PROS เปิดเทรดวันแรก เหนือจอง ราคาพุ่ง 100%

หุ้นขึ้น

ราคา “หุ้น PROS” ธุรกิจบริการรับเหมาติดตั้งงานระบบวิศวกรรมประกอบอาคาร เปิดซื้อขายวันแรกในตลาดหุ้น mai อยู่ที่ 4 บาท ราคาทะยาน 100% จากราคาไอพีโอหุ้นละ 2 บาท นำเงินขยายลงทุนเครื่องจักรและอุปกรณ์-ใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียน

วันที่ 27 เม.ย. 2564 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บมจ.พรอสเพอร์ เอ็นจิเนียริ่ง (PROS) ได้เข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์เอ็ม เอ ไอ (mai) ช่วงเช้าวันนี้เป็นวันแรก ด้วยราคาเปิดตลาด 4 บาท เพิ่มขึ้น 2 บาท หรือคิดเป็น 100% จากราคาเสนอขายประชาชนทั่วไปครั้งแรก (IPO) ที่ราคา 2 บาทต่อหุ้น

PROS ถือเป็นหนึ่งในผู้นำธุรกิจบริการรับเหมาติดตั้งงานระบบวิศวกรรมประกอบอาคาร เสนอขายไอพีโอจำนวน 140 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้ (พาร์) 0.50 บาทต่อหุ้น คิดเป็น 25.93% ของจำนวนหุ้นสามัญที่ออกและชำระแล้วทั้งหมดของบริษัท สำหรับเงินที่ได้จากการระดมทุนบริษัทมีแผนจะนำเงินขยายลงทุนเครื่องจักรและอุปกรณ์ และใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในการประกอบกิจการ

นายพงศ์เทพ รัตนแสงสรวง ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร PROS กล่าวว่า บริษัทมั่นใจว่าการเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) วันแรกจะได้รับการตอบรับที่ดีจากนักลงทุน และพร้อมเดินหน้าขยายธุรกิจต่อเนื่อง ด้วยความพร้อมทางด้านบุคลากรและระบบการทำงานเพื่อขยายธุรกิจและโอกาสในการเข้าประมูลงานใหม่ ๆ และสนับสนุนความสามารถในการสร้างรายได้และกำไร รวมถึงอัตราผลตอบแทนของผู้ถือหุ้นในบริษัทให้เติบโตอย่างต่อเนื่อง

ทั้งนี้จากประสบการณ์การทำงานในโครงการของหน่วยงานภาครัฐที่เพิ่มมากขึ้น ประกอบกับนโยบายภาครัฐที่เน้นการลงทุนในระบบสาธารณูปโภคต่าง ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในด้านพลังงานไฟฟ้า, ขนส่งมวลชน และสื่อสารโทรคมนาคม จึงทำให้กลุ่มบริษัทมีโอกาสในการเข้าไปขยายงานในส่วนของงานภาครัฐ จากปัจจุบันมีสัดส่วนค่อนข้างน้อยหรือสิ้นปีคาดอยู่ที่ประมาณ 20% ซึ่งคาดจะเพิ่มเป็น 50% ในอนาคต

ขณะที่งานภาคเอกชนที่บริษัทมีความแข็งแกร่งอยู่แล้ว จากผลงานเป็นที่ยอมรับจากผู้ประกอบการที่มีชื่อเสียงในอุตสาหกรรมต่าง ๆ เช่น เทสโก้ โลตัส บริษัท เอพี (ไทยแลนด์) จำกัด (มหาชน) บริษัท โฮม โปรดักส์ เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน) บริษัท ไทยออยล์ จำกัด (มหาชน) และกลุ่ม ปตท.เป็นต้น ซึ่งบริษัทเหล่านี้มีการขยายการเติบโตอย่างต่อเนื่อง

“บริษัทมีการกระจายความเสี่ยงลูกค้าให้มีความหลากหลาย และขยายงานไปยังกลุ่มงานภาครัฐเพิ่มมากขึ้น และที่ผ่านมาบริษัทฯ ใช้กลยุทธ์การตลาด เพื่อดูแลลูกค้าซึ่งเป็นบริษัทชั้นนำอย่างมีคุณภาพ ทำให้กลุ่มลูกค้าส่วนใหญ่จะเป็นลูกค้าเกรด A ที่มีฐานะการเงินดี และทำให้เราไม่มีปัญหาเรื่องการเงิน และเป็นบริษัทที่แทบไม่มีหนี้ นอกจากนี้บริษัทมีความตั้งใจทำงานภายใต้วิสัยทัศน์เป็นบริษัทรับเหมาชั้นนำของประเทศ ซึ่งประวัติผลงานและลูกค้าในอดีตเป็นเครื่องการันตี และทำให้ลูกค้ากลุ่มใหม่ๆเชิญ PROS เข้าร่วมประมูลงานเพิ่มมากขึ้น” นายพงศ์เทพกล่าว

โดยแผนการเติบโตในช่วง 3 ปีจากนี้ (ปี 2564-2566) บริษัทตั้งเป้ารายได้เติบโตเฉลี่ยปีละ 10-20% โดยจะมาจากงานบริการรับเหมาติดตั้งงานระบบประกอบอาคาร และรายได้จากงานให้บริการรับเหมาก่อสร้างงานโยธา คิดเป็นสัดส่วนรายได้รวมกันกว่า 99% ส่วนที่เหลือจะเป็นรายได้อื่น ๆ ขณะเดียวกันบริษัทยังคงเน้นควบคุมและการบริหารจัดการต้นทุนที่ดี เพื่อความสามารถในการทำกำไรที่ดี โดยมีเป้าหมายรักษาอัตรากำไรสุทธิ (Net Profit Margin) ให้อยู่ที่ระดับ 6-7% จากปี 2563 ที่มีอัตรากำไรสุทธิที่ระดับ 5%

นายสัมฤทธิ์ชัย ตั้งหะรัฐ กรรมการผู้จัดการ บริษัท คันทรี่ กรุ๊ป แอ๊ดไวเซอรี่ จำกัด ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน PROS กล่าวว่า PROS จะเป็นหุ้นไอพีโอที่ได้รับความสนใจจากนักลงทุน ด้วยจุดเด่นบริษัทฯมีฐานะการเงินที่แข็งแกร่ง โดยภายหลังจากไอพีโอคาดว่าอัตราส่วนหนี้สินต่อส่วนของผู้ถือหุ้นจะลดลงเหลือเพียง 0.61เท่าในปี 64 จากปี 63 ก่อนอยู่ที่ 1.18 เท่า มีเงินสดในมือสูง และมีการจ่ายปันผลต่อเนื่อง โดยมีนโยบายการจ่ายปันผลไม่ต่ำกว่า 50%

ขณะที่รายได้และกำไรเติบโตแข็งแกร่งโดยมีปัจจัยสนับสนุนจากงานโครงการในมือที่ยังไม่ส่งมอบ ณ วันที่ 15 มี.ค.64 จำนวน 768 ล้านบาท และงานที่มีหนังสือแสดงเจตจำนงการว่าจ้าง (LOI) อีกราว 1,229 ล้านบาท สนับสนุนงานในมือ (Backlog) ในปัจจุบันอยู่ประมาณ 2,000 ล้านบาท ซึ่งเป็นตัวเลขงานในมือทุบสถิติใหม่ของบริษัท โดยจะทยอยรับรู้รายได้ค่อนข้างมั่นคงและมีเสถียรภาพ และยังไม่รับรวมโครงการใหม่ ๆ ที่บริษัทมีโอกาสเข้าไปร่วมประมูลเพิ่มเติม

สำหรับผลงานในปี 2563 แม้ในสถานการณ์โควิด-19 บริษัทก็สามารถทำกำไรสุทธิอยู่ที่ 51 ล้านบาท เติบโตกว่า 86.66% จากปี 2562 แสดงให้เห็นว่าบริษัทมีศักยภาพในการปรับตัวทางธุรกิจให้มีกำไรต่อเนื่อง แม้ในภาวะเศรษฐกิจที่มีการเปลี่ยนแปลงไป ส่วนรายได้อยู่ที่ 944.77 ล้านบาท

นางสาวพัชพร สรรคบุรานุรักษ์ กรรมการผู้จัดการ ฝ่ายวาณิชธนกิจ บริษัทหลักทรัพย์ เคจีไอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ในฐานะผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายหุ้นสามัญเพิ่มทุนของ PROS กล่าวว่า ความเชื่อมั่นหุ้น PROS ในการเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ นักลงทุนจะให้ความสนใจและการตอบรับเป็นอย่างดี จากราคาหุ้น IPO ที่ระดับราคา 2 บาท เป็นราคาที่มีส่วนลดในระดับที่ดีมากให้กับนักลงทุน

โดย P/E ของบริษัทคาดว่าจะลดลงได้อีกมากจากศักยภาพที่จะเติบโตโดดเด่นต่อเนื่อง จากงานในมือสูงเป็นประวัติการณ์ และจากฐานทุนที่แข็งแกร่งขึ้น จะทำให้บริษัทมีความพร้อมเข้าประมูลงานใหม่ ๆ ทั้งภาครัฐและเอกชน และมีโอกาสได้รับงานอีกมากในอนาคต ตามการขยายตัวของกลุ่มลูกค้าในหลากหลายอุตสาหกรรมทั้งภาครัฐและเอกชนในประเทศ ประกอบกับการเข้ามาจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ จะช่วยเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน และเพิ่มโอกาสในการรับงานที่มีมูลค่าสูงขึ้น