ระเบิดศึก “จำนำทะเบียนรถ” Q2 เดือด “ออมสิน” อัดโปรฯ ดอกต่ำ

ภาพประกอบข่าว ธนบัตร เศรษฐกิจ

ในที่สุด ธนาคารออมสินก็ได้ฤกษ์แถลงเปิดตัว “บริษัท เงินสดทันใจ จำกัด” ที่ธนาคารได้เข้าไปร่วมทุนกับทางบริษัท ศรีสวัสดิ์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ SAWAD เพื่อรุกเข้าสู่ตลาดสินเชื่อที่มีทะเบียนรถเป็นหลักประกัน (สินเชื่อจำนำทะเบียนรถ) ซึ่งจะเริ่มลุยทำธุรกิจตั้งแต่วันที่ 1 เม.ย. 2564 นี้ เป็นต้นไป

ออมสิน ศรีสวัสดิ์

โดย “วิทัย รัตนากร” ผู้อำนวยการธนาคารออมสิน กล่าวว่า จะเริ่มธุรกิจนี้ด้วยการเปิดรับจำนำทะเบียนรถจักรยานยนต์ (รวมถึงรีไฟแนนซ์) ก่อน โดยเสนออัตราดอกเบี้ยต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 14.99% ต่อปี หรือ 0.69% ต่อเดือน เป็นช่วงโปรโมชั่นพิเศษสำหรับผู้มาใช้บริการในช่วง 3 เดือนแรก แต่ระยะต่อไปหลังจากนั้นจะคิดดอกเบี้ยที่ 17-18% ต่อปี

เฟสแรก ออมสินจะเปิดบูทให้บริการ 35 สาขา จากนั้นในเดือน พ.ค. 2564 จะเปิดเพิ่มอีก 500 สาขา และภายในปีนี้จะขยายให้ครอบคลุม 800 สาขา

ขณะที่ในอีก 2 เดือนข้างหน้า จะเพิ่มบริการสินเชื่อจำนำทะเบียนรถยนต์ (รวมรีไฟแนนซ์) ด้วย โดยจะลดดอกเบี้ยให้อยู่ระดับต่ำกว่า 18% ต่อปี ให้วงเงินสินเชื่อไม่เกิน 2 แสนบาท

ทั้งหมดนี้ ตั้งเป้าหมายสินเชื่อในปีแรกไว้ที่ 20,000 ล้านบาท และคาดว่าบริษัทจะมีกำไรสุทธิ 300-400 ล้านบาท โดยการดำเนินธุรกิจครั้งนี้ ออมสินเข้าไปเป็นหุ้นส่วนกับเงินสดทันใจ

ซึ่งเป็นโครงสร้างนอกการดำเนินงานของธนาคาร โดยรายได้ กำไร และหนี้เสียนั้นจะอยู่กับบริษัทที่แบงก์เข้าไปเป็นผู้ถือหุ้น เช่นเดียวกับที่แบงก์เป็นหุ้นส่วนกับ บมจ.ทิพยประกันภัยมาก่อนหน้านี้

“เราเชื่อมั่นว่าจะสร้างแรงกระเพื่อมในตลาด ทำให้คู่แข่งขัน ธุรกิจ nonbank (ผู้ให้บริการสินเชื่อที่ไม่ใช่ธนาคาร) ทยอยลดดอกเบี้ยลงมา จากปกติที่ส่วนใหญ่จะคิดดอกเบี้ยสินเชื่อจำนำทะเบียนรถอยู่ที่ระดับ 24-28% ต่อปี

และท้ายที่สุด หวังว่าสามารถกดโครงสร้างดอกเบี้ยตลาดรวมทั้งระบบให้อยู่ที่ 17-18% ต่อปีได้ ซึ่งจะตอบโจทย์การลดความเหลื่อมล้ำในสังคม และแก้ปัญหาความยากจนตามนโยบายของรัฐบาล”

ขณะที่ “ธิดา แก้วบุตตา” ผู้อำนวยการฝ่ายกลยุทธ์องค์กร บมจ.ศรีสวัสดิ์ฯกล่าวว่า บริษัทเปิดให้เริ่มขอใช้บริการจำนำทะเบียนรถตามโปรฯ ออมสินได้ที่สาขาของบริษัทที่มีกว่า 5,000 แห่งทั่วประเทศ ตั้งแต่วันที่ 25 มี.ค. และตั้งแต่วันที่ 1 เม.ย.เป็นต้นไป จะเปิดให้ใช้บริการได้ที่บูทในสาขาออมสิน 35 แห่ง

“เงื่อนไขสินเชื่อของเรา คือ รถจักรยานยนต์ ต้องมีอายุการใช้งานไม่เกิน 15 ปี จะได้วงเงินเฉลี่ย 20,000-30,000บาท/คัน ตามสภาพรถ โดยเรามีจุดเด่น คือ อนุมัติเงินกู้ไว ลูกค้ารับเงินได้ภายใน 15 นาที เลือกผ่อนชำระได้นานถึง 48 เดือน พร้อมฟรีค่าธรรมเนียม ไม่ต้องโอนเล่มทะเบียน ไม่ต้องใช้บุคคลค้ำประกัน และไม่ต้องใช้สลิปเงินเดือน”

“ธิดา” กล่าวด้วยว่า วงเงินสินเชื่อ 20,000 ล้านบาท ที่เป็นเป้าปีนี้ คาดว่าจะช่วยลดภาระดอกเบี้ยให้ผู้มีรายได้น้อยได้กว่า 1 ล้านราย

MTC พร้อมรับมือทุกเกมการแข่งขัน

บริษัท เมืองไทย แคปปิตอล จำกัด

ขณะที่ผู้ประกอบการรายใหญ่ในตลาดสินเชื่อจำนำทะเบียนรถ รวมถึงสินเชื่อรายย่อยอีกหลายประเภท อย่าง “บริษัท เมืองไทย แคปปิตอล จำกัด (มหาชน)” หรือ MTC ประกาศพร้อมแข่งขันสู้กับคู่แข่งใหม่อย่างเต็มที่

โดย “ชูชาติ เพ็ชรอำไพ” ประธานกรรมการบริหาร บมจ.เมืองไทย แคปปิตอล กล่าวว่า ไตรมาสแรกที่ผ่านมา ความต้องการสินเชื่อยังไม่ได้หวือหวานัก แต่ในไตรมาส 2 ประเมินว่าความต้องการใช้สินเชื่อจะมีเพิ่มมากขึ้น เนื่องจากมีวันหยุดยาวช่วงเทศกาลสงกรานต์ และเป็นช่วงเปิดเทอม ซึ่งจะเป็นปัจจัยหนุนความต้องการสินเชื่อให้มีมากขึ้น

“ปีนี้ ช่วงไตรมาสแรก โดยเฉพาะในเดือน ม.ค.-ก.พ. ความต้องการสินเชื่อค่อนข้างต่ำ โดยถ้าเทียบการเติบโตในช่วงไตรมาส 4 ปี 2563 จะพบว่าไตรมาสแรกสินเชื่อเติบโตลดลงถึง 10% แต่มีสัญญาณว่าในไตรมาส 2 จะเร่งตัวขึ้น โดยสินเชื่อน่าจะเติบโต 20-25% หรือคิดเป็นเม็ดเงินสินเชื่อปล่อยใหม่อยู่ที่ 3.5 หมื่นล้านบาท”

โดยปีนี้การเติบโตบริษัทยังคงมุ่งเน้นในผลิตภัณฑ์สินเชื่อจำนำทะเบียนรถจักรยานยนต์ ที่เป็นตลาดหลักของบริษัท ประกอบกับภาพรวมตลาดรถจักรยานยนต์มือสองยังคงมีอัตราการขยายตัวค่อนข้างสูง โดยคาดว่าจะมีการเติบโตอยู่ที่ระดับ 20-25% สอดคล้องกับเป้าหมายการเติบโตของบริษัท

สำหรับในแง่การแข่งขันนั้น “ชูชาติ” บอกว่า การแข่งขันจะมีความรุนแรงขึ้น เนื่องจากมีผู้เล่นรายใหม่เข้ามาในตลาดเพิ่มขึ้น อย่างธนาคารออมสินที่จะเริ่มทำตลาดในไตรมาส 2

อย่างไรก็ดี ยืนยันว่าบริษัทมีความพร้อมที่จะแข่งขันในการปล่อยสินเชื่อตลาดนี้อยู่แล้ว โดยใช้จุดแข็งที่มีในเรื่องของจำนวนสาขาที่มีอยู่ครอบคลุมทั่วประเทศในการขยายฐานลูกค้า ซึ่งปีนี้จะเปิดสาขาใหม่อีก 600 แห่ง

“การเปิดสาขาเพิ่มจะทำให้มีฐานลูกค้าใหม่เกิดขึ้น 100% และสาขาเดิมที่มีอยู่ ก็จะสร้างการเติบโตเฉลี่ย 10-15% โดยภายในสิ้นปีนี้ บริษัทจะมีสาขารวมทั้งสิ้นอยู่ที่ 5,600 แห่ง

ทั้งนี้ ในไตรมาส 2 นี้ เป็นฤดูกาลการเติบโตสินเชื่อ แต่ก็มีคู่แข่งเข้ามาเล่นในตลาด ซึ่งต้องรอดูว่าเกมการแข่งขันจะเป็นอย่างไร แต่เรามีความพร้อมในการแข่งขันทุกรูปแบบ ด้วยเครือข่ายสาขาที่มีอยู่ที่จะหนุนการเติบโต”

นอกจากนี้ ที่ผ่านมา MTC ได้แข่งขันทางด้านราคามาโดยตลอด โดยมีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงอย่างต่อเนื่อง จากเดิมอยู่ที่ระดับสูงกว่า 20% ลงมาเป็น 19% และ ล่าสุดได้ลดลงมาเหลือ 18% ต่อปี


สะท้อนว่า ศึกชิงตลาดจำนำทะเบียนรถครั้งนี้ระอุแน่นอน