หุ้น-การเงิน

หุ้นไทยเข้าสู่ภาวะเสี่ยงขาลง คาดเช้านี้แกว่งตัวระหว่าง 1,450-1,475 จุด

หุ้น-728x446

ตลาดหุ้นไทยเข้าสู่ภาวะเสี่ยงขาลง คาดเช้านี้ (1 ก.พ. 64) แกว่งตัวระหว่าง 1,450-1,475 จุด

บริษัท หลักทรัพย์ ฟิลลิป (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) รายงานแนวโน้มตลาดหุ้นไทยวันนี้ (1 ก.พ. 64) ว่า ตลาดยังเสี่ยงลงต่อ คาดเช้านี้แกว่งตัวระหว่าง 1,450 – 1,475 จุด ท่ามกลางการปรับตัวลงต่อเนื่องของตลาดหุ้นสหรัฐและยุโรปในสัปดาห์ก่อน โดยเมื่อคืนวันศุกร์ที่ผ่านมา ดัชนีหุ้นสหรัฐถูกทิ้งดิ่งลงมาอีกราว 2% รวมถึงตลาดหุ้นในแถบยุโรปก็ปรับตัวลงหนักเช่นกันราว 1.5 – 2% บนประเด็นความเปราะบางของตลาดจากการเก็งกำไรในหุ้นต่างๆ มากจนเกินไป จนทำให้นักลงทุนหลายรายกังวลกับภาวะฟองสบู่แตก

โดยเมื่อสัปดาห์ก่อนกิดกรณีความผันผวนอย่างหนักในหุ้นบริษัท Gamestop ขณะที่บรรดาผู้ที่ได้รับความเสียหายจากกรณีดังกล่วได้ยื่นฟ้องต่อหน่วยงานกำกับตลาดทุนสหรัฐ (US SEC) ให้เข้ามาดูแล

ลุ้นขนาดวงเงินมาตรการกระตุ้นฯ ของโจ ไบเดน ล่าสุดสื่อต่างประเทศรายงานว่ามี ส.ว.จากรีพับลิกันทั้งหมด 10 ราย ยื่นหนังสือถึงโจ ไบเดน เพื่อนำเสนอมาตรการกระตุ้นฯ ชุดใหม่ที่มีขนาดวงเงินเพียง 6 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ มาใช้แทนที่ข้อเสนอมาตรการฯ 1.9 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยฝ่ายวิจัยฝ่ายมองว่าแม้มาตรการฯ จะมีขนาดวงเงินลดลงกว่าเดิมมาก แต่จะช่วยให้มาตรการฯ ชุดนี้สามารถผ่านมติในชั้น ส.ว.ได้ทันที เนื่องจากพรรค เดโมแครตมีสมาชิก ส.ว.จำนวน 50 ราย รวมกับ สว. จากรีพับลิกันที่เสนอตัวเข้ามาอีก 10 ราย จะเพียงพอกับกฎการลงคะแนนในชั้น ส.ว. ที่ต้องได้รับการลงมติ 60 เสียง จากทั้งหมด 100 เสียง

ทางฝ่ายวิจัยแนะนำให้ติดตามใกล้ชิด เพราะหากผู้นำสหรัฐเห็นด้วยและรับข้อสนอนี้ ในภาพระยะสั้นตลาดอาจผิดหวังและเผชิญกับแรงขาย แต่ในระยะกลางขึ้นไปการที่สามารถอนุมัติมาตรการฯ ได้โดยเร็ว จะเป็นบวกต่อทั้งตลาดหุ้นและเศรษฐกิจต่อไปมากกว่า

ขณะที่สมาชิกกลุ่ม OPEC+ ยังสามัคดี โดยผู้แทนกลุ่ม OPEC+ เปิดเผยข้อมูลล่าสุดว่าปัจจุบันสมาชิกในกลุ่มยังให้ความร่วมมือและทำตามข้อตกลงการควบคุมกำลังผลิตน้ำมันดิบเป็นอย่างดี ตามที่ได้ตกลงไว้ในการประชุม OPEC+ ครั้งล่าสุด ซึ่งทำให้เป้าหมายที่ตั้งไว้ว่าจะลดกำลังการผลิตน้ำมันดิบ 7.2 ล้านบาร์เรลต่อวัน ยังคงเป็นไปตามแผน แสดงให้เห็นถึงความสามัคคีของกลุ่ม OPEC+ ซึ่งจะส่งผลต่อความเชื่อมั่นของเสถียรภาพราคาน้ำมันดิบในระยะหลังจากนี้ให้ราคา WTI และ Brent สามารถยืนเหนือ 50 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรลได้อย่างต่อเนื่อง

ส่วนวันนี้ติดตามตัวเลขเศรษฐกิจ 1.Caixin Manufacturing PMI (ม.ค.64) ของจีน ตลาดคาด 52.7 จุด 2.Manufacturing PMI (ม.ค.64) ของอียู ตลาดคาด 54.7 จุด และ 3.ISM Manufacturing PMI (ม.ค.64) ของสหรัฐ ตลาดคาด 60.0 จุด