นายสุวิชญ โรจนวานิช ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง กล่าวว่า กรณีนายแบบที่มีกระแสข่าวว่า ไม่ได้เป็นผู้มีรายได้น้อยจริง แต่มีการลงทะเบียนและได้บัตรสวัสดิการแห่งรัฐนั้น ขณะนี้กำลังให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องตรวจสอบรายได้ และ การเสียภาษี รวมถึงบัญชีเงินฝากของบุคคลดังกล่าวอยู่
“ที่เช็กเบื้องต้น ตอนเขาแจ้งลงทะเบียน แจ้งข้อมูลว่าอยู่ในเกณฑ์หมดเลย ถ้าในความเป็นจริงแล้ว หลุดเกณฑ์ ก็ต้องทำตามขั้นตอน คือระงับสิทธิ์การใช้บัตร แต่ต้องขอตรวจสอบข้อมูลก่อน โดยต้องไปเช็กกับผู้จ่ายรายได้ให้เขาด้วย ซึ่งยอมรับว่าค่อนข้างยาก เพราะผู้จ่ายรายได้ให้เขา อาจจะไม่ยอมแจ้งข้อเท็จจริง เพราะไม่ได้มีการหักภาษีไว้ ถ้าเป็นจ๊อบนอกระบบ จะค่อนข้างยาก จึงไม่กล้ารับปากว่าจะได้ข้อสรุปเมื่อไหร่” นายสุวิชญกล่าว
- ประกาศแล้ว! พระราชกฤษฎีกาเงินช่วยค่าครองชีพผู้รับเบี้ยหวัดบำนาญ รับ 11,000 บาทต่อเดือน
- บังคับใช้แล้ว! หลักเกณฑ์การดำเนินงาน 30 บาทรักษาทุกที่ ด้วยบัตรประชาชนใบเดียว
- อะไรทำให้ “ทองคำ” แพง สงคราม หรือการเก็งกำไร ?
ทั้งนี้ ตามกฎหมายหากบุคคลดังกล่าวแจ้งข้อมูลแก่ทางราชการเป็นเท็จ จะถูกเอาผิดเป็นคดีอาญา อย่างไรก็ดี จะต้องพิสูจน์หลักฐานออกมาให้ชัดเจนก่อน จึงจะสามารถกล่าวโทษหรือเอาผิดได้
นายสุวิชญ กล่าวอีกว่า การลงทะเบียนนี้ ผู้ลงทะเบียนต้องมีความสุจริตใจด้วย แต่หากไม่จริง ทางรัฐก็ต้องค่อย ๆพิสูจน์หลักฐานไป ซึ่งหากเกิดกรณีลักษณะนี้อีก ก็ต้องตรวจสอบเป็นรายกรณีไป
สำหรับการตรวจสอบทั้งระบบนั้น โฆษกระทรวงการคลัง กล่าวว่า จะมีการลงทะเบียนเพื่ออัพเดตข้อมูลอีกครั้ง โดยเว้นระยะไปอีก 1 ปี หรือจะเปิดให้ลงทะเบียนในปี 2562 ซึ่งอนาคตอาจจะมีการเพิ่มเงื่อนไขการระงับใช้สิทธิ์บัตรเพิ่มเติมในกรณีทำผิดเงื่อนไขได้
โฆษกระทรวงการคลัง กล่าวด้วยว่า สำหรับผู้ที่ยื่นอุทธรณ์หลังจากไม่ผ่านคุณสมบัติผู้มีสิทธิ์ได้รับบัตรสวัสดิการรอบแรกมีทั้งสิ้น 258,067 ราย หรือ 9.4% ซึ่งอุทธรณ์ผ่านประมาณ 9,200 ราย โดยบางรายที่ไม่ผ่านรอบแรกนั้น เนื่องจากถือกรรมสิทธิ์ในฉโนดที่ดินร่วมกับผู้อื่น จึงดูเหมือนถือครองที่ดินเกินเกณฑ์