บล.บัวหลวง รายงานภาวะรอบด้านตลาดหุ้น 18 กรกฎาคม 2560

Sideways

วันนี้คาดดัชนี Sideways แนวรับ 1,567 จุด ต้าน 1,582 จุด ปัจจัยหนุนดัชนีฯและหุ้นรายตัวยังคงมาจากความเสี่ยงการปรับลดคาดการณ์กำไร บจ. ลงรอบนี้ ยังคงมีจกัด โดยเมื่อวานTMB รายงานกำไร 2.33 พันล้านบาท ดีกว่าเราคาดที่ 2.15 พันล้านบาท (TMB เรายังคงคำแนะนำเต็มมูลค่า แต่อย่างน้อยตอนนี้ เรา
ยังไม่ได้ปรับประมาณการณ์ลง)

วันนี้แนะเลือกเล่นหุ้นดัก Earnings upward จากมาตรการส่งเสริมการลงทุนภาครัฐฯ

สัปดาห์นี้ คาดดัชนีฯหุ้นไทยยัง Sideways up ต่อได้ (แนวรับ 1,570/1,565 จุด แนวต้าน 1,585/1,590 จุด) โดยคาด Downside ขาลงดัชนีฯจะจำกัด พิจารณาจาก งบ บจ.ขนาดใหญ่ ที่จะประกาศรอบนี้ เช่น PTTEP SCC SCB BBL เราคาดมีโอกาสน้อยที่ Consensus จะปรับกำไรลงหลังงบออก เช่น PTTEP ตลาดคาดกำไร
ทั้งปี ที่ 2.4-2.5 หมื่นลบ. แต่กำไรครึ่งปีแรก 1.78 หมื่นลบ. คิดเป็น 72% ของคาดการณ์ทั้งปี 2017 แล้ว คิดว่ากำไรที่เหลือของปีไม่น่าจะพลาดไปจากนี้ ยกเว้นน้ำมันจะลงไป $30/บาร์เรล

ขณะที่แบงก์ใหญ่อย่าง BBL SCB จะมีสินเชื่อก่อสร้างโครงการ รถไฟฟ้าสายสีชมพู และเหลือง ของกลุ่ม BSR เพิ่มเข้ามา ทำให้เป้าหมายสินเชื่อไม่น่าจะพลาดเป้าทั้งปี เป็นต้น นอกจากนี้ยังจะมีการประกาศเงินปัน ผลระหว่างกาลช่วยหนุน เช่น SCC PTTEP ที่จะให้ผลตอบแทนเงินปันผลเฉลี่ย 2%

หุ้นแนะนำวันนี้

รมว.อุตสาหกรรมฯ จะสรุปแพ็คเกจส่งเสริมอุตสาหกรรมหุ่นยนต์ วันนี้ เพิ่มสิทธิ BOI เว้นภาษี 8 ปี ไม่จำกัด
วงเงิน คาดปีหน้าเงินลงทุนในอุตสาหกรรมนี้จะมากกว่า 1.2 หมื่นล้านบาท หุ้นที่มีธุรกิจอุตสาหกรรมหุ่นยนต์
แนะนำ DELTA (แนวรับ 86 บ. ต้าน 89 บ. Stop loss 85 บ.) ราคาหุ้นลงมาสะท้อนข่าวค่าใช้จ่ายภาษี
ย้อนหลัง 733 ลบ. ไปแล้ว / CCET (แนวรับ 3.1 บ. ต้าน 3.2/3.3 บ. Stop loss 3 บ.) ASAP (แนวรับ 9.05 บ. ต้าน 9.8/10 บ. Stop loss 9 บ.) วันนี้เปิดตัว “ASAP Go” รถเช่ารายชั่วโมง โดยจะเริ่มที่กลุ่มลูกค้าองค์กรซึ่งมี Demand รองรับก่อน และวางแผนขยายธุรกิจรุกตลาดรายบุคคลต่อไป/Consensus คาดกำไรปีนี้ ราว 120-130 ล้านบาท (EPS ราว 0.20 บ.) Implied PE ปี 17 ที่ 45.7 เท่า VS กลุ่มไฟแนนซ์และลิซซิ่ง PE 17 เคยขึ้นไปเล่นแถว 50-55 เท่า คาดกรอบราคาด้านบนที่ประมาณ 10-11 บ.

ปัจจัยที่มีผลต่อตลาด

(+) นักเศรษฐศาสตร์ คาดการณ์ว่า ธนาคารกลางยุโรป (ECB) จะยังไม่มีมติปรับลดวงเงินตามมาตรการ
ผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) ในการประชุมวันพฤหัสบดีนี้ โดยคาดว่าทางธนาคารกลางจะเริ่มปรับลดวงเงิน
ดังกล่าวในการประชุมเดือน ม.ค.ปีหน้า และมีแนวโน้มว่า จะทยอยปรับลดในช่วงระยะเวลา 9 เดือน
ขณะที่เจ้าหน้าที่ ECB หลายรายส่งสัญญาณก่อนหน้านี้ว่า เดือนก.ย. หรืออาจเป็นเดือนต.ค. ถือเป็นเวลา
เหมาะสมที่ ECB จะทำการตัดสินใจเกี่ยวกับการปรับลดวงเงิน QE แต่ก็ย้ำว่าสิ่งนี้จะขึ้นอยู่กับข้อมูล
เศรษฐกิจ และภาวะตลาดในขณะนั้น (ที่มา ASPEN)

(+) เมื่อวานจีนรายงาน GDP 2Q17 ขยายตัว +6.9% ดีกว่าคาดที่ 6.8% และทรงตัวเทียบกับ 1Q17