คนไม่มีสมาร์ทโฟน ลงทะเบียน “เราชนะ” แล้ว 2.1 แสนคน ขยายเวลาถึง 5 มี.ค.

เราชนะ ลงทะเบียน1

อัพเดท!  คลังสรุปตัวเลข คนไม่มีสมาร์ทโฟน ลงทะเบียน “เราชนะ” แล้ว 2.1 แสนคน พร้อมขยายเวลาการเปิดลงทะเบียนถึงวันที่ 5 มีนาคม 2564 ขอให้ประชาชนไม่ต้องรีบร้อนเข้ามาลงทะเบียน

วันที่ 16 กุมภาพันธ์ 2564 น.ส.กุลยา ตันติเตมิท ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง(สศค.) เปิดเผยความคืบหน้าการเปิดลงทะเบียนโครงการเราชนะ สำหรับกลุ่มผู้ต้องการความช่วยเหลือเป็นพิเศษ เช่น ไม่สามารถเข้าถึงระบบอินเทอร์เน็ต ไม่มีสมาร์ทโฟน หรือผู้ที่อยู่ในภาวะพึ่งพิง ผู้พิการ ผู้ป่วยติดเตียง ตั้งแต่วันที่ 15 ก.พ.ที่ผ่านมา ล่าสุด ณ เวลา 15.30 น. มีประชาชนเข้ามาลงทะเบียนแล้ว 210,000 ราย โดยขณะนี้กระทรวงการคลังได้มีการขยายระยะเวลาการเปิดลงทะเบียนถึงวันที่ 5 มีนาคม 2564 จึงขอให้ประชาชนไม่ต้องรีบร้อนเข้ามาลงทะเบียน

สำหรับประชาชนกลุ่มนี้ที่ต้องการลงทะเบียน นำบัตรประชาชนแบบสมาร์ทการ์ด (Smart Card) ไปติดต่อ ขอลงทะเบียนได้ที่สาขาหรือจุดบริการเคลื่อนที่ของธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) (ธนาคารกรุงไทย) และต้องพิสูจน์และยืนยันตัวตนโดยการเสียบบัตรประจำตัวประชาชน (Dip Chip) ผ่านเครื่องรูดบัตรอิเล็กทรอนิกส์ (Electronic Data Capture หรือ EDC) พร้อมกำหนดรหัส (PIN Code)

ส่วนประชาชนที่อยู่ในกลุ่มผู้ที่ต้องการความช่วยเหลือพิเศษที่ประสงค์จะสมัครเข้าร่วมโครงการฯ จะต้องแสดงตนที่สาขาหรือจุดบริการเคลื่อนที่ ของธนาคารกรุงไทยด้วยตนเอง โดยไม่สามารถมอบอำนาจให้ผู้อื่นดำเนินการแทนได้ เนื่องจากจะต้องมีการเก็บข้อมูลเพื่อยืนยันตัวตน (Verification) อันจะเป็นการรักษาผลประโยชน์ของผู้ลงทะเบียนเอง และป้องกันไม่ให้มีการสวมสิทธิ์

อย่างไรก็ตาม จากการที่มีประชาชนที่อยู่ในกลุ่มที่ต้องการความช่วยเหลือพิเศษไปขอรับบริการที่สาขาหรือจุดบริการเคลื่อนที่ของธนาคารกรุงไทยจำนวนมาก กระทรวงการคลังได้มีการประสานกับกระทรวงมหาดไทยเพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่ประชาชนกลุ่มดังกล่าวเพิ่มเติม โดยประชาสัมพันธ์ไปยังหมู่บ้านและอำเภอต่าง ๆ เพื่อสำรวจจำนวนประชาชนที่อยู่ในกลุ่มดังกล่าวที่ต้องการสมัครเข้าร่วมโครงการฯ และประสานไปยังธนาคารกรุงไทยให้จัดจุดบริการเคลื่อนที่เพิ่มเติม รวมถึงเพิ่มบริการจัดทำบัตรประชาชนแบบสมาร์ทการ์ด (Smart Card) แก่ประชาชนที่มีบัตรประชาชนรูปแบบเก่า รวมถึงบัตรประชาชนชำรุด เพื่อให้สามารถลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการฯ ได้


ทั้งนี้ ประชาชนที่ผ่านการคัดกรองคุณสมบัติจะได้รับวงเงินสิทธิ์เป็นรายสัปดาห์ จำนวน 3,500 บาทต่อเดือน หรือ 7,000 บาทต่อคนตลอดทั้งโครงการ เช่นเดียวกับประชาชนกลุ่มอื่น ๆ โดยสามารถใช้จ่ายวงเงินสิทธิ์เพื่อชำระค่าสินค้าและบริการผ่านบัตรประชาชนได้ที่เครื่องรูดบัตรอิเล็กทรอนิกส์ (EDC) หรือผ่านแอปพลิเคชัน “ถุงเงิน” สำหรับร้านค้าในโครงการธงฟ้าราคาประหยัดพัฒนาเศรษฐกิจท้องถิ่น ร้านค้าในโครงการคนละครึ่งที่ตกลงยินยอมเข้าร่วมโครงการฯ รวมถึงผู้ประกอบการ/ร้านค้าและบริการที่เข้าร่วมโครงการฯ ได้ตั้งแต่วันที่ 5 มีนาคม จนถึงวันที่ 31 พฤษภาคม 2564