บริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด รายงานราคาทองคำประจำวันที่ 23 เมษายน 2564
- ประกาศแล้ว! พระราชกฤษฎีกาเงินช่วยค่าครองชีพผู้รับเบี้ยหวัดบำนาญ รับ 11,000 บาทต่อเดือน
- อย. เตือนอย่าซื้อผลิตภัณฑ์ CDS มาทาน อันตรายถึงชีวิต
- แห่ขายที่ดินพ่วงโรงงาน เอกชนถอดใจ-สินค้าจีนตีตลาด
สรุป ราคาทองคำวานนี้ปิดปรับตัวลดลง 9.90 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยราคาทองคำขึ้นไปทดสอบระดับสูงสุดใหม่นี้บริเวณ 1,797 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ก่อนที่จะปรับตัวลดลงในเวลาต่อมา ทั้งนี้ ราคาทองคำได้รับแรงกดดันจาก (1) แรงขายทำกำไรและแรงขายทางเทคนิค (2) การเปิดเผยตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐที่ “ดีเกินคาด”
อาทิ ตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานที่ลดลงสู่ระดับ 547,000 ราย และแตะระดับต่ำสุดในรอบ 13 เดือน, ดัชนี CFNAI ปรับตัวขึ้นสู่ระดับ +1.71 ในเดือน มี.ค. จากระดับ -1.2 ในเดือน ก.พ. และ ดัชนีชี้นำเศรษฐกิจจาก Conference Board ที่พุ่งขึ้น 1.3% สถานการณ์ดังกล่าวหนุนให้ดัชนีดอลลาร์แข็งค่า พร้อมหนุนอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปี ให้ดีดตัวขึ้นจนเป็นปัจจัยกดดันราคาทองคำ
และ (3) การร่วงลงของสกุลเงินยูโร หลังธนาคารกลางยุโรป (ECB) มีมติ “คง” อัตราดอกเบี้ย และ “คง” วงเงินของโครงการซื้อสินทรัพย์ อย่างไรก็ดี นาง Christine Lagarde ประธาน ECB กล่าวว่า ผู้กำหนดนโยบายยังไม่ได้หารือเกี่ยวกับการยุติโครงการเข้าซื้อพันธบัตรเพราะ “ยังเร็วเกินไป” รวมถึงยังมองว่าเศรษฐกิจยังคง “ตกอยู่ภายใต้ความไม่แน่นอน” แม้จะมีสัญญาณของการฟื้นตัวและความคืบหน้าจากการฉีดวัคซีนต้าน COVID-19 ก็ตาม
ปัจจัยดังกล่าวหนุนดัชนีดอลลาร์เพิ่มจนกดดันราคาทองคำ ส่งผลให้ราคาทองคำร่วงลงแตะระดับต่ำสุดบริเวณ 1,777.32 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ก่อนจะมีแรงซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยเข้ามาพยุงราคาไว้ หลังจากตลาดหุ้นสหรัฐดิ่งลงแรงท่ามกลางความวิตกเกี่ยวกับแผนการขึ้นภาษีของประธานาธิบดีไบเดน ด้านกองทุน SPDR ถือครองทองคำไม่เปลี่ยนแปลง
สำหรับวันนี้ติดตามการเปิดเผยดัชนี PMI ภาคการผลิตและภาคการบริการ รวมถึงยอดขายบ้านใหม่ของสหรัฐ
คำแนะนำ ราคาทองคำอ่อนตัวลงจะมีแนวรับบริเวณ 1,777-1,763 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หากยืนได้ ราคามีโอกาสทดสอบแนวต้าน 1,800-1,806 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หากไม่สามารถผ่านได้ให้แบ่งขายทำกำไร