หุ้นไทย “ลงก่อนขึ้นทีหลัง” ในกรอบ 1,525-1,550 จุด ยอดติดเชื้อโควิดกดดันตลาด

ภาพประกอบข่าว กระดานหุ้น-ดัชนีหุ้น

ตลาดหุ้นไทยวันนี้ “ลงก่อนขึ้นทีหลัง” ในกรอบ 1,525-1,550 จุด การแพร่ระบาดโควิด-19 ในประเทศยังคงเร่งตัวสูงขึ้นและทำสถิติสูงสุดใหม่ แต่ตลาดได้ปัจจัยบวกจากตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐออกมาแกร่ง-บอนด์ยีลด์อ่อนตัว-ลุ้นจีดีพีจีนไตรมาส 1 โต +19%

บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) ฟิลลิป (ประเทศไทย) รายงานแนวโน้มตลาดหุ้นไทยวันที่ 16 เม.ย. 2564 ว่า คาดจะแกว่งตัวอิงทางลงก่อนค่อยปรับตัวขึ้นทีหลังระหว่าง 1,525 – 1,550 จุด จากปัจจัยลบภายในประเทศเป็นหลัก ในส่วนของการแพร่ระบาดโควิด-19 ที่ยังคงเร่งตัวสูงขึ้นและทำสถิติสูงสุดใหม่ อย่างไรก็ตามทางฝ่ายวิจัยคาดว่าตลาดหุ้นไทยจะกลับมาปรับตัวขึ้นได้จากปัจจัยเชิงบวกภายนอก อาทิ

1.ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐที่ออกมาแข็งแกร่งต่อเนื่อง ขณะที่ผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐอายุ 10 ปีก็อ่อนลงเช่นกัน ส่งผลให้ VIX Index ปรับตัวลง เป็นเซนติเมนต์บวกต่อการลงทุนทั่วโลก

และ 2.การประกาศจีดีพีไตรมาส 1/64 ของจีนในเช้าวันนี้ ซึ่งตลาดคาดจะเติบโตถึง 19% เทียบช่วงเดียวกันปีก่อน

สำหรับ COVID-19 ในประเทศยังคงทวีความรุนแรง ติดตามตัวเลขหลังเทศกาลสงกรานต์โดยจำนวนผู้ติดเชื้อรายวันในประเทศยังคงเดินหน้าทำสถิติสูงสุดใหม่อย่างต่อเนื่อง ล่าสุดวานนี้พบผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้น 1,543 ราย ประกอบกับช่วงเทศกาลสงกรานต์ประชาชนมีการเดินทางกลับภูมิลำเนาในต่างจังหวัด ในภาพรวมทางฝ่ายวิจัยจึงยังไม่เห็นทิศทางที่ผู้ติดเชื้อรายวันจะปรับตัวลดลงได้ในระยะเวลานสั้น และคาดว่าปัจจัยนี้จะกดดันตลาดหุ้นไทยให้ปรับตัวลงในระยะสั้น

อย่างไรก็ตาม ทางฝ่ายวิจัยประเมินว่าการปรับตัวลงของตลาดหุ้นไทยจะไม่รุนแรงมากนัก เนื่องจากมติล่าสุดของคณะกรรมการโรคติดต่อแห่งชาติเกี่ยวกับมาตรการควบคุม COVID-19 ยังไม่คุมเข้มถึงขั้น Lockdown แต่ในเบื้องต้นจะแบ่งแต่ละจังหวัดออกเป็น 2 สี ได้แก่ สีส้มและสีแดง

ซึ่งจังหวัดใดที่อยู่ในพื้นที่สีแดงร้านอาหารจะต้องปิดภายในเวลา 21.00 น. โดยจะนำเสนอต่อที่ประชุม ศบค.วันนี้ อีกทั้งหลายฝ่ายเริ่มเคลื่อนไหวเพื่อควบคุมสถานการณ์เร็วขึ้น อาทิ สมาคมผู้ค้าปลีกไทยสั่งให้ทุกห้างสรรพสินค้าปิดทำการเวลา 21.00 น.ทุกวัน และสมาคมธนาคารไทยประกาศปิดธนาคารทุกแห่งทั่วประเทศเร็วขึ้น

ขณะที่ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐยังคงแข็งแกร่ง วานนี้สหรัฐประกาศตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญ ได้แก่ 1.ยอดค้าปลีกในเดือน มี.ค.ขยายตัว 8.4% เทียบจากเดือนก่อนหน้า ดีกว่าที่ตลาดคาดว่าจะขยายตัว 5.0% เทียบจากเดือนก่อนหน้า และยังดีกว่าเมื่อเดือน ก.พ. ที่เคยหดตัวราว 2.5% เทียบจากเดือนก่อนหน้า และ 2.ตัวเลขผู้ขอยื่นรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกลดลงสู่ระดับ 5.76 แสนราย ดีกว่าที่ตลาดคาดไว้ที่ระดับ 7 แสนราย และเป็นตัวเลขที่ต่ำที่สุดตั้งแต่ มี.ค. ปีที่แล้ว

จากตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐที่ออกมาแข็งแกร่งอย่างต่อเนื่องตั้งแต่สัปดาห์ก่อน อีกทั้งผลตอบแทนพันธ์บัตรสหรัฐอายุ 10 ปี ลงมาอยู่ที่บริเวณ 1.56% ต่ำที่สุดในระยะเวลาราว 1 เดือนที่ผ่านมา ส่งผลให้ VIX Index ที่ใช้วัดความผันผวนของตลาดหุ้นในสหรัฐก็ปรับตัวลงสู่ระดับ 16.57 จุด ซึ่งถือเป็นระดับต่ำที่สุดใกล้เคียงกับช่วงก่อนเกิดวิกฤต COVID-19 ที่เคยทำให้สินทรัพย์เสี่ยงทั่วโลกปรับตัวทิ้งดิ่งลงอย่างหนักในช่วง เดือน มี.ค. ปีแล้ว