หุ้น-การเงิน

หุ้นไทยแกว่งตัว 1,560-1,585 จุด แผนจัดหาวัคซีนเอกชนล้ม กดดันบรรยากาศลงทุน

หุ้น

ตลาดหุ้นไทยเช้านี้แกว่งตัว 1,560-1,585 จุด แม้การระบาดโควิดในประเทศยังมีความไม่แน่นอนสูง โดยเฉพาะช่วงใกล้วันหยุดยาวในสุดสัปดาห์นี้ คาดอัพไซต์เริ่มจำกัด ด้านผลประชุมแผนการจัดหาวัคซีนทางเลือก หอการค้าเผยรัฐบาลยืนยันวัคซีนที่จัดหามามีเพียงพอ เอกชนจึงไม่จำเป็นต้องจัดหามาเพิ่ม ฟาก “บล.ฟิลลิป” มอง “เผื่อเหลือดีกว่าเผื่อขาด” จึงอาจกระทบบรรยากาศการลงทุนระยะสั้นได้ ส่วนปัจจัยภายนอกติดตามแถลงแผน 1.8 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐของไบเดนในวันนี้

บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) ฟิลลิป (ประเทศไทย) รายงานแนวโน้มตลาดหุ้นไทยวันที่ 29 เม.ย. 2564 ว่า คาดดัชนี SET เช้านี้แกว่งตัวออกข้างระหว่าง 1,560 – 1,585 จุด แม้การดีดตัวของตลาดวานนี้จะทำให้ภาพรวมระยะสั้นดูดี แต่ตัวแปรสำคัญอย่างสถานการณ์โควิดในประเทศยังมีความไม่แน่นอนสูง โดยเฉพาะช่วงใกล้วันหยุดยาวในสุดสัปดาห์นี้ จึงคาดอัพไซต์เริ่มจำกัดมากขึ้น ส่วนปัจจัยภายนอกติดตามการแถลงแผน 1.8 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐของไบเดนในวันนี้

เบื้องต้นวงเงินดังกล่าวจะถูกนำไปใช้ในแผน “Children and Families Plan” ซึ่งประเด็นที่สร้างความกังวลต่อนักลงทุนคือแหล่งที่มาของรายได้ของวงเงินนี้ ซึ่งก่อนหน้านี้เดิมจะใช้วิธีการขึ้นภาษี Capital Gain tax สำหรับผู้มีรายได้มากกว่า 1 ล้านดอลลาร์ต่อปี จึงเป็นที่น่าติดตามว่าการแถลงของไบเดน ในวันนี้จะมีรายละเอียดเพิ่มเติมอย่างไรบ้าง

ขณะที่ผลประชุมธนาคารกลางสหรัฐ (FED) เป็นไปตามที่หลายฝ่ายคาดการณ์ไว้ โดยเฟดยังคงยืนยันว่าจะคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายระดับต่ำและคงวงเงินการเข้าซื้อพันธบัตรจำนวน 1.2 แสนล้านดอลลาร์ไว้ตามเดิม พร้อมกับให้มุมมองต่อเศรษฐกิจสหรัฐดีขึ้น โดยมองว่าปัจจุบันกิจกรรมทางเศษฐกิจและการจ้างงานมีความแข็งแกร่งมากขึ้น ท่ามกลางการดำเนินการฉีดวัคซีนและการสนับสนุนจากมาตรการต่าง ๆ ซึ่งเซ็กเตอร์ที่ได้รับผลกระทบโควิด-19 รุนแรง แม้จะยังอ่อนแอแต่เห็นการฟื้นตัวขึ้นบ้างแล้ว

ส่วนผลการประชุมแผนการจัดหาวัคซีนทางเลือก หลังการประชุมระหว่างรัฐบาลและภาคเอกชนวานนี้ ล่าสุดหอการค้าออกประกาศเผยรัฐบาลยืนยันวัคซีนที่จัดหามามีเพียงพอต่อประชาชนทุกคน ซึ่งอยู่ระหว่างเร่งดำเนินการนำเข้า ดังนั้นเอกชนจึงไม่จำเป็นต้องจัดหามาเพิ่ม และจะได้ไม่เป็นภาระค่าใช้จ่ายของภาคเอกชนที่ได้รับผลกระทบจาก COVID-19 อยู่แล้ว

เบื้องต้นทางฝ่ายวิจัยมองว่า “เผื่อเหลือดีกว่าเผื่อขาด” จึงอาจกระทบบรรยากาศการลงทุนระยะสั้นได้ เนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดในปัจจุบันยังวางใจไม่ได้ วัคซีนจึงมีความสำคัญมากต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทยในระยะต่อไป

ขณะที่กระทรวงคลังยืนยัน รัฐบาลมีเงินเพียงพอไม่ต้องกู้เพิ่ม โดย รมว.คลัง เผยปัจจุบันรัฐบาลมีงบประมาณเหลือสำหรับเยียวยาผลกระทบจากโควิด-19 ระลอก 3 นี้อีก 4 แสนล้านบาท ซึ่งมาจากการรวมกันในส่วนที่เหลือ พ.ร.ก. เงินกู้ 1 ล้านล้านบาทและงบกลาง โดยมองว่าเพียงพอไม่จำเป็นต้องกู้เพิ่มและมาตรการที่จะตามออกมาอาจอยู่ในรูปแบบของการเยียวยาผสมกับการกระตุ้นเศษฐกิจ ทางฝ่ายวิจัยจึงคาดว่าหนึ่งในมาตรการที่รัฐอาจออกมาคือการกระตุ้นใช้จ่ายและให้สิทธิประโยชน์ทางภาษี

ติดตามตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐคืนนี้ 1.ตัวเลขจีดีพีไตรมาส 1/64 ตลาดคาดโต 6.1% ดีกว่าไตรมาสก่อนที่ขยายตัว 4.3% และ 2.ผู้ขอยื่นรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรก ตลาดคาดเพิ่มขึ้น 5.49 แสนราย ใกล้เคียงกับครั้งก่อนที่เพิ่มขึ้น 5.47 แสนราย