ธ.ก.ส.จ่อเปิดตัว “ทวีรัก 99” เงินฝากสงเคราะห์ชีวิตตัวใหม่ 1 พ.ย.นี้ ตั้งเป้าหมาย 5 แสนกรมธรรม์ ขณะที่ภาพรวมปีบัญชี 2560 ตั้งเป้าโกยเบี้ยสงเคราะห์ชีวิตเพิ่ม 12% หรือ 1.58 ล้านกรมธรรม์ มั่นใจทำได้ ! หลังขายได้แล้ว 7.8 แสนกรมธรรม์ ยันผลดำเนินงานครึ่งปีทำได้ตามเป้าทั้งสินเชื่อ-ลดเอ็นพีแอล ส่วนสลากออมทรัพย์ตัวใหม่ ขายดียอดพุ่ง 2.5 หมื่นล้านบาท
- สถิติหวย ตรวจหวย ผลสลากกินแบ่งรัฐบาล งวด 16 เมษายน ย้อนหลัง 10 ปี
- อย.เปิดชื่ออาหารเสริม พบสารอันตราย ร้ายแรงจนถึงแก่ชีวิต เตรียมดำเนินการตามกฎหมาย
- BITE SIZE : ขึ้นค่าแรง 10 จังหวัด-ปรับเงินเดือนข้าราชการ เพิ่มขึ้นเท่าไร
นายสมศักดิ์ กังธีระวัฒน์ รองผู้จัดการ ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) เปิดเผย “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า ในวันครบรอบ 51 ปี ธ.ก.ส. วันที่ 1 พ.ย.นี้ ธนาคารจะเปิดตัวเงินฝากสงเคราะห์ชีวิตที่เป็นผลิตภัณฑ์ใหม่ ชื่อว่า “ธ.ก.ส.ทวีรัก 99” ที่จะให้ความคุ้มครองกรณีเสียชีวิต หรือทุพพลภาพ ในวงเงิน 100,000 บาท จนถึงอายุ 99 ปี ซึ่งผู้ที่สามารถใช้บริการนี้ได้ ต้องเป็นเกษตรกรและครอบครัวที่เป็นสมาชิกสมาคมฌาปนกิจสงเคราะห์มาก่อน โดยมีอายุตั้งแต่ 20-60 ปีทั้งนี้ในปีแรกทางธนาคารตั้งเป้าโปรดักต์ใหม่จะรับฝากไว้ที่ราว 10% หรือตกประมาณ 500,000 กรมธรรม์ ถือเป็นสงเคราะห์ชีวิตอีกตัวที่ออกมาช่วยให้สมาคมฌาปนกิจสงเคราะห์ที่มีกว่า 800 แห่งทั่วประเทศ มีสมาชิกราว 5 ล้านราย มีความเข้มแข็งขึ้น
“อัตราค่าเบี้ยจะคิดเท่ากันไปตลอดทุกปี เช่นถ้าเริ่มตั้งแต่อายุ 20 ปี ค่าเบี้ยจะอยู่ที่ 1,120 บาทต่อกรมธรรม์ต่อปี และถ้าอายุ 60 ปี ค่าเบี้ยจะอยู่ที่ 4,630 บาทต่อกรมธรรม์ต่อปี ซึ่งกรณีจ่ายเบี้ยนาน 70 ปี ค่าเบี้ยรวมจะตกที่กว่า 7 หมื่นบาท แต่จะได้ความคุ้มครองที่ 100,000 บาท ถือว่าช่วยให้เกษตรกรและครอบครัวมีภูมิคุ้มกันเพิ่มขึ้น” นายสมศักดิ์กล่าว
ทั้งนี้ ในปีบัญชี 2560 (เม.ย.2560-มี.ค.2561) ธ.ก.ส.ตั้งเป้าหมายเงินฝากสงเคราะห์ชีวิตในภาพรวมทั้งสิ้น 1.58 ล้านกรมธรรม์ หรือเติบโตขึ้น 12% (ทั้งเบี้ยต่ออายุ และเบี้ยใหม่) เมื่อเทียบกับปีบัญชีก่อนที่ทำได้ 1.41 ล้านกรมธรรม์ (ณ สิ้น มี.ค.2560) จากผลิตภัณฑ์ที่มีอยู่ 2 ตัวด้วยกัน คือ ธ.ก.ส.มอบรัก 1/1 และ ธ.ก.ส.เพิ่มรัก 12/10 โดยขณะนี้ผ่านมาแล้ว 6 เดือน (เม.ย.-ก.ย.2560) ทำได้แล้ว 780,000 กรมธรรม์ ซึ่งถึงสิ้นปีบัญชี เมื่อรวมกับเงินฝากสงเคราะห์ชีวิตที่เป็นผลิตภัณฑ์ใหม่ก็น่าจะทำได้ตามเป้าหมายที่ตั้งไว้
นายสมศักดิ์กล่าวด้วยว่า สำหรับผลดำเนินงานในปีบัญชี 2560 ที่ผ่านมาแล้ว 6 เดือนนั้น การปล่อยสินเชื่อใหม่ถือว่าทำได้ใกล้เคียงเป้าหมาย เนื่องจากตลอดปีบัญชีนี้ตั้งเป้าขยายสินเชื่อ 86,000 ล้านบาท ซึ่งครึ่งปีแรกก็ทำได้เกือบครึ่งหนึ่งของเป้าหมายทั้งหมดแล้ว ขณะนี้การลดหนี้ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (เอ็นพีแอล) ก็ทำได้ดี โดยลดเหลือกว่า 4% เล็กน้อย จากช่วงต้นปีบัญชีที่เอ็นพีแอลขึ้นไปสูงกว่านี้ ดังนั้นจึงถือว่าอยู่ในระดับที่ควบคุมได้ และเชื่อว่าในอีก 6 เดือนที่เหลือจะสามารถลดเอ็นพีแอลได้ตามเป้าหมาย
ด้านความคืบหน้าหลังออกจำหน่ายสลากออมทรัพย์ ธ.ก.ส.ชุด “เกษตรมั่งคั่ง” อายุ 3 ปี ที่ตั้งเป้าหมายระดมทุน 60,000 ล้านบาท คาดว่าเดือนพ.ย.จะจำหน่ายหมด โดยปัจจุบันมียอดจำหน่ายแล้ว 25,000 ล้านบาท