“ฟิลลิปประกันชีวิต” โตวันโตคืนโชว์ผลงาน 8 เดือน เบี้ยรับรวมโต 19% จัดโปรดักต์ใหม่เน้นลดหย่อนภาษีเร่งเครื่องโค้งสุดท้ายดันเบี้ยรับรวมทั้งปีเข้าเป้า 1,130 ล้านบาท พร้อมวางเป้าหมาย 3 ปีเบี้ยรับรวมแตะระดับ 2,000 ล้านบาท เร่งพัฒนาโปรดักต์-ไอที-บุคลากรรองรับ
นายชวลิต ทองรมย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายขาย บริษัท ฟิลลิปประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ปี 2560 นี้ บริษัทตั้งเป้าหมายเบี้ยประกันชีวิตรับรวมทีี่ 1,130 ล้านบาท เติบโต 13% จากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน โดย 8 เดือนแรก (ม.ค.-ส.ค.) บริษัทมีเบี้ยรับรวม 664 ล้านบาท เติบโต 19% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน แบ่งเป็น เบี้ยรับปีแรก 176 ล้านบาท เติบโตเพิ่มขึ้น 52% เบี้ยจ่ายครั้งเดียว 41 ล้านบาท เติบโตเพิ่มขึ้น 20%
“ปีนี้เราน่าจะสร้างเบี้ยรับรวมได้ตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ ส่วนแผนอีก 3 ปีข้างหน้า ตั้งเป้าหมายว่าจะมีเบี้ยรับรวมที่ 2,000 ล้านบาท” นายชวลิตกล่าว
นายชวลิตกล่าวอีกว่า ไตรมาส 4/60 บริษัทวางแผนออกผลิตภัณฑ์ใหม่ เพื่อรองรับความต้องการลดหย่อนภาษี และสำหรับผู้วางแผนไว้ยามเกษียณ อาทิ แบบประกันภัยสุขบำนาญ 90/60 กับ แบบประกันภัยแฮบปี้ เวลธ์ตี้ 90/15 สำหรับขายผ่านช่องทางตัวแทน และแบบสมาร์ท เท็น 10/1 เลือกจ่ายเบี้ยแบบครั้งเดียว ที่จะให้ผลตอบแทนสูง พร้อมกับการหักลดย่อนภาษีสำหรับขายผ่านช่องทางดิจิทัล
นอกจากนี้ บริษัทยังได้พัฒนาระบบปฏิบัติการชื่อว่า “iFame” ให้ลูกค้าและตัวแทนใช้งานด้านข้อมูลกรมธรรม์ประเภทต่าง ๆ บนมือถือได้อย่างสะดวกสบาย และในอนาคตมีแผนจะพัฒนาสู่เวอร์ชั่น 3 โดยดึงเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) กับฝ่ายพิจารณาการรับประกัน (underwriter) คัดกรองข้อมูลช่วยเหลือฝ่ายขายให้ง่ายต่อการทำงานยิ่งขึ้น และรองรับการซื้อประกันออนไลน์ผ่านมือถือ ขณะนี้ยื่นขอสำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) แล้ว
นายชวลิตกล่าวว่า ปัจจุบันบริษัทมีเบี้ยประกันจากช่องทางดิจิทัล เช่นเว็บไซต์ และสื่อสังคมออนไลน์ เติบโตกว่า 20% โดยเน้นขายผลิตภัณฑ์ประกันชีวิตประเภทสะสมทรัพย์ระยะสั้น ที่อนาคตจะต่อยอดสู่ตัวแทนมืออาชีพ (Smart career agent) ที่จะมีเครื่องมือเป็นโทรศัพท์มือถือเครื่องเดียวในการขาย
นอกจากนี้ปีนี้บริษัทจะขยายตัวแทนประกันชีวิตในกลุ่มคนรุ่นใหม่เพิ่มอีก 600 คน จากปัจจุบันมีตัวแทนฯรวม 2,500 คน และจะยกระดับสู่การเป็นที่ปรึกษาทางการเงิน จากปัจจุบันมีที่ปรึกษาการเงินเพียง 12 คนเท่านั้น ทั้งนี้บริษัทจะยกระดับฟิลลิปประกันชีวิตในประเทศไทย ให้เป็นศูนย์กลางข้อมูลที่จะกระจายไปยังบริษัท ฟิลลิป เจนเนอรัล อินชัวรันส์ และบริษัท ฟิลลิปประกันชีวิต ในประเทศกัมพูชาต่อไป