UOB จับกระแสทุนจีนบุกไทย รุกที่ปรึกษาลงทุนระหว่างประเทศ


นายแซม ชอง รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ พาณิชย์ธนกิจและหน่วยงานที่ปรึกษาด้านการลงทุนระหว่างประเทศ กลุ่มธนาคารยูโอบี กล่าวว่า หน่วยงานที่ปรึกษาด้านการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ (FDI Advisory Unit) ที่อยู่ในประเทศไทย มีความพร้อมที่จะเข้ามาให้บริการอย่างเต็มที่ เนื่องจาก

นักลงทุนจีนเริ่มจะใช้ประเทศไทยเป็นฐานกำลังการผลิต รวมถึงยังมีโครงการพื้นที่ระเบียงเศรษฐกิจ (EEC) ที่จะเป็นจุดที่ช่วยกระตุ้นการตัดสินใจของนักลงทุนจีนให้เข้ามาขยายการลงทุนในไทยมากขึ้นอีกด้วย และเชื่อว่าสัดส่วนการลงทุนจากประเทศจีนจะเข้ามาในประเทศไทย เพิ่มขึ้นต่อเนื่องโดยเฉพาะอย่างยิ่งมีจุดเชื่อมที่เป็นส่วนของ One Belt One Road

โดยมองประเทศไทย มีศักยภาพในการรองรับการลงทุนใหม่ ๆ เนื่องด้วยปัจจัยหลาย ๆ ด้าน ทั้งนโยบายการลงทุนของภาครัฐ การเชื่อมต่อระดับภูมิภาคที่เพิ่มขึ้นและโครงการปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐานด้านการขนส่งของประเทศที่ทำอย่างต่อเนื่อง ขณะที่ช่วงไตรมาสแรกปี’60 มีเม็ดเงินการลงทุนจากประเทศจีนเข้ามาขยายการลงทุนในไทยมูลค่ากว่า 2.7 พันล้านบาท ปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นกว่า 40% จากปี 2559

“เมื่อปีที่ผ่านมาเม็ดเงินการลงทุนที่เข้ามาในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้อยู่ประมาณ 27,000 ล้านดอลลาร์สิงคโปร์ ซึ่งถือเป็น 2 เท่าเมื่อเทียบกับปีก่อนหน้านี้ ที่เป็นเม็ดเงินสะพัดเข้ามายังภูมิภาคนี้ ซึ่งประเทศไทยก็จะได้รับประโยชน์ด้วย” นายแซม ชองกล่าว

ทั้งนี้ กลุ่มธนาคารยูโอบี มีหน่วยงาน FDI Advisory Unit ให้บริการอยู่ใน 9 ประเทศ ได้แก่ จีน ฮ่องกง อินเดีย อินโดนีเซีย มาเลเซีย เมียนมา สิงคโปร์ ไทย และเวียดนาม ถือเป็นส่วนช่วยขยายการลงทุนขององค์กรธุรกิจจากประเทศจีนเข้ามาในประเทศไทย โดยส่วนมากจะมาจากกลุ่มอุตสาหกรรมสินค้าและอุปโภคบริโภค การผลิตและการสำรวจทรัพยากรธรรมชาติ ยานยนต์และอิเล็กทรอนิกส์ เป็นต้น และยังช่วยนักลงทุนไทยไปขยายการลงทุนในประเทศอื่น ๆ ด้วย