กยศ. จ่อทำประวัติผู้กู้ยืม ใคร “เบี้ยวหนี้” มีผลต่อลูก-หลานในอนาคต

กยศ

กยศ. เตรียมจัดทำระบบข้อมูลกลาง รายงาน “สถานะหนี้คงค้าง-การผิดนัดชำระหนี้” มีผลต่อการกู้ยืมของรุ่นลูก-หลานในอนาคตหากพบหนี้เสีย

วันที่ 25 กุมภาพันธ์ 2564 จากกรณีการแก้ไขปัญหาผู้กู้ยืมหรือลูกหนี้กองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา หรือ กยศ. ไม่ชำระหนี้คืนตามกำหนดจนส่งผลให้เกิดเป็น “หนี้เสีย” ตามมา

ล่าสุด มติชนรายงานว่า นายกฤษฎา จีนะวิจารณะ ปลัดกระทรวงการคลัง ในฐานะประธานกรรมการ กยศ. เปิดเผยว่า ขณะนี้ กยศ.เตรียมหารือกับเครดิตบูโร เพื่อจัดทำระบบข้อมูลกลางสำหรับการตรวจสอบเครดิตของผู้ที่กู้ยืมว่า มีสถานะหรือหนี้คงค้างจนเป็นหนี้เสียเท่าไร มีการผิดนัดชำระหนี้หรือไม่ ลักษณะเดียวกับระบบเครดิตบูโร โดย กยศ.จะทำเป็นภายในของ กยศ.เองเพื่อสร้างประวัติการชำระหนี้ของผู้กู้ยืม

นายกฤษฎา กล่าวว่า ทั้งนี้ระบบข้อมูลกลางที่จัดตั้งขึ้นนั้น หากผู้กู้ยืม ของ กยศ. ผิดนัดชำระหนี้เป็นเวลานานหรือปล่อยให้กลายเป็นหนี้เสีย จะมีการขึ้นบัญชีของระบบที่ กยศ. จัดทำขึ้น ทำให้ผู้ที่มีความสัมพันธ์ในเครือญาติ เช่น พี่-น้อง ลูก หลาน เป็นต้น ไม่สามารถทำเรื่องขอกู้ยืมเงินจาก กยศ.ได้ในอนาคต ดังนั้นวิธีนี้น่าจะเป็นอีกแนวทางหนึ่งในการกระตุ้นให้ลูกหนี้ชำระคืนเงินมากยิ่งขึ้น

นายกฤษฎา กล่าวว่า อย่างไรก็ตามที่ผ่านมา กยศ.ออกมาตรการเพื่อช่วยเหลือผู้กู้ยืมฝ่าวิกฤตโควิด-19 มาหลายมาตรการ อาทิ การพักชำระหนี้ 2 ปี กรณีผู้ที่งวดชำระเป็นรายปี โดยจะกลับมาชำระหนี้งวดปี 2563 ในเดือนกรกฎาคม 2565 คิดดอกเบี้ยการกู้ยืมเงินแค่ 1% ต่อปี ลดอัตราเบี้ยปรับกรณีผิดนัดชำระหนี้เหลือ 0.5% ต่อปี เป็นต้น ซึ่งถือว่ามีความผ่อนปรนมาก และถ้าใครเป็นหนี้เสียกับทางกยศ.อยู่ ก็ให้มาชำระหนี้ให้เป็นปัจจุบัน และผ่อนชำระต่อได้

“มาตรการของกยศ.มีเยอะแยะมากมาย และทางกยศ.ก็พร้อมจะช่วยเหลือเต็มที่ ขอเพียงให้ลูกหนี้มาแจ้งหรือติดต่อ ทางกยศ.ก็จะช่วยเหลือในการปรับโครงสร้างหนี้ให้” นายกฤษฎา กล่าว