ทีเอ็มบี ส่ง “Business ONE” ตัวช่วยทำธุรกรรมลูกค้าธุรกิจ มั่นใจประหยัดต้นทุน 60%

เสนธิป ศรีไพพรรณ

ธนาคารทีเอ็มบี เปิดแพลตฟอร์ม “Business ONE” ตอบโจทย์ลูกค้าธุรกิจทำธุรกรรมผ่านช่องทางออนไลน์ ชูโซลูชั่นเชื่อมต่อทั้งเรื่อง financial และ non-financial บริหารจัดการมีประสิทธิภาพ ช่วยลดต้นทุนกว่า 60% ตั้งเป้าภายใน 1 ปี มีลูกค้าใช้งานกว่า 1 แสนราย

นายเสนธิป ศรีไพพรรณ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารลูกค้าธุรกิจ ทีเอ็มบี หรือ ธนาคารทหารไทย จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า จากสถานการณ์โควิด-19 ส่งผลให้อัตราการเติบโตของดิจิทัลเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง โดยจากข้อมูลพบว่าคนไทยหันมาซื้อออนไลน์เพิ่มขึ้น 21% และทำธุรกรรมการเงินออนไลน์สูงขึ้นถึง 93% ลูกค้าธุรกิจก็เช่นเดียวกัน โดยลูกค้าธุรกิจของธนาคารเองในช่วง 3 ไตรมาสแรกของปีนี้มีลูกค้าทำธุรกรรมผ่านช่องทางออนไลน์ของทีเอ็มบีเพิ่มขึ้น 50% และลูกค้าเอสเอ็มอีของธนาคารทำธุรกรรมผ่านช่องทางออนไลน์ เพิ่มขึ้นถึง 100% ในปีที่ผ่านมา

อย่างไรก็ดี จากแนวโน้มดังกล่าวธนาคารจึงพัฒนา “Business ONE” ธนาคารดิจิทัลเพื่อโลกธุรกิจ โดยเข้ามาช่วยตอบโจทย์ลูกค้าธุรกิจขนาดกลางและขนาดใหญ่ให้สามารถบริหารจัดการเรื่องธุรกิจได้ง่ายขึ้นผ่านแพลฟอร์ม “Business ONE” ซึ่งจะมีฟีเจอร์หลากหลายโดยไม่ต้องเข้าระบบหลายขั้นตอน ลดปัญหาของภาคธุรกิจ โดยเชื่อมโยงส่วนของ financial และ non-financial เข้าด้วยกันเพื่อให้ลูกค้าสามารถบริหารธุรกิจได้จากที่เดียว ใช้งานง่าย และช่วยธุรกิจขนาดใหญ่และเอสเอ็มอีลดต้นทุนในการทำธุรกรรมผ่านช่องทาง

ทั้งนี้ ฟีเจอร์ของ “Business ONE” ประกอบด้วย การจ่ายเงินหรือโอนเงินทั้งในประเทศและต่างประเทศ การเบิกวงเงินสินเชื่อ มีระบบช่วยแนะนำวิธีการโอนหรือจ่ายเงินที่สะดวก รวมถึงการหาข้อมูลทางบัญชีที่รวดเร็ว และหากมีการใช้งานอย่างต่อเนื่อง ระบบจะสามารถประมวลข้อมูลได้เอง และแสดงข้อมูลในเชิงวิเคราะห์ เป็นการช่วยวางแผนการเงินในอนาคตได้ นอกจากนี้ ยังสามารถเชื่อมต่อกับแอปพลิเคชัน HR Management ที่ช่วยให้ลูกค้าบริหารทรัพยากรบุคคลได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น เพราะเชื่อมต่อเรื่องการบริหารพนักงานและการจ่ายเงินเดือนเข้าด้วยกัน

ปัจจุบันมีลูกค้าเอสเอ็มอีและรายใหญ่ใช้งานดิจิทัลแบงกิ้งประมาณ 5 หมื่นราย ธนาคารตั้งเป้าภายใน 1 ปี จะมีลูกค้าเข้ามาใช้งานเพิ่มเป็น 1 แสนราย และคาดว่าจะสามารถช่วยลดต้นทุนให้กับลูกค้าภาคธุรกิจกว่า 60%


“เราพัฒนาโซลูชั่นให้ภาคธุรกิจสามารถทำธุรกรรมง่ายเหมือนบุคคลธรรมดา เพราะภาคธุรกิจมีการทำธุรกรรมที่มีวอลุ่มค่อนข้างเยอะ แต่ยังมีข้อจำกัดและติดปัญหาหลายอย่าง ซึ่งเราหวังว่า Business ONE จะมาช่วยตอบโจทย์ โดยเราไม่ได้คาดหวังว่าจะมีรายได้ค่าธรรมเนียมจากตรงนี้ และสามารถช่วยลดต้นทุนทั้งของลูกค้าและธนาคารได้ เพราะส่วนใหญ่ลูกค้าธุรกิจจะใช้บริการสาขาธนาคารอยู่”