ค่าเงินบาทวันนี้​ (1 มี.ค.)​ อ่อน​ค่า​ลง​ที่ 30.42 บาท​ บท​วิเคราะห์​ล่าสุด​

ค่าเงินบาท

ค่าเงินบาทเปิดเช้าวันนี้​ (1 มี.ค.)​ ที่ 30.42 บาท/ดอลลาร์ อ่อนค่าจากช่วงปิดสิ้นวันทำการก่อนที่ 30.35 บาท/ดอลลาร์

ดร.จิติพล พฤกษาเมธานันท์ หัวหน้าทีมกลยุทธ์การลงทุน EASY INVEST บล.ไทยพาณิชย์ (SCBS) เปิด​เผ​ยว่า​ เงินบาทเปิดเช้าวันนี้​ (1 มี.ค.)​ ที่ 30.42 บาทต่อดอลลาร์ อ่อนค่าจากช่วงปิดสิ้นวันทำการก่อนที่ 30.35 บาทต่อดอลลาร์ โดย​ประเมินกรอบเงินบาทระหว่างวันเคลื่อนไหว​ใน​กรอบ​ 30.35-30.50 บาทต่อดอลลาร์

ทั้งนี้​ ประเมิน​กรอบเงินบาทรายสัปดาห์เคลื่อนไหว​ใน​กรอบ​ 30.20-30.70 บาทต่อดอลลาร์

โดย​สัปดาห์นี้​ (1-5​ มี.ค.)​ ต้องติดตามตัวเลขการจ้างงานและการผ่านงบประมาณการคลังในสหรัฐ​ โดย​ในระหว่างสัปดาห์ต้องจับตาไปที่การให้ความเห็นของคณะกรรมการนโยบายการเงินสหรัฐหลายรายต่อการปรับตัวขึ้นอย่างรวดเร็วของอัตรา​ผลตอบแทน​พันธบัตร​ (บอนด์ยีลด์)​ ในช่วงนี้

ตามมาด้วยการประกาศตัวเลขตลาดแรงงาน ซึ่งเชื่อว่าการจ้างงานภาคเอกชน (ADP) จะขยายตัว 1.68 แสนตำแหน่ง และการจ้างงานนอกภาคการเกษตร (Non-farm Payrolls) จะเพิ่มขึ้น 1.65 แสนตำแหน่ง ส่งผลให้อัตราการว่างงานในสหรัฐทรงตัวที่ระดับ 6.3% ในเดือนกุมภาพันธ์

ด้านฝั่งรัฐสภาสหรัฐก็คาดว่าจะมีการโหวตเห็นชอบแผนกระตุ้นเศรษฐกิจ 1.9 ล้านล้านของนายโจ ไบเดน​ ประธานาธิบดี​สหรัฐ​ในสัปดาห์นี้เพื่อนำไปสู่การโหวตในชั้นวุฒิสภาก่อนวันที่ 14 มี.ค. ที่นโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจเดิมจะหมดอายุลง

ส่วนในฝั่งเอเชียจะมีการรายงานดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อภาคการผลิตและบริการของจีน (China Manufacturing และ Non-manufacturing PMI) คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 51.0 และ 52.0 จุด ตามลำดับ ซึ่ง PMI ที่ระดับดังกล่าว ถือว่าลดลงจากช่วงเดือนก่อนหน้าเนื่องจากมีประเด็นการล็อกดาวน์เพื่อลดการระบาดของโควิด-19 อย่างไรก็ดีถือว่าเศรษฐกิจจีนยังฟื้นตัวดีอยู่

ด้านตลาดเงิน ประเด็นหลักที่ต้องจับตาคือความเห็นของธนาคาร​กลางสหรัฐ​ (เฟด)​ ต่อบอนด์ยีลด์ที่ปรับตัวขึ้นเร็วพร้อมกับนโยบายการคลังที่มีโอกาสผ่านสภาค่อนข้างสูง เชื่อว่าโดยรวมจะทำให้ตลาดผ่อนคลายขึ้นและดอลลาร์อ่อนค่ากลับ ส่วนในฝั่งยุโรปต้องจับตาไปที่การผ่อนคลายมาตราการล๊อกดาวน์ในหลายประเทศที่เชื่อว่าน่าจะหนุนให้เงินยูโรแข็งค่าได้ต่อ เช่นเดียวกับเงินเยนที่คาดว่าจะทรงตัวถึงแข็งค่าหลังล่าสุดกลับมาเกินดุลการค้าต่อเนื่อง

ส่วนกรอบดัชนีดอลลาร์ (Dollar Index) สัปดาห์นี้คาดการณ์​ที่​ระดับ​ 90.30-91.30 จุด จากระดับปัจจุบันอยู่​ที่​ 90.92 จุด

ฝั่งเงินบาทอ่อนค่าแรงในช่วงที่ผ่ามมาเพราะถูกกดดันจากเรื่องความผันผวนในตลาดการเงินที่ปรับตัวขึ้นเร็ว และราคาทองคำที่ปรับตัวลงสวนกับบอนด์ยีลด์สหรัฐ

“อย่างไรก็ดี เรามองการเคลื่อนไหวล่าสุดเกิดจากการเก็งกำไรเป็นหลัก ขณะที่พื้นฐานไทยยังคงเกินดุลการค้าและตัวเลขทุนสำรองระหว่างประเทศยังคงอยู่ในระดับสูง จึงเชื่อว่าถ้าดอลลาร์หยุดแข็งค่าจะเห็นเงินบาทฟื้นตัว ทั้งนี้​ เราปรับประมาณการณ์เงินบาทสิ้นไตรมาสที่​ 1​ มาที่ระดับ 30.00 บาทต่อดอลลาร์โดยเชื่อว่าเป็นระดับที่ผู้เล่นหลักในตลาดมองว่าเหมาะสม” ดร.จิ​ติ​พล​กล่าว​