ผู้ค้าทองเร่งขายโกยกำไรอื้อ ผวา ธ.ค.เฟดขึ้นดอกเบี้ยกดราคา

ราคาทองในตลาดโลกขาขึ้น นักค้าทองเร่งขายทำกำไร ราคาวิ่งบาทละ 21,100 บาท ดันสถิติส่งออกทองคำเดือน ก.ย.พุ่งกว่า 243% ฟาก “ส.ค้าทองคำ” ชี้โค้งท้ายปี ราคาทองอาจไม่วิ่ง เหตุเฟดส่งสัญญาณขึ้นดอกเบี้ย

ผู้สื่อข่าว “ประชาชาติธุรกิจ” รายงานจากข้อมูลภาวะการค้าระหว่างประเทศของไทยประจำเดือนกันยายน 2560 พบว่า การส่งออกของไทยขยายตัวในระดับสูงอย่างต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 7 เพิ่มขึ้น 12.2% คิดเป็นมูลค่ารวม 21,812 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งเป็นผลที่เกิดขึ้นทั้งจากการขยายตัวในระดับสูงของกลุ่มสินค้าเกษตรและอุตสาหกรรมเกษตร และกลุ่มสินค้าอุตสาหกรรม โดยเฉพาะทองคำที่มีมูลค่าการส่งออกขยายตัวมากถึง 243.3% หรือกว่า 2 เท่าตัว ซึ่งเป็นการส่งออกไปสวิตเซอร์แลนด์ ฮ่องกง และออสเตรเลีย

นางสาวพิมพ์ชนก วอนขอพร ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า จากข้อมูลการส่งออกทองคำที่เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญระหว่างเดือนสิงหาคมและกันยายนที่ผ่านมานั้น เป็นผลมาจากการส่งออกเพื่อทำกำไรของผู้ค้าทองคำในไทย เนื่องจากราคาทองคำในตลาดโลกช่วงดังกล่าว ได้มีการปรับตัวสูงขึ้น ทำให้ผู้ประกอบการไทยเร่งส่งออกเพื่อทำกำไร

นายจิตติ ตั้งสิทธิ์ภักดี นายกสมาคมค้าทองคำ กล่าวว่า จากสถิติการส่งออกทองคำในช่วงเดือนกันยายนที่ผ่านมาขยายตัวสูง เนื่องจากราคาทองคำในตลาดโลกปรับตัวเพิ่มขึ้น ทำให้ผู้ส่งออกและผู้ครอบครองทองคำเร่งการส่งออกเพื่อทำกำไร โดยราคาทองคำส่งออกเฉลี่ยในช่วงดังกล่าวอยู่ที่ราว 21,000 บาทต่อบาททองคำ ขณะที่การนำเข้าในช่วงก่อนหน้าเดือนกันยายน จะเฉลี่ยอยู่ที่ราว 20,250-20,200 บาทต่อบาททองคำ

จิตติ ตั้งสิทธิ์ภักดี

“อัตราแลกเปลี่ยน (ค่าเงิน) ก็มีผลต่อการส่งออกทองคำ เพราะหากเงินบาทอ่อนค่าลงก็จะทำให้ราคาทองสูงขึ้น แต่ในทางกลับกันเงินบาทที่แข็งค่า ก็ทำให้ราคาทองส่งออกกลับถูกลงด้วย แต่ในช่วงที่ผ่านมาด้วยราคาทองในตลาดโลกที่ปรับสูงขึ้นมาก ทำให้ผู้ค้าทองมองโอกาสที่จะขายทำกำไรมากกว่า เพราะมองว่าคุ้มค่า” นายจิตติกล่าว

สำหรับแนวโน้มราคาทองคำในช่วงที่เหลือของปีนี้ นายจิตติคาดการณ์ว่า ราคาทองในตลาดโลกจะอยู่ในกรอบ 1,245-1,300 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ โดยประเมินว่าราคาจะไม่ปรับขึ้นจากฐานปัจจุบันที่อยู่ 1,275 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์มากนัก เนื่องจากยังมีปัจจัยเสี่ยงที่ต้องจับตาจากการปรับขึ้นดอกเบี้ยนโยบายของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในช่วงเดือน ธ.ค.นี้ ซึ่งอาจทำให้ราคาทองคำยังคงผันผวนและไม่ปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นในปีนี้

ทั้งนี้ ภาพรวมการส่งออกทองคำนับตั้งแต่ ม.ค.-ก.ย. 2560 จากการเก็บสถิติของสมาคมค้าทองคำ พบว่าในช่วงดังกล่าวมีปริมาณส่งออกทองคำรวมอยู่ราว 175 ตัน ลดลงเล็กน้อยเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน ที่มีปริมาณการส่งออกรวม 176 ตัน ขณะที่ยอดรวมการส่งออกตลอดทั้งปี 2559 พบว่ามีปริมาณรวม 220 ตัน อย่างไรก็ตาม หากดูยอดส่งออกเฉพาะเดือนกันยายนที่ผ่านมา อยู่ที่ 29 ตัน เพิ่มขึ้นกว่าเท่าตัวจากช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีปริมาณ 12 ตัน

นายพิชญา พิสุทธิกุล เลขาธิการสมาคมค้าทองคำ กล่าวว่า ในช่วงเดือนกันยายนที่ผ่านมา ราคาทองในตลาดโลกปรับตัวค่อนข้างสูง เมื่อเฉลี่ยราคาที่ไทยส่งออกอยู่ที่ประมาณ 21,000 บาทต่อบาททองคำ ทำให้ผู้ค้าหรือผู้ถือครองทองคำเร่งส่งออกเพื่อทำกำไร เพราะแม้ว่าอัตราแลกเปลี่ยนในช่วงดังกล่าวจะยังแข็งค่าอยู่ที่ประมาณ 32 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ แต่เมื่อหักกับราคาทองคำที่ปรับขึ้น ทำให้ผู้ส่งออกยังได้กำไรเฉลี่ย 300-400 บาทต่อบาททองคำ

“แม้ว่าเงินบาทจะแข็งค่าไปบ้าง แต่เมื่อคำนวณกับราคาทองคำที่ปรับขึ้นก็ทำให้ยังได้กำไร ทำให้ช่วงเดือนที่ผ่านมาเกิดการขายออกเพื่อทำกำไรสูง ซึ่งส่วนใหญ่ก็เป็นการขายกลับไปยังเดปโป้ (คลังเก็บทองของโลก) อย่างสวิตเซอร์แลนด์ ฮ่องกง และออสเตรเลีย” นายพิชญากล่าว