หุ้นเครื่องดื่มปรอทแตก เก็งกำไรยอดพุ่งรับหน้าร้อน เกาะกระแส “กัญชา-กัญชง”

ส่องเทรนด์หุ้นเครื่องดื่มตีปีกรับฤดูร้อน “บล.ทิสโก้” คาดกำไร 4 บริษัทเครื่องดื่มปีนี้โต 17% จับตาครึ่งปีหลังแห่ออกสินค้าใหม่เกาะกระแส “กัญชา-กัญชง” แนะนำซื้อ “SAPPE” ราคาเป้าหมาย 35 บาท เหตุราคาหุ้นยังถูก ขณะที่ “บล.กสิกรไทย” ชี้ยอดขายในประเทศพ้นจุดต่ำสุดแล้ว หลังจากนี้ทยอยฟื้นตัวฟาก “อิชิตัน” วางขาย “อิชิตัน กรีนแลป” เครื่องดื่มกลิ่นหอมเหมือนกัญชงกลาง เม.ย. ด้าน “เซ็ปเป้” คาดรายได้ปีนี้โต 15-20%

นายอภิชาติ ผู้บรรเจิดกุล ผู้อำนวยการอาวุโส สายงานวิเคราะห์เชิงกลยุทธ์ บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) ทิสโก้ จำกัด เปิดเผย “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า ช่วงหน้าร้อน กลุ่มหุ้นเครื่องดื่มมักจะถูกเก็งกำไรจากยอดขายที่น่าจะออกมาดีทุกปี โดยมี 4 หลักทรัพย์ที่บริษัทวิเคราะห์ ก็คือ 1.บมจ.คาราบาวกรุ๊ป (CBG) 2.บมจ.โอสถสภา (OSP) 3.บมจ.อิชิตันกรุ๊ป (ICHI) และ 4.บมจ.เซ็ปเป้ (SAPPE) ซึ่งแนะนำ “ซื้อ” เพียงบริษัทเดียว คือ SAPPE เนื่องจากราคาหุ้นในแง่การประเมินมูลค่า ยังถูกที่สุดในกลุ่ม ส่วนที่เหลืออีก 3 บริษัท แนะนำ “ถือ” จากอัพไซด์ที่มีจำกัด

โดยหุ้น CBG ให้ราคาเป้าหมายปี 2564 อยู่ที่ 139 บาท, หุ้น ICHI ให้ราคาเป้าหมายที่ 12.3 บาท, หุ้น OSP ให้ราคาเป้าหมายที่ 39 บาท และหุ้น SAPPE ให้ราคาเป้าหมายอยู่ที่ 35 บาท

ทั้งนี้ หากประเมินกำไร 4 บริษัทรวมกันในปีนี้ คาดว่าจะอยู่ที่ 9,256 ล้านบาท หรือเติบโตประมาณ 17% เมื่อเทียบจากช่วงเดียวกันปีก่อน ส่วนใหญ่แต่ละบริษัทจะมีการออกผลิตภัณฑ์ใหม่ที่มีส่วนผสมกัญชา-กัญชงในช่วงครึ่งปีหลัง แต่คงยังไม่เห็นผลเป็นรูปธรรมในแง่ของรายได้มากนัก

โดยคาดการณ์กำไรของ CBG จะอยู่ที่ 4,467 ล้านบาท เติบโต 26.7%, กำไรของ ICHI อยู่ที่ 638 ล้านบาท เติบโต 23.8% กำไรของ OSP อยู่ที่ 3,725 ล้านบาท เติบโต 6.3% และกำไรของ SAPPE อยู่ที่ 426 ล้านบาท เติบโต 11.8%

“หุ้นเครื่องดื่มมีทิศทางที่ดี เพราะฐานปีที่แล้วค่อนข้างต่ำจากการล็อกดาวน์ ดังนั้น น่าจะฟื้นตัวได้ดีในปีนี้ ถ้าเทียบรายไตรมาสจากปีก่อน”

นางสาวหมิ่นหลิง หวัง นักวิเคราะห์หลักทรัพย์กลุ่มอาหารและเครื่องดื่ม บล.กสิกรไทย กล่าวว่า ช่วงหน้าร้อนปีนี้คาดว่าผู้บริโภคจะดื่มเครื่องดื่มกันมากขึ้น โดยประเมินยอดขายเครื่องดื่มในประเทศในช่วงไตรมาส 1 น่าจะเป็นจุดต่ำสุดไปแล้ว และตั้งแต่ไตรมาส 2 เป็นต้นไปจะค่อย ๆ ปรับตัวเพิ่มขึ้น รวมทั้งในไตรมาส 3-4 ซึ่งแต่ละบริษัทจะมีผลิตภัณฑ์ใหม่ในกลุ่มกัญชา-กัญชงออกมาด้วย จะช่วยเสริมยอดขายในประเทศได้

ขณะที่ยอดขายในต่างประเทศของแต่ละบริษัทยังโดนปัจจัยกดดันจากการรัฐประหารในประเทศเมียนมา และการขาดแคลนตู้คอนเทนเนอร์ ซึ่งมีบางบริษัทที่ต้องส่งสินค้าไปประเทศไกล ๆ เช่น SAPPE เป็นต้น

“ในงบฯไตรมาส 1 ของหุ้นเครื่องดื่มที่จะออกมาอาจจะไม่สวยเท่าไหร่ แต่ก็ไม่แย่ ปัจจุบันเราวิเคราะห์อยู่ 3 บริษัท คือ OSP, CBG, SAPPE แต่เชื่อว่าไตรมาส 2 จะปรับตัวดีขึ้น อาจจะมีบางบริษัทที่มีต้นทุนการผลิตขวดปรับตัวเพิ่มขึ้น เช่น SAPPE ซึ่งต้องใช้สินค้าลอตใหม่ช่วงปลายไตรมาส 3 จึงจะเห็นผลกระทบในไตรมาส 3-4 แต่อย่างไรก็ดี ช่วงนั้นเป็นช่วงมีสินค้าออกใหม่จึงอาจจะช่วยบาลานซ์รายได้”

นายตัน ภาสกรนที กรรมการผู้อำนวยการ ICHI กล่าวว่า ปีนี้บริษัทวางเป้ารายได้อยู่ที่ 6,200 ล้านบาท เติบโต 21.6% หลัก ๆ มาจากรับรู้รายได้เครื่องดื่มที่ไม่ใช่ชาเขียว โดยเฉพาะน้ำด่างผสมวิตามินและน้ำวิตามิน นอกจากนี้ บริษัทจะมีรายได้ใหม่จากการรับจ้างผลิต (OEM) ให้กับลูกค้าทั้งในและต่างประเทศ

โดยปีนี้ตั้งเป้ารายได้จากส่วนนี้ 300 ล้านบาท คาดว่าจะเริ่มรับรู้รายได้จาก OEM ลูกค้ารายใหญ่ 2 ราย ในไตรมาส 2 และในอนาคตก็มีแผนผลิตเครื่องดื่มกัญชงให้กับบริษัทที่สนใจในระยะถัดไป

ทั้งนี้ บริษัทได้เปิดตัว “อิชิตัน กรีนแลป” เครื่องดื่มผสมเทอร์ปีน (สารสกัดจากพืชให้กลิ่นหอมเหมือนกัญชง) มีคุณสมบัติทำให้ผ่อนคลาย บรรเทาความเครียด และช่วยในการนอนหลับ คาดเริ่มวางขายในร้านสะดวกซื้อกลางเดือน เม.ย.นี้ ส่วนในระยะถัดไปจะเป็นเครื่องดื่มผสมสารสกัด CBD จากกัญชง คาดเริ่มขายในไตรมาส 3

นางสาวปิยจิต รักอริยะพงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร SAPPE กล่าวว่า ปีนี้คาดว่ารายได้จากการขายจะเติบโต 15-20% จากปีก่อนที่มีรายได้ 3,268 ล้านบาท โดยมาจากธุรกิจหลักที่ตั้งเป้าเติบโต 10% ขณะที่ธุรกิจกัญชา-กัญชง รวมถึงธุรกิจใหม่ อาทิ โมบายคาเฟ่ จะมีสัดส่วนการเติบโต 5-10% ของรายได้รวม

“ในไตรมาส 1/2564 รายได้ของบริษัทอาจลดลงเล็กน้อย จากผลกระทบโควิด-19ระลอกใหม่ แต่คาดว่าในไตรมาส 2-4 น่าจะกลับมาเติบโตต่อเนื่อง”