ค่าเงินบาทเคลื่อนไหวในกรอบแคบ ตลาดจับตาดูการประชุมธนาคารกลางหลายแห่ง

เงินบาท

ฝ่ายค้าเงินตราต่างประเทศ ธนาคารกรุงเทพ รายงานว่า ภาวะการเคลื่อนไหวตลาดปริวรรตเงินตราประจำวันจันทร์ที่ 15 ธันวาคม 2563

ค่าเงินบาทเปิดตลาดเช้าวันนี้ (15/12) ที่ระดับ 30.08/09 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ ทรงตัวจากระดับปิดตลาดในวันจันทร์ (14/12) ที่ระดับ 30.08/10 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐเคลื่อนไหวในกรอบแคบ ขณะที่นักลงทุนจับตาดูการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ระหว่างวันที่ 15-16 ธ.ค. โดยนักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า เฟดจะยังคงตรึงอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นที่ระดับ 0.00-0.25% ต่อไป แต่อาจมีการเปลี่ยนแปลงวงเงินในการซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ

ซึ่งปัจจุบนนี้วงเงินดังกล่าวอยู่ที่ระดับ 8 หมื่นล้านดอลลาร์/เดือน ขณะที่วงเงินการซื้อตราสารหนี้ที่มีสินเชื่อที่อยู่อาศัยเป็นหลักประกันการจำนอง (MBS) อยู่ที่ 4 หมื่นล้านดอลลาร์/เดือน เพื่อรักษาเสถียภาพในตลาดการเงิน

สำหรับปัจจัยภายในประเทศ ค่าเงินบาทวันนี้เคลื่อนไหวในกรอบแคบ ขณะที่นักลงทุนติดตามดูการประชุมของธนาคารกลางต่าง ๆ ในช่วงสัปดาห์นี้ นอกจากนี้นักลงทุนยังคงจับตามองสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 อย่างใกล้ชิด จากกรณีการแพร่ระบาดที่ภาคเหนือของไทยนั้นเริ่มแพร่กรจายสู่ภูมิภาคต่าง ๆ ของประเทศ ทั้งนี้ระหว่างวันค่าเงินบาทเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบระหว่าง 30.05-30.10 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ ก่อนปิดตลาดที่ระดับ  30.05/07 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ

สำหรับการเคลื่อนไหวของค่าเงินยูโร ค่าเงินยูโรเปิดตลาดเช้าวันนี้ (15/12) ที่ระดับ 1.2159/61 ดอลลาร์สหรัฐ/ยูโร ปรับตัวแข็งค่าขึ้นเล็กน้อยจากระดับปิดตลาดเมื่อวันจันทร์ (14/12) ที่ระดับ 1.2145/46 ดอลลาร์สหรัฐ/ยูโร ค่าเงินยูโรเคลื่อนไหวค่อนข้างแคบโดยนักลงทุนยังคงจับตาการเจรจาข้อตกลงการค้าระหว่างอังกฤษและสหภาพยุโรป

ล่าสุดในวันนี้เจ้าหน้าที่สหภาพยุโรปซึ่งทำหน้าที่เป็นหัวหน้าผู้แทนการเจรจา Brexit เปิดเผยว่า การบรรลุข้อตกลงการค้าระหว่างอังกฤษและ EU ยังคงมีความเป็นไปได้ ทั้งนี้ระหว่างวันค่าเงินยูโรเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบระหว่าง 1.2130-1.2162 ดอลลาร์สหรัฐ/ยูโร และปิดตลาดที่ระดับ 1.2146/49ดอลลาร์สหรัฐ/ยูโร

สำหรับการเคลื่อนไหวของค่าเงินเยน ค่าเงินเยนเปิดตลาดเช้าวันนี้ (15/12) ที่ระดับ 104.08/10 เยน/ดอลลาร์สหรัฐ อ่อนค่าขึ้นมาเล็กน้อยจากระดับปิดตลาดเมื่อวันจันทร์ (15/12) ที่ระดับ 103.85/87 เยน/ดอลลาร์สหรัฐ ค่าเงินเยนยังคงเคลื่อนไหวในกรอบแคบ แม้นักลงทุนวิตกเกี่ยวกับผลกระทบทางเศรษฐกิจจากการที่รัฐบาลญี่ปุนประกาศระงับโครงการ “Co To ravel”  ทั่วประเทศเป็นการชั่วคราวในช่วงวันหยุดสิ้นปีและปีใหม่เพื่อรับมือกับการแพร่ระบาดรอบใหม่ของโรคโควิด-19 ทั้งนี้ระหว่างวันค่าเงินเยนเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบระหว่าง 103.97-104.14 เยน/ดอลลาร์สหรัฐ และปิดตลาดที่ระดับ 03.85/87 เยน/ดอลลาร์สหรัฐ

ดัชนีสำคัญทางเศรษฐกิจในสัปดาห์นี้ได้แก่ ดุลการค้าญี่ปุ่น เดือนพฤศจิกายน (16/12), ดัชนีพีเอ็มไอภาคการผลิตญี่ปุ่น เดือนันวาคม (16/12), ดัชนีราคาผู้บริโภคสหราชอาณาจักร เดือนพฤศจิกายน (16/12), ดัชนีพีเอ็มไอภาคการผลิตเยอรมนี เดือนธันวาคม (16/12), ดัชนีพีเอ็มไอภาคการผลิตสหภาพยุโรป เดือนธันวาคม (16/12), ดัชนีพีเอ็มไอภาคการผลิตสหราชอาณาจักร เดือนธันวาคม (16/12), ดุลการค้าสหภาพยุโรป เดือนตุลาคม (16/12),

ยอดค้าปลีกสหรัฐ เดือนพฤศจิกายน (16/12), ดัชนีพีเอ็มไอภาคการผลิตสหรัฐ เดือนธันวาคม (16/12), อัตราดอกเบี้ยนโยบายของธนาคารกลางสหรัฐ (17/12), ดัชนีราคาผู้บริโภคสหภาพยุโรป เดือนพฤศจิกายน (17/12), อัตราดอกเบี้ยนโยบายของธนาคารกลางสหราชอาณาจักร (17/12), จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกสหรัฐ (17/12), จำนวนบ้านสร้างใหม่สหรัฐ เดือนพฤศจิกายน (7/12),

ดัชนีภาคการผลิตจากธนาคารกลางสหรัฐสาขาฟิลาเดลเฟีย เดือนพฤศจิกายน (17/12), ดัชนีราคาผู้บริโภคญี่ปุ่น เดือนพฤศจิกายน (18/12), อัตราดอกเบี้ยนโยบายของธนาคารญี่ปุ่น (18/12), ยอดค้าปลีกสหภาพยุรป เดือนพฤศจิกายน (18/12), ดัชนีราคาผู้ผลิตเยอรมนีเดือนพฤศจิกายน (18/12) และดัชนีบรรยากาศทางธุรกิจของเยอรมันจากสถาบัน Ifo เดือนธันวาคม (18/12)

สำหรับอัตราป้องกันความเสี่ยง (Swap point) ภาคเช้า 1 เดือนในประเทศอยู่ที่ -2.4/-1.5 สตางค์/ดอลลาร์สหรัฐ และอัตราป้องกันความเสี่ยง ภาคเช้า 1 เดือนต่างประเทศอยู่ที่ -3.2/-1.9 สตางค์/ดอลลาร์สหรัฐ