BAM จัดทัพองค์กรรุกธุรกิจใหม่ ปักธงโกยรายได้เพิ่ม 20%

ตึก อสังหาริมทรัพย์

BAM จัดทัพองค์กรรุกธุรกิจใหม่ ตั้งซีอีโอดึง “บัณฑิต อนันตมงคล” ทำหน้าที่คนแรก โยก “สมพร มูลศรีแก้ว” นั่งเก้าอี้ผู้จัดการใหญ่สายธุรกิจ จ่อตั้ง “ผู้จัดการใหญ่-ผู้ช่วย” เพิ่ม รองรับแผนขยายธุรกิจใหม่ หวังโกยรายได้เพิ่ม 20% จากรายได้ธุรกิจบริหารสินทรัพย์ ปักธงปี’64 โกยรายได้รวม 1.7 หมื่นล้านบาท

นายบรรยง วิเศษมงคลชัย ประธานคณะกรรมการบริหาร บริษัทบริหารสินทรัพย์ กรุงเทพพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) หรือ “BAM” เปิดเผย “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า BAM ได้ปรับโครงสร้างองค์กรใหม่ เพื่อรองรับแผนธุรกิจของบริษัทในระยะ 4-5 ปีข้างหน้า ซึ่งมีการรุกธุรกิจใหม่ ๆ มากขึ้น นอกเหนือไปจากธุรกิจบริหารสินทรัพย์ (AMC) ที่เป็นธุรกิจดั้งเดิม อาทิ ธุรกิจประเมินราคาทรัพย์สิน, ที่ปรึกษาด้านการเงิน, ที่ปรึกษาด้านอสังหาริมทรัพย์, การร่วมทุนกับบริษัทอสังหาริมทรัพย์ หรือพันธมิตรอื่น ตลอดจนการรุกธุรกิจบริหารสินทรัพย์ในประเทศเพื่อนบ้าน เป็นต้น

โดยนอกเหนือจากมติคณะกรรมการบริษัทที่เห็นชอบการแต่งตั้งนายบัณฑิต อนันตมงคล กรรมการบริษัท ดำรงตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่บริหาร (CEO) และรักษาการผู้จัดการใหญ่สายสนับสนุน และแต่งตั้งนายสมพร มูลศรีแก้ว ดำรงตำแหน่งผู้จัดการใหญ่สายธุรกิจ และรักษาการรองผู้จัดการใหญ่สายจำหน่ายทรัพย์ ที่ได้แจ้งตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ไปเมื่อวันที่ 14 ธ.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งการแต่งตั้งจะมีผลตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. 2564 เป็นต้นไปแล้ว ยังจะมีการแต่งตั้งผู้จัดการใหญ่ที่ทำหน้าที่ดูแลระบบหลังบ้าน (back office) และจะรับสมัครผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่เพิ่มอีก 2 ราย

ทั้งนี้ นอกจากปรับโครงสร้างการบริหารแล้ว BAM จะมีการตั้งสำนักงานขึ้น 4 มุมเมือง เพื่อแบ่งการทำงานออกเป็นโซนรับผิดชอบ ซึ่งเริ่มนำร่องไปแล้วที่เขตดอนเมือง

“เราต้องปรับโครงสร้างเพื่อให้รองรับทิศทางธุรกิจที่ตั้งเป้าว่าจะผลักดันสร้างรายได้จากธุรกิจใหม่ให้ได้เพิ่มขึ้น 20% จากรายได้ธุรกิจเดิมที่ทำอยู่ แต่ไม่ได้กำหนดว่าต้องภายในปีไหนถึงจะทำได้ โดยปี 2564 เราตั้งเป้ารายได้รวมทั้งหมด 1.7 หมื่นล้านบาท จากปีนี้คาดว่าจะมีรายได้ประมาณ 1.3 หมื่นล้านบาท ซึ่งไตรมาส 4 จะมีกำไรดีขึ้นจากไตรมาส 3 แน่นอน แต่ทั้งปีกำไรก็คงลดลง”

“ทั้งนี้ สำหรับรายได้จากธุรกิจใหม่จะค่อย ๆ ทยอยเพิ่มขึ้น จากรายได้ค่าธรรมเนียมต่าง ๆ การเข้าไปร่วมทุนที่จะมีมากขึ้น โดยเรามองว่าธุรกิจ AMC ถึงวันหนึ่งจะตัน และผู้เล่นในตลาดก็มีมากขึ้น ดังนั้นจึงต้องมองหาอะไรที่แตกต่างที่จะสร้างรายได้ แต่ธุรกิจหลักก็จะยังเป็น AMC อยู่” นายบรรยงกล่าว