บล.บัวหลวง รายงานภาวะรอบด้านตลาดหุ้น 2 พ.ย. 2560

วิเคราะห์ตลาดและแนวโน้ม

Rotate to reflation stocks

เมื่อวาน หุ้นโรงกลั่น ESSO SPRC TOP PTTGC BCP ถูกขายทำกำไรลงแรง และ พบว่ามีการหมุนเงินเข้า หุ้นแบงก์ใหญ่ เช่น KBANK BBL บ้าน, ไฟแนนซ์ (SPALI QH SAWAD) ซึ่งล้วนแต่เป็นหุ้นตัวนำของกลุ่มที่เชื่อมโยงกับการกลับมาของเงินเฟ้อรอบใหม่ (Reflation) และหุ้นเด่นอื่นๆที่มีปัจจัยหนุนรายตัว IVL (US Tax reform น่าจะมีรายละเอียดในสัปดาห์นี้) JMART (แนวโน้มกำไร 3Q17 เด่นจากรายงาน Small cap
playbook) BEM (Upside จาก ส่วนต่อขยายสายสีม่วง)

คาดว่าวันนี้ยังคงเห็น Flows rotation สลับหมุนเข้าเล่น หุ้นกลุ่ม Domestic และหุ้นเชื่อมโยงเงินเฟ้อ หลังวานนี้ เงินเฟ้อไทยเดือน ตค.+0.86% y-y พุ่งขึ้นเกินคาดที่ 0.8%

คาดดัชนีฯวันนี้ Sideways down 1,700-1,720 จุด จากหุ้นบูลชิพใหญ่รายตัว จะผันผวนตามงบที่ประกาศเหมือน SCC THCOM เมื่อวานที่งบแย่กว่าคาด

(-) ADVANC PTTEP งบออกพฤหัส INTUCH (โดน THCOM ถ่วงงบ) วันศุกร์ (มีแต่ตัวที่คาดกำไรจะแย่ลง)

(-/+) เมื่อวาน SCC รายงานกำไร 3Q17 ที่ 1.18 หมื่นล้านบาท แย่กว่าเราคาดที่ 1.4 หมื่นล้านบาท และคาด
จะมี Flows ปรับลดคาดการกำไรจาก Consensus ตามมาวันนี้ แต่ข่าวการ Downgrade กลยุทธ์มองเป็น
โอกาสในการสะสมซื้อ ด้วยแนวโน้ม 3Q จะเป็นไตรมาสที่แย่ที่สุด โดย 4Q เป็นต้นไปจะฟื้นตัว โดยเฉพาะ
จากธุรกิจ ซีเมนต์ ด้วยปริมาณยอดขายและราคาสูงขึ้น กอปรกับขาดทุนจากโรงปูนซีเมนต์แห่งใหม่ใน
ประเทศพม่าและลาวลดลงเนื่องจากอัตราการผลิตมากขึ้น

สัปดาห์นี้ คาดแกว่งในกรอบ 1,700-1,730 จุด กลยุทธ์ แนะ (1) สะสมหุ้นเชื่อมโยงการบริโภคในประเทศ และหุ้น Local play ตัวกลาง-เล็ก (2) หุ้นที่ได้ประโยชน์ จากแนวโน้มดอลล์สหรัฐฯแข็งค่า (3) กลุ่มที่คาดประกาศงบ 3Q17 มีลุ้นดีกว่าตลาดคาด: ไฟแนนซ์ ท่องเที่ยวโรงแรม ยานยนต์ นิคมฯ

แนวโน้ม เดือน พย. คาดกลับเข้าสู่ภาวะ “ฟื้นตัว” (กรอบขยับเป็น 1,680-1,750 จุด) ปัจจัยที่ต้องตาม (1) MSCI Quarterly review รู้กลางเดือน พย. หุ้นเข้า-ออก และน้ำหนักเปลี่ยนแปลง (2) งบ 3Q17 กำไรดีกว่า คาด VS. แย่กว่าคาด (3) มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในประเทศจากภาครัฐฯ (4) ประธานเฟดคนใหม่

หุ้นแนะนำวันนี้

KBANK แนวรับ 220 ต้าน 227 Stop loss 210 หุ้นตัวนำกลุ่ม ธีม Reflation สะสมเมื่ออ่อนตัว

ปัจจัยที่มีผลต่อตลาด

(+) สศค. ปรับคาดเศรษฐกิจไทยปี 60 ขยายตัวเร่งขึ้นมาที่ 3.8% (ช่วงคาดการณ์ 3.6-4.0%) จากคาดการณ์เดิมที่ 3.6% ซึ่งเติบโตจาก 3.2% ในปี 59 ปัจจัยสนับสนุนหลักมาจากการส่งออกที่ขยายตัวในอัตราสูง โดยปีนี้คาดว่าส่งออกจะมีอัตราการขยายตัว 8.5% และการลงทุนภาคเอกชนที่มีสัญญาณฟื้นตัวชัดเจน สอดคล้องกับการบริโภคภาคเอกชนที่ขยายตัวได้ต่อเนื่อง

ส่วนเศรษฐกิจไทยปี 61 มีแนวโน้มขยายตัวต่อเนื่องที่ 3.8% (ช่วงคาดการณ์ 3.3-4.3%) โดยมีการใช้จ่ายภาครัฐเป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญ (ที่มา สศค.)

(0) ผลประชุมเฟดเมื่อวาน คงดอกเบี้ยตามคาด และ ตลาดคงคาดขึ้นดอกเบี้ย 0.25% เป็น 1.25%-1.50%

(+) สื่อต่างประเทศฟันธง Jerome Powell นั่งประธานเฟดคนใหม่ (ที่มา ASPEN)