“การบินไทย” เสี่ยงล้มละลาย คลังรอผลโหวตแผนฟื้นฟูก่อนใส่เงินเพิ่มทุน

การบินไทย
REUTERS/Athit Perawongmetha/File Photo

“การบินไทย” ระทึก ! เสี่ยงล้มละลาย “คลัง” รอลุ้นเจ้าหนี้โหวตรับแผน 12 พ.ค.นี้ ก่อนสรุปเรื่องใส่เงินเพิ่มทุน 2.5 หมื่นล้านบาท ผอ.สคร.คาด “อาคม” ตั้ง สบน. ตัวแทนโหวตแผน

นางปานทิพย์ ศรีพิมล ผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.) เปิดเผยว่า ขณะนี้กระทรวงการคลังยังไม่สรุปแนวทางเพิ่มทุน เพื่อเติมสภาพคล่องให้กับบริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) ซึ่งจะต้องรอความเห็นของเจ้าหนี้อีกครั้งในวันที่ 12 พ.ค. 2564 ตามที่การบินไทยได้นัดเจ้าหนี้พิจารณาแผนฟื้นฟู เนื่องจากเจ้าหนี้ของการบินไทยมีหลายกลุ่ม

หากผลโหวตออกมาเป็นเอกฉันท์ว่าเจ้าหนี้ไม่รับแผนฟื้นฟูกิจการ การบินไทยก็จะเปลี่ยนสถานะเป็นล้มละลาย แล้วจะต้องนำทรัพย์สินมาเฉลี่ยคืนเจ้าหนี้

“ตอนนี้เรารอดูแผนฟื้นฟูกิจการที่การบินไทยนัดเจ้าหนี้พิจารณา 12 พ.ค.นี้ว่า เจ้าหนี้จะมีความเห็นอย่างไร และจะมีการโหวตรับแผนหรือปรับปรุงแผนหรือไม่ เพราะเจ้าหนี้มีหลายกลุ่ม ซึ่งก็ต้องมีการไปหารือกันก่อนเป็นวงเล็ก ๆ ด้วย และขณะนี้การบินไทยก็อยู่ระหว่างการปรับปรุงโครงสร้างภายในแผนธุรกิจอย่างการเปิดบิน การลดพนักงาน เป็นต้น” นางปานทิพย์กล่าว

นางปานทิพย์กล่าวอีกว่า กระทรวงการคลังเป็นเจ้าหนี้การบินไทยอยู่ 13,000 ล้านบาท โดยคาดว่า นายอาคมเติมพิทยาไพสิฐ รมว.คลัง จะแต่งตั้งสำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ (สบน.) เป็นตัวแทนในการโหวตแผนฟื้นฟูกิจการ เนื่องจากมีฐานะเป็นเจ้าหนี้ ส่วน สคร.มีฐานะเป็นผู้ถือหุ้นเท่านั้น

แหล่งข่าวจากกระทรวงการคลัง กล่าวว่า ขณะนี้การบินไทยอยู่ระหว่างปรับโครงสร้างองค์กร โดยเปิดให้พนักงานเข้ามากรอกใบสมัครใหม่ เพื่อคัดเลือกผู้ที่จะได้ทำงานต่อไป ซึ่งผู้ที่ไม่ผ่านการคัดเลือกจะได้รับเงินชดเชย แต่ไม่เต็มจำนวนเท่ากับช่วงที่เปิดสมัครใจลาออกเหมือนครั้งที่ผ่านมา

ส่วนผู้ที่ผ่านการคัดเลือกก็จะมีการตกลงผลตอบแทนที่ลดลงจากผลตอบแทนเดิมอีกครั้ง เพื่อลดต้นทุนและประคองสภาพคล่องในการดำเนินธุรกิจต่อไปจนกว่าจะหาช่องทางการเพิ่มทุนได้ ซึ่งคาดว่าจะประคองไปได้ถึงเดือน พ.ค. 2564

“ส่วนช่องทางในการเพิ่มทุนนั้น ยังอยู่ระหว่างการศึกษาและหารือในรายละเอียดร่วมกัน เนื่องจากวิธีการมีหลาย อย่างอย่างไรก็ดี กรณีการแปลงหนี้เป็นทุนนั้น ยังไม่สามารถทำได้ เพราะขณะนี้เป็นหนี้้ไม่มีเครดิต ต้องรอให้กิจการฟื้นก่อน จึงจะมีผู้ที่จะมารับซื้อหนี้เพื่อแปลงเป็นทุนได้ ซึ่งในระยะเริ่มต้นจะต้องเติมสภาพคล่องไปก่อน เพื่อไม่ให้กิจการล้มละลาย คาดว่าจะเห็นความชัดเจนอีกครั้ง หลังวันที่ 12 พ.ค.ไปแล้ว”แหล่งข่าวกล่าว

ก่อนหน้านี้ นายชาญศิลป์ ตรีนุชกร รักษาการแทนกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บมจ.การบินไทย เปิดเผยว่า เจ้าหนี้ของการบินไทยมีทั้งหมด 36 กลุ่มซึ่งกลุ่มใหญ่คือ เจ้าหนี้หุ้นกู้ ที่มีมูลหนี้รวมประมาณ 71,000 ล้านบา และเจ้าหนี้กลุ่มธนาคาร มูลหนี้ราว 29,000 ล้านบาท

ซึ่งมั่นใจว่าเจ้าหนี้ส่วนใหญ่จะโหวตรับแผนฟื้นฟู เพราะถือเป็นแผนที่ลงตัวและเป็นผลดีกับทุกฝ่าย ทั้งเจ้าหนี้และผู้ถือหุ้น เนื่องจากใช้วิธียืดหนี้เงินต้นระยะยาว โดยไม่มีการตัดลดหนี้ (แฮร์คัต) มีแค่แฮร์คัตดอกเบี้ย รวมทั้งยังมีออปชั่นให้เจ้าหนี้แปลงหนี้เป็นทุน

ขณะเดียวกัน หากไม่โหวตรับแผนฟื้นฟูแล้วปล่อยให้ล้มละลาย เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ขายทรัพย์สินมาจ่ายคืน เจ้าหนี้ก็จะได้เงินคืนไม่เกิน 13% ของมูลหนี้ และต้องใช้เวลา 4-5 ปี กว่าจะขายทรัพย์สินได้ ขณะที่การใส่เงินเพิ่มทุนเข้าไปนั้น อาจมีทั้งเงินกู้ เพิ่มทุนโดยในแผนฟื้นฟูได้ระบุไว้ชัดเจนว่า เจ้าหนี้รายเดิม หรือผู้ถือหุ้นรายเดิม ต้องใส่เงินสนับสนุนรวม 50,000 ล้านบาท

แบ่งเป็น เจ้าหนี้สถาบันการเงิน 25,000 ล้านบาท และกระทรวงการคลัง 25,000 ล้านบาท ส่วนจะใส่มาในรูปแบบใดนั้นอยู่ระหว่างการเจรจา

ทั้งนี้ ในส่วนของกระทรวงการคลังนั้นก็อยู่ในกระบวนการพิจารณารูปแบบการใส่เงิน จะให้กระทรวงการคลัง หรือกองทุนวายุภักษ์เป็นผู้ใส่เงิน หรือจะเป็นการค้ำประกันเงินกู้

นายชาญศิลป์ กล่าวด้วยว่า การฟื้นฟูการบินไทยจำเป็นต้องใส่เงินใหม่ แต่วงเงิน 50,000 ล้านบาท ไม่ได้ใส่ในครั้งเดียว