คนละครึ่ง ใช้จ่ายทะลุ 7 หมื่นล้าน เฟส 2 เร่งยืนยันตัวตนก่อนถูกตัดสิทธิ์

คนละครึ่ง

คนละครึ่ง ประชาชน-รัฐ ยอดใช้จ่ายพุ่ง 7 หมื่นกว่าล้านบาท

นางสาวกุลยา ตันติเตมิท ผู้ตรวจราชการกระทรวงการคลัง รักษาราชการแทนผู้อำนวยการสำนักงาน เศรษฐกิจการคลัง ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง เปิดเผยความคืบหน้าการดำเนินโครงการคนละครึ่งว่า ณ วันที่ 24 มกราคม 2564 มีร้านค้าลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการแล้วกว่า 1 ล้านร้านค้า และมีผู้ใช้สิทธิแล้วจำนวน 13,655,380 คน โดยมียอดการใช้จ่ายสะสม 71,323 ล้านบาท

แบ่งเป็นเงินที่ประชาชนจ่าย 36,488 ล้านบาท และภาครัฐร่วมจ่ายอีก 34,835 ล้านบาท โดยจังหวัดที่มีการใช้จ่ายสะสมมากที่สุด 5 อันดับแรก ได้แก่ กรุงเทพมหานคร ชลบุรี สงขลา เชียงใหม่ และสมุทรปราการ ตามลำดับ ซึ่งผู้ประกอบการร้านค้ายังคงสมัครเข้าร่วมโครงการได้อย่างต่อเนื่อง

สำหรับผู้ที่ลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการคนละครึ่ง ระยะที่ 2 รอบเพิ่มเติมเมื่อวันที่ 20 มกราคม 2564 ที่ได้รับ SMS ยืนยันสิทธิ จะสามารถใช้จ่ายในโครงการได้ระหว่างวันที่ 25 มกราคม – 31 มีนาคม 2564 อย่างไรก็ดี ต้องเริ่มใช้จ่ายผ่านแอปพลิเคชัน “เป๋าตัง” ครั้งแรกภายใน 14 วัน หรือภายในวันที่ 7 กุมภาพันธ์ 2564 มิเช่นนั้นจะถูกตัดสิทธิ จึงขอให้รีบดำเนินการยืนยันตัวตน


ทั้งนี้ สามารถดำเนินการเองได้โดยง่ายผ่านแอปพลิเคชัน “เป๋าตัง” หรือดำเนินการผ่านตู้เอทีเอ็มสีเทาของธนาคารกรุงไทยกว่า 3,300 ตู้ทั่วประเทศ โดยสามารถค้นหาตำแหน่งของตู้เอทีเอ็มสีเทาได้ใน Google Maps โดยพิมพ์คำว่า “ATM กรุงไทย ยืนยันตัวตน” โดยไม่จำเป็นต้องไปยืนยันตัวตนที่สาขาของธนาคารกรุงไทยเพียงช่องทางเดียว ทั้งนี้ สำหรับประชาชนที่ใช้สิทธิโครงการคนละครึ่งแล้วไม่สามารถใช้สิทธิช้อปดีมีคืนได้