เงินบาทอ่อนค่า จับตาปัจจัยสำคัญสัปดาห์หน้า การระบาดโควิดระลอก 3

นักท่องเที่ยว-โควิด

เงินบาททยอยอ่อนค่าลง ขณะที่หุ้นไทยร่วงลงช่วงปลายสัปดาห์ ท่ามกลางความกังวลต่อสถานการณ์โควิด 19 จับตาปัจจัยสำคัญสัปดาห์หน้า การระบาดของโควิดในประเทศระลอกสาม การกระจายวัคซีน ผลประกอบการงวดไตรมาส 1/64 ของบจ.ไทย ประชุมเฟด (27-28 เม.ย.)

ศูนย์วิจัยกสิกรไทย สรุปความเคลื่อนไหวของค่าเงินบาทว่า เงินบาทแตะระดับอ่อนค่าสุดในรอบ 1 สัปดาห์ที่ 31.44 บาทต่อดอลลาร์ฯ ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับความเสี่ยงของสถานการณ์การระบาดของโควิด 19 ในประเทศระลอกสาม ซึ่งมีจำนวนผู้ติดเชื้อเร่งตัวสูงขึ้น

ขณะที่เงินดอลลาร์ฯ ได้รับแรงหนุนเพิ่มเติมในช่วงท้ายๆ สัปดาห์ในฐานะสกุลเงินปลอดภัยท่ามกลางความกังวลต่อข้อเสนอแผนการปรับขึ้นภาษีของ ปธน. โจ ไบเดน ประกอบกับมีปัจจัยบวกจากจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ของสหรัฐฯ ที่ปรับลดลงมากกว่าตัวเลขคาดการณ์ของตลาด ซึ่งสะท้อนสัญญาณการทยอยฟื้นตัวต่อเนื่องของตลาดแรงงานสหรัฐฯ

ในวันศุกร์ (23 เม.ย.) เงินบาทอยู่ที่ระดับ 31.37 เทียบกับระดับ 31.22 บาทต่อดอลลาร์ฯ ในวันศุกร์ก่อนหน้า (16 เม.ย.)

สำหรับสัปดาห์ถัดไป (26-30 เม.ย.) ธนาคารกสิกรไทยมองกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทที่ 31.20-31.60 บาทต่อดอลลาร์ฯ ขณะที่ศูนย์วิจัยกสิกรไทยประเมินปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตาม ได้แก่ ผลการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐฯ และธนาคารกลางญี่ปุ่น

ส่วนตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่สำคัญ ได้แก่ ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทน ยอดทำสัญญาขายบ้านที่รอปิดการขาย รายได้และการใช้จ่ายส่วนบุคคล ดัชนีราคา PCE/Core PCE Price Index เดือนมี.ค. ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนเม.ย. ตัวเลขจีดีพีไตรมาส 1/64 และจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์

นอกจากนี้ตลาดยังรอติดตามรายงานเศรษฐกิจการเงินเดือนมี.ค. ของธปท. สถานการณ์และมาตรการควบคุมโควิด 19 ในประเทศและทั่วโลก กำไรภาคอุตสาหกรรมเดือนมี.ค. ของจีน ตัวเลขจีดีพีไตรมาส 1/64 ของยูโรโซนด้วยเช่นกัน

ส่วนสรุปความเคลื่อนไหวของตลาดหุ้นไทย หุ้นไทยทยอยลดช่วงบวก หลังปรับขึ้นช่วงสั้นๆ ต้นสัปดาห์ โดยดัชนี SET ปิดที่ระดับ 1,553.59 จุด เพิ่มขึ้น 0.30% จากสัปดาห์ก่อน ขณะที่มูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยต่อวันอยู่ที่ 90,019.41 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 7.37% จากสัปดาห์ก่อน ส่วนดัชนี mai เพิ่มขึ้น 5.74% มาปิดที่ 472.76 จุด

หุ้นไทยดีดตัวขึ้นช่วงต้นสัปดาห์ โดยมีแรงหนุนจากแรงซื้อหุ้นในหลายกลุ่มอุตสาหกรรม โดยเฉพาะกลุ่มธนาคารและการเงิน ที่มีปัจจัยบวกจากผลประกอบการไตรมาส 1/64 ซึ่งออกมาค่อนข้างดี

อย่างไรก็ดี หุ้นไทยแกว่งตัวในกรอบแคบช่วงกลางสัปดาห์ ก่อนจะร่วงลงในช่วงที่เหลือของสัปดาห์ ท่ามกลางความกังวลต่อสถานการณ์การระบาดของโควิด 19 ทั้งในและต่างประเทศ ซึ่งอาจทำให้การฟื้นตัวทางเศรษฐกิจล่าช้าออกไปอีก ขณะที่ นักลงทุนต่างชาติมีสถานะขายสุทธิหุ้นไทยตลอดสัปดาห์

สำหรับสัปดาห์ถัดไป (26-30 เม.ย.) บริษัทหลักทรัพย์กสิกรไทย จำกัด มองว่า ดัชนีหุ้นไทยมีแนวรับที่ 1,540 และ 1,525 จุด ขณะที่แนวต้านอยู่ที่ 1,575 และ 1,585 จุด ตามลำดับ

โดยศูนย์วิจัยกสิกรไทยประเมินปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตาม ได้แก่ การประชุมเฟด (27-28 เม.ย.) สถานการณ์โควิด 19 ตลอดจนความคืบหน้าเกี่ยวกับการกระจายวัคซีนต้านโควิด 19 ในประเทศ และผลประกอบการงวดไตรมาส 1/64 ของบจ.ไทย

ส่วนข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่สำคัญ ได้แก่ ตัวเลขจีดีพีไตรมาส 1/64 ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทน รายได้และรายจ่ายส่วนบุคคลเดือนมี.ค. และดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนเม.ย.

ขณะที่ปัจจัยต่างประเทศที่สำคัญอื่นๆ ได้แก่ การกระชุม BOJ ตัวเลขจีดีพีไตรมาส 1/64 ของยูโรโซน ตลอดจนดัชนี PMI เดือนเม.ย. ของจีน