ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าต่อเนื่อง ขณะที่ผลตอบแทนพันธบัตรเริ่มปรับลดลง

ดอลลาร์สหรัฐ
REUTERS/Jo Yong-Hak/File Photo

ดอลลาร์สหรัฐยังคงแข็งค่าอย่างต่อเนื่อง ในขณะที่ผลตอบแทนพันธบัตรเริ่มปรับตัวลดลง เชื่อเศรษฐกิจมีโอกาสฟื้นตัวได้ต่อเนื่อง  ขณะที่เงินบาทปิดตลาดที่ระดับ 30.28/30 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ

ฝ่ายค้าเงินตราต่างประเทศ ธนาคารกรุงเทพ รายงานว่า ภาวะการเคลื่อนไหวตลาดปริวรรตเงินตราประจำวันอังคารที่ 2 มีนาคม 2564 ค่าเงินบาทเปิดตลาดเช้าวันนี้ (2/3) ที่ระดับ 30.23/25 บาท/ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าเล็กน้อยจากระดับปิดตลาดในวันจันทร์ (1/3) ที่ระดับ 30.21/22 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ

เมื่อคืนที่ผ่านมาค่าเงินดอลลาร์สหรัฐปรับตัวแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก หลังสถาบัน ISM ได้ประกาศตัวเลขดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อภาคการผลิตของสหรัฐในเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมาออกมาที่ระดับ 60.8 เทียบกับระดับ 58.7 ในเดือนมกราคม ซึ่งระดับดังกล่าวเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ 2561 และสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ระดับ 58.8

ตัวเลขดังกล่าวสะท้อนมุมมองของตลาดว่า เศรษฐกิจมีโอกาสที่จะฟื้นตัวได้ต่อเนื่อง ส่งผลให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตร (Boan Yield) สหรัฐอายุ 30 ปี ขยับตัวขึ้น 2bps แตะระดับ 2.23% แม้ระยะสั้นอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ อายุ 10 ปี จะปรับตัวลง 4bps มาที่ 1.44% จากการปรับพอร์ตของนักลงทุนทั่วโลกหลังหุ้นปรับตัวลงแรงช่วงก่อนหน้า

นอกจากนี้ในวันพฤหัสบดีนี้ (4/3) ตลาดยังจับตารอดูว่าประธานธนาคารกลางสหรัฐจะออกมาแถลงถึงมุมมองและการรับมือต่อการปรับตัวของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐที่ปรับเพิ่มขึ้นเร็วมากในช่วงนี้หรือไม่

ในส่วนของค่าเงินบาทนั้นในวันนี้เคลื่อนไหวอ่อนค่าตามการแข็งค่าของดอลลาร์สหรัฐ นอกจากนี้ค่าเงินบาทยังถูกกดดันหลังหอการค้าไทย เปิดเผยตัวเลขดัชนีสำรวจความเชื่อมั่นนักธุรกิจต่างประเทศ (FBCI) ครั้งแรกอยู่ในระดับ 29.8 ซึ่งต่ำกว่าที่คาดการณ์ไว้ โดยผลสำรวจส่วนใหญ่เกิดจากการขาดความมั่นใจทางเศรษฐกิจ รายได้และกำลังซื้อที่ยังไม่ฟื้น

ทั้งนี้ระหว่างวันค่าเงินบาทเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบระหว่าง 30.24-30.37 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ ก่อนปิดตลาดที่ระดับ 30.28/30 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ

สำหรับการเคลื่อนไหวของค่าเงินยูโร ค่าเงินยูโรเปิดตลาดเช้าวันนี้ (2/3) ที่ระดับ 1.2034/36 ดอลลาร์สหรัฐ/ยูโร อ่อนค่าจากระดับปิดตลาดเมื่อวันจันทร์ (1/3) ที่ระดับ 1.2040/42 ดอลลาร์สหรัฐ/ยูโร

ในวันนี้ค่าเงินยูโรปรับตัวอ่อนค่าลงโดยระหว่างวันปรับตัวอ่อนค่าหลุดระดับ 1.2000 ดอลลาร์สหรัฐ/ยูโร โดยมีสาเหตุหลักจากการแข็งค่าของดอลลาร์สหรัฐ แม้ว่าเมื่อคืนที่ผ่านมา (1/3) ทางเยอรมนีจะประกาศดัชนีราคาผู้บริโภคเดือนกุมภาพันธ์ ออกมาที่ระดับ 0.7% ซึ่งสูงกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้ที่ 0.5% แต่ยังถือว่าลดลงจากเดือนมกราคมที่ 0.8%

ทั้งนี้ระหว่างวันค่างินยูโรเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบระหว่าง 1.1990-1.2050 ดอลลาร์สหรัฐ/ยูโร และปิดตลาดที่ระดับ 1.2011/13 ดอลลาร์สหรัฐ/ยูโร

สำหรับการเคลื่อนไหวของค่าเงินเยน ค่าเงินเยนเปิดตลาดเช้าวันนี้ (2/3) ที่ระดับ 106.85/86 เยน/ดอลลาร์สหรัฐ อ่อนค่าจากระดับปิดตลาดเมื่อวันจันทร์ (1/3) ที่ระดับ 106.70/71 เยน/ดอลลาร์สหรัฐ

ค่าเงินเยนอ่อนค่าลงตามการแข็งค่าของดอลลาร์สหรัฐ และมุมมองของนักลงทุนต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจที่คาดว่าเศรษฐกิจจะยังสามารถฟื้นตัวได้อย่างต่อเนื่อง ทำให้นักลงทุนก็เทขายค่าเงินเยนซึ่งเป็นสินทรัพย์ปลอดภัย ทั้งนี้ระหว่างวันค่าเงินเยนเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบระหว่าง 106.69-106.92 เยน/ดอลลาร์สหรัฐ และปิดตลาดที่ระดับ 106.89/91 เยน/ดอลลาร์สหรัฐ

ดัชนีสำคัญทางเศรษฐกิจในสัปดาห์นี้ ได้แก่ ดัชนีราคาผู้บริโภคสหภาพยุโรป เดือนกุมภาพันธ์ (2/3), ดัชนีผู้จัดากรฝ่ายจัดซื้อภาคบริการของจีนจากสถาบัน Caixin เดือนกุมภาพันธ์ (3/3), ดัชนีผู้จัดากรฝ่ายจัดซื้อภาคบริการของเยอรมนี เดือนกุมภาพันธ์ (3/3), ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อรวมของสหภาพยุโรปจากสถาบัน Markit เดือนกุมภาพันธ์ (3/3), การเปลี่ยนแปลงในการจ้างงานนอกภาคเกษตรกรรมของสหรัฐจาก ADP เดือนกุมภาพันธ์ (3/3),

ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อภาคบริการของสหรัฐจากสถาบัน ISM เดือนกุมภาพันธ์ (3/3), ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคของไทยเดือนกุมภาพันธ์ (4/3), ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อภาคการก่อสร้างของอังกฤษเดือนกุมภาพันธ์ (4/3), จำนวนคนที่ยื่นขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกของสหรัฐ (4/3), ผลิตภาพนอกภาคการเกษตรของสหรัฐไตรมาส 4 (4/3),

ดัชนีราคาผู้บริโภคของไทย เดือนกุมภาพันธ์ (5/3), ยอดคำสั่งซื้อสินค้าจากโรงงานของเยอรมนี เดือนมกราคม (5/3), การจ้างงานนอกภาคการเกษตรของสหรัฐเดือนกุมภาพันธ์ (5/3), อัตราการว่างงานของสหรัฐเดือนกุมภาพันธ์ (5/3)

สำหรับอัตราป้องกันความเสี่ยง (Swap point) ภาคเช้า 1 เดือนในประเทศอยู่ที่ 0.00/0.20 สตางค์/ดอลลาร์สหรัฐ และอัตราป้องกันความเสี่ยง ภาคเช้า 1 เดือนต่างประเทศอยู่ที่ 4.50/5.50 สตางค์/ดอลลาร์สหรัฐ