที่น้อยมาก”
 
ทั้งนี้ สำนักงาน คปภ. ได้ทำการตรวจสอบข้อเท็จจริงและพยานหลักฐานพิสูจน์ยืนยันแล้ว จึงได้ดำเนินการลงโทษอย่างเคร่งครัดด้วยการเพิกถอนใบอนุญาต ซึ่งในไตรมาสที่ 3/60 (1 ก.ค.-30 ก.ย.60) ได้ใช้คำสั่งนายทะเบียนเพิกถอนใบอนุญาตตัวแทน/นายหน้าประกันภัย รวมทั้งสิ้น 15 ราย โดยอาศัยอำนาจตาม ข้อ 6 (4) แห่งประกาศคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย เรื่อง หลักเกณฑ์และวิธีการในการประกาศ หรือโฆษณาการฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามกฎหมายว่าด้วยการประกันชีวิต (วินาศภัย) พ.ศ. 2556 โดยในจำนวนนี้ประกอบด้วยตัวแทนประกันชีวิต จำนวน 13 ราย และนายหน้าประกันวินาศภัย จำนวน 2 ราย ซึ่งผู้ที่ถูกเพิกถอนใบอนุญาตทั้ง 15 ราย จะไม่สามารถกระทำการเป็นตัวแทน/นายหน้าประกันภัยหรือขอรับใบอนุญาตใหม่ได้ภายใน 5 ปี นับแต่วันที่ถูกเพิกถอนใบอนุญาต หากฝ่าฝืนต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 6 เดือน หรือปรับไม่เกิน 50,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
อย่างไรก็ตาม สาเหตุของการกระทำความผิดของบุคคลทั้ง 15 ราย ที่นำไปสู่การเพิกถอนใบอนุญาตในครั้งนี้เกิดขึ้นใน 2 ลักษณะ คือ ได้รับชำระเงินค่าเบี้ยประกันภัยจากผู้เอาประกันภัย แต่มิได้นำเงินค่าเบี้ยประกันภัยส่งให้บริษัทประกันภัย และปลอมลายมือชื่อในใบรับมอบกรมธรรม์ เป็นเหตุให้ผู้เอาประกันภัยไม่สามารถใช้สิทธิบอกเลิกสัญญาภายใน 15 วัน นับแต่วันที่ได้รับกรมธรรม์
 
ที่ผ่านมา สำนักงาน คปภ. ได้ให้ความสำคัญอย่างยิ่งเกี่ยวกับคุณภาพของตัวแทน/นายหน้าประกันภัย ตั้งแต่กระบวนการก่อนการขาย การเสนอขายตลอดจนการให้บริการหลังการขาย อีกทั้งมีการอบรม การสอบ การขอต่ออายุเพื่อขอรับใบอนุญาตเป็นตัวแทน/นายหน้าประกันภัยอย่างเป็นระบบ ทั้งนี้ เพื่อเป็นการคุ้มครองประชาชนผู้เอาประกันภัยไม่ให้ถูกเอารัดเอาเปรียบ สำนักงาน คปภ. จึงมีความเข้มงวดและมีความเฉียบขาดในการดำเนินการตรวจสอบและพิจารณาลงโทษอย่างเคร่งครัด จริงจัง และต่อเนื่อง
 
“อย่างเช่นกรณีบริษัทแห่งหนึ่งที่ไม่มีใบอนุญาตเป็นนายหน้าประกันวินาศภัย แต่ไปเสนอขายประกันภัยรถยนต์ของบริษัทประกันภัยหลายแห่ง ผ่านทางโทรศัพท์และเมื่อผู้เสียหายตกลงทำประกันภัยรถยนต์และชำระเงินค่าเบี้ยประกันภัยแล้ว ผู้เสียหายก็ไม่ได้รับกรมธรรม์ประกันภัย ทำให้เกิดความเสียหาย สำนักงาน คปภ.ได้ตรวจสอบติดตามเรื่องนี้อย่างใกล้ชิดและได้มอบหมายให้สายคุ้มครองสิทธิประโยชน์และสายกฎหมาย และคดีนำประชาชนกว่า 30 คน ที่ได้รับความเสียหายเข้าแจ้งความต่อกองปราบปรามเมื่อวันที่ 16 ตุลาคม 2560 เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายกับผู้กระทำความผิดอย่างเคร่งครัด”นายสุทธิพลกล่าว
 
นอกจากนี้ กฎหมายในการกำกับดูแลตัวแทนนายหน้าประกันภัย จะมีความเข้มข้นมากขึ้น เนื่องจากได้มีการเสนอแก้ไขเพิ่มเติมพระราชบัญญัติประกันชีวิตและพระราชบัญญัติประกันวินาศภัย ให้มีบทบัญญัติเกี่ยวกับการฉ้อฉลประกันภัย ซึ่งมีบทกำหนดโทษทางอาญาทั้งจำคุกและปรับด้วย ดังนั้นต่อไปหากตัวแทนและนายหน้าประกันภัยกระทำผิด นอกจากจะถูกเพิกถอนใบอนุญาตแล้ว ถ้าการกระทำเข้าองค์ประกอบความผิดเรื่องการฉ้อฉลประกันภัย ก็อาจถูกดำเนินคดีจนถึงขั้นจำคุกและปรับอีกด้วย
 
และเพื่อให้ได้รับข้อมูลที่ครบถ้วน ถูกต้อง จากการซื้อประกันภัยจากตัวแทน/นายหน้าประกันภัยที่มีคุณภาพ ประชาชนควรตรวจสอบว่าผู้เสนอขายประกันภัย เป็นตัวแทน/นายหน้าประกันภัยที่ได้รับใบอนุญาตถูกต้อง รวมทั้งรายชื่อตัวแทน/นายหน้าประกันภัยที่ถูกเพิกถอนใบอนุญาตในไตรมาสที่ 3 จำนวน 15 ราย โดยสามารถตรวจสอบสถานะตัวแทน/นายหน้าประกันภัย ได้จากเว็บไซต์ของสำนักงาน คปภ.