ทำความรู้จัก Digital Healthcare ผู้ชนะในการลงทุนปี 2020

คอลัมน์ สถานีลงทุน
สวภพ ยนต์ศรี บลจ.ทิสโก้

ในปี 2020 ที่เพิ่งผ่านพ้นไป การแพร่ระบาดของไวรัสนั้นได้ส่งผลกระทบกับโลกของการลงทุนเป็นอย่างมาก ซึ่งแน่นอนว่ามีกลุ่มบริษัทที่เสียประโยชน์อย่างมหาศาล แต่ในทางกลับกันก็มีกลุ่มที่ได้รับประโยชน์อย่างมหาศาลเช่นเดียวกัน

อย่างที่เราทราบกันดีว่าการลงทุนในกลุ่มที่ได้รับผลตอบแทนมากที่สุดคือบริษัทที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยีในด้านต่าง ๆ ที่การแพร่ระบาดของไวรัสได้ส่งผลให้ความต้องการใช้งานเทคโนโลยีเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว

โดยหากดูจากผลตอบแทนของดัชนี MSCI ACWI Information Technology Index ซึ่งเป็นเหมือนตัวแทนของหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีทั่วโลก พบว่าสามารถสร้างผลตอบแทนในปี 2020 ได้สูงถึง 46.13%

ส่วนการลงทุนในอีกหนึ่งกลุ่มที่สามารถสร้างผลตอบแทนได้ดีเช่นเดียวกันก็คือ การลงทุนในกลุ่ม healthcare ที่หากดูจากผลตอบแทนของดัชนี MSCI ACWI Health Care Index ซึ่งเป็นเหมือนตัวแทนของหุ้นกลุ่ม Healthcare ทั่วโลก พบว่าสามารถสร้างผลตอบแทนได้ 15.44% ในปี 2020 ที่ผ่านมา

แต่หากเราเจาะลึกลงไปในการลงทุนกลุ่ม Healthcare จะพบว่าการเจาะจงการลงทุนไปยังบริษัทที่นำเอาเทคโนโลยีหรือนวัตกรรมด้านต่าง ๆ มาใช้ประโยชน์ในทางการแพทย์ที่เรียกว่า digital healthcare นั้น เป็นธีมการลงทุนที่สามารถสร้างผลตอบแทนได้ดีที่สุดในปี 2020 ที่ผ่านมา

โดยหากดูข้อมูลผลตอบแทนของกองทุนในหมวด Healthcare ในประเทศไทย พบว่ากองทุนที่ลงทุนใน digital healthcare สามารถสร้างผลตอบแทนได้สูงถึง 79.86% และสามารถสร้างผลตอบแทนได้มากที่สุดในปี 2020

digital healthcare คืออะไร ?

“digital healthcare” คือการนำเอา technology เข้ามาเพิ่มประสิทธิภาพในอุตสาหกรรมการแพทย์ รวมถึงช่วยสร้างนวัตกรรมในการป้องกันการเจ็บป่วย ช่วยให้การรักษาเข้าถึงได้ง่าย มีราคาถูกลง และมีประสิทธิภาพมากขึ้น

ตัวอย่างของ digital healthcare ที่สามารถเห็นภาพได้อย่างชัดเจน เช่น การไปพบแพทย์เพื่อวินิจฉัยโรค ซึ่งก่อนหน้านี้การไปพบแพทย์ที่โรงพยาบาลเราต้องเสียเวลาไปกับการเดินทางและการรอคิว ยิ่งในช่วงเกิดการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ด้วยแล้ว หากไม่มีความจำเป็นจากการเจ็บป่วยรุนแรงเกิดขึ้นจริง ๆ เราคงไม่อยากที่จะเดินทางไปพบแพทย์ที่โรงพยาบาลมากนัก

โดยเฉพาะอย่างยิ่งในประเทศสหรัฐที่มีจำนวนผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 มากที่สุดในโลก โรงพยาบาลคงเป็นสถานที่ท้าย ๆ ที่ผู้คนอยากจะเดินทางไป แต่ด้วยการเกิดขึ้นของ digital healthcare ทำให้สามารถเชื่อมโยงคนไข้และบุคลากรทางการแพทย์เข้าด้วยกันเพื่อปรึกษาอาการเบื้องต้นผ่านทางโทรศัพท์และระบบออนไลน์ ทำให้คนไข้สามารถพบแพทย์ได้โดยที่ไม่ต้องเดินทางไปที่โรงพยาบาลอีกต่อไป

ในช่วงปี 2020 ที่ผ่านมา บริษัท Teladoc ซึ่งเป็นหนึ่งในบริษัทที่ให้บริการปรึกษาแพทย์ออนไลน์ในสหรัฐ มีจำนวนผู้ใช้งานเพิ่มมากขึ้นอย่างมหาศาล เพียงแค่ 9 เดือนแรกมีผู้เข้าใช้งาน Teladoc เพิ่มสูงขึ้นถึง 163% และมีจำนวนสมาชิกสูงถึง 51.5 ล้านราย เติบโตถึง 47% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน

สำหรับตัวอย่างบริษัทที่ใช้ digital healthcare เพื่อการผลิตคิดค้นเครื่องมือที่ทันสมัยและนำมาใช้ในวงการแพทย์ คือ บริษัท Dexcom ผู้ผลิตอุปกรณ์วัดค่าน้ำตาลในเลือดสำหรับผู้ป่วยโรคเบาหวานโดยที่ไม่ต้องเจาะเลือด และสามารถแสดงผลผ่านหน้าจอมือถือทั้งอุปกรณ์ของ Apple และ Android เพื่อแจ้งเตือนค่าน้ำตาลในเลือดเมื่ออยู่ในระดับสูงหรือต่ำกว่าค่าที่กำหนด

ซึ่งระดับค่าน้ำตาลในเลือดสามารถแสดงผลได้แบบ real time และค่าที่แสดงออกมามีความแม่นยำใกล้เคียงกับการใช้เข็มเจาะเลือดอย่างมาก

ส่วนในแง่มุมของการรักษาโรค อีกหนึ่งบริษัทที่น่าสนใจที่ใช้ digital healthcare เข้ามามีส่วนช่วยในการรักษาโรคคือบริษัท Novocure ที่ใช้คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าในการช่วยรักษามะเร็งในสมองและเนื้องอกในสมองที่ปัจจุบันมีผลของการรักษาที่มีอัตราการรอดชีวิตสูงขึ้น

รวมถึงการรักษาด้วยการใช้คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าของ Novocure ซึ่งปัจจุบันได้รับการอนุมัติจากองค์การอาหารและยาของสหรัฐ (FDA) ไปแล้ว 2 โครงการ และยังมีอีกหลายโครงการที่กำลังอยู่ในระหว่างการพิจารณา

จากที่กล่าวมาข้างต้นเป็นเพียงหนึ่งในไม่กี่ตัวอย่างของบริษัทที่ทำธุรกิจเกี่ยวข้องกับ digital healthcare เท่านั้น และยังมีอีกหลายแง่มุมที่ digital healthcare เข้ามาพัฒนาและยกระดับวงการแพทย์ขึ้นไปในจุดที่เราอาจจะไม่สามารถจินตนาการถึงได้ในอดีต และเหตุการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ที่เกิดขึ้นก็ยิ่งเป็นเหมือนกับแว่นขยายที่ช่วยส่องให้เห็นถึงความจำเป็นของ digital healthcare ที่มีต่อโลกของเรามากกว่าเดิมอีกหลายเท่าตัว

สำหรับการลงทุนในบริษัทที่ทำธุรกิจเกี่ยวกับ digital healthcare ในปี 2021 ถือเป็นอีกหนึ่งทางเลือกการลงทุนที่น่าสนใจ ถึงแม้ในปี 2020 ที่ผ่านมาราคาหุ้นของบริษัทที่ทำธุรกิจเกี่ยวข้องกับ digital healthcare หลายบริษัทจะปรับเพิ่มขึ้นมาอยู่ในระดับสูงแล้วก็ตาม แต่หากมองไปที่การลงทุนในระยะยาว ในโลกปัจจุบันที่ technology มีความก้าวล้ำและถูกพัฒนาไปอย่างต่อเนื่อง

และอุตสาหกรรม healthcare ยังเป็นสิ่งที่มีความจำเป็นอย่างยิ่งต่อโลกเพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ โอกาสในการเติบโตของบริษัทที่ทำธุรกิจเกี่ยวข้องกับ digital healthcare เหล่านี้ในอนาคตก็ยังคงมีเพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ ตามไปด้วยเช่นกัน