ASW เทรดวันแรกราคาเปิด 11.80 บาท เหนือจอง 20%

“แอสเซทไวส์” เข้าซื้อขายในตลาดหุ้นไทยวันแรก เปิดเทรดที่ 11.80 บาทต่อหุ้น ราคาพุ่ง 20.16% จากราคาไอพีโอ 9.82 บาทต่อหุ้น ลุยนำเงินระดมทุนพัฒนาโครงการคอนโดมิเนียม High Rise-Low Rise โครงการอสังหาริมทรัพย์แนวราบ และคืนหนี้สถาบันการเงิน-ใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียน

วันที่ 28 เม.ย. 2564 บริษัท แอสเซทไวส์ จำกัด (มหาชน) หรือ ASW ได้เข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) วันนี้เป็นวันแรกโดยเปิดตลาดหุ้นไทยพบว่า ราคาหุ้นเปิดการซื้อขายอยู่ที่ 11.80 บาทต่อหุ้น ปรับตัวสูงขึ้น 1.98 บาท หรือคิดเป็น 20.16% จากราคาไอพีโอที่ 9.82 บาทต่อหุ้น

ปัจจุบัน ASW มีทุนชำระแล้วหลัง IPO จำนวน 761 ล้านบาท มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1 บาท ประกอบด้วยหุ้นสามัญเดิม 555 ล้านหุ้น และหุ้นสามัญเพิ่มทุนที่เสนอขายต่อประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก (IPO) จำนวน 206 ล้านหุ้น

โดยเสนอขายบุคคลตามดุลยพินิจของผู้จัดจำหน่ายหลักทรัพย์ 142.4 ล้านหุ้น ผู้มีอุปการคุณ 30.8 ล้านหุ้น นักลงทุนสถาบัน 20 ล้านหุ้นและกรรมการ ผู้บริหารและพนักงานของบริษัทและบริษัทย่อย 12.8 ล้านหุ้น ในราคาเสนอขายหุ้นละ 9.82 บาท คิดเป็นมูลค่าระดมทุนรวม 2,022.92 ล้านบาท และมีมูลค่าหลักทรัพย์ ณ ราคา IPO 7,473.02 ล้านบาท

โดยมีบริษัท ที่ปรึกษา เอเซีย พลัส จำกัด เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน บริษัทหลักทรัพย์ เอเซีย พลัส จำกัด เป็นผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายหุ้นสามัญ

ทั้งนี้ การกำหนดราคาเสนอขายหุ้น IPO ที่ 9.82 บาทต่อหุ้น คิดเป็นอัตราส่วนราคาต่อกำไรสุทธิต่อหุ้น (P/E ratio) ที่ 8.54 เท่า และมีนโยบายจ่ายปันผลให้แก่ผู้ถือหุ้นในอัตราไม่ต่ำกว่า 40% ของกำไรสุทธิตามงบการเงินรวม

ปัจจุบัน ASW ประกอบธุรกิจโดยการถือหุ้นในบริษัทอื่น (Holding Company) ซึ่งดำเนินธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ทั้งโครงการแนวราบและแนวสูง ประกอบด้วย โครงการคอนโดมิเนียม บ้านจัดสรร ทาวน์โฮม และโฮมออฟฟิศ นอกจากนี้ บริษัทยังมีธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์เพื่อเช่าและธุรกิจรับฝากขายอสังหาริมทรัพย์ และตัวแทนรับชำระเงินจากต่างประเทศเพื่อตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าที่หลากหลายอย่างครบด้าน

โดยสิ้นปี 2563 ทาง ASW เปิดขายโครงการมาแล้วทั้งหมด 33 โครงการและมีโครงการห้องชุดที่ทำสัญญาซื้อขายและแต่ยังไม่ได้โอนกรรมสิทธิ์ มูลค่ารวม 7,848 ล้านบาทซึ่งจะทยอยรับรู้รายได้ถึงปี 2566 และคาดว่าจะสามารถรับรู้รายได้ภายในปี 2564 ประมาณ 5,300 ล้านบาท รวมทั้งมีแผนเปิดโครงการในอนาคต 11 โครงการที่คาดว่าจะทยอยรับรู้รายได้ในช่วง 4-5 ปีข้างหน้า มูลค่ารวม 21,202 ล้านบาท

นายกรมเชษฐ์ วิพันธ์พงษ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ASW กล่าวว่า การนำหุ้นเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ ครั้งนี้ จะช่วยเพิ่มศักยภาพในการแข่งขันให้กับบริษัท และเสริมความแข็งแกร่งด้านการเงินของบริษัท ทั้งในแง่ของต้นทุนทางการเงินที่ลดลง ความเชื่อมั่นของคู่ค้า และผู้บริโภค รวมถึงเพิ่มโอกาสในการขยายลงทุนและพัฒนาโครงการใหม่ ผลักดันผลการดำเนินงานให้เติบโตตามแผนงานที่วางไว้

โดย ASW มีแผนจะนำเงินที่ได้จากการระดมทุนไปพัฒนาโครงการคอนโดมิเนียมทั้งแบบ High Rise และ Low Rise และโครงการอสังหาริมทรัพย์แนวราบ รวมถึงนำเงินส่วนหนึ่งไปคืนหนี้สถาบันการเงิน และส่วนที่เหลือใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียน

ผู้ถือหุ้นใหญ่ 3 ลำดับแรกหลัง IPO ของ ASW คือ 1.ครอบครัววิพันธ์พงษ์ ถือหุ้น 69.82% 2. นายประชา กนิลฐานนท์ ถือหุ้น 1.12% และ 3. นายสุเชฎฐ์ ฤทธีภมร ถือหุ้น 0.70%