ตลาดหุ้นไทยเช้านี้แกว่งตัว 1,580-1,600 จุด ขานรับตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐไตรมาส 1/64 โต 6.4% สูงกว่าคาดการณ์ แต่ตลาดหุ้นอัพไซต์จำกัด จากที่ ศบค.ยกระดับมาตรการคุมเข้ม 6 จังหวัดในพื้นที่สีแดงเข้ม อาจส่งผลกระทบเชิงลบต่อเศรษฐกิจไทยและบรรยากาศลงทุนช่วงสั้นแต่ไม่รุนแรงมาก ชี้จะส่งผลดีต่อการฟื้นตัวเศรษฐกิจในระยะต่อไป “เจ็บเล็กน้อยแต่จบ” – 1 พ.ค. ประชาชนเตรียมลงทะเบียน “หมอพร้อม” นัดคิวฉีดวัคซีน นำร่อง “สูงวัย-โรคประจำตัว” 16 ล้านคน
บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) ฟิลลิป (ประเทศไทย) รายงานแนวโน้มตลาดหุ้นไทยวันที่ 30 เม.ย. 2564 ว่า คาดเช้านี้ดัชนี SET แกว่งตัวในกรอบระหว่าง 1,580-1,600 จุด แต่ยังมีโอกาสลุ้นไปทดสอบแนวต้านสำคัญบริเวณ 1,600 จุด หลังสหรัฐประกาศตัวเลขเศษฐกิจออกมาแข็งแกร่ง
- ร้านธงฟ้า 1.4 แสนแห่ง พร้อมรับดิจิทัลวอลเลต เช็กจังหวัดไหนร้านธงฟ้ามาก-น้อยสุด
- นักท่องเที่ยวเข้าต่ำแสน หวั่นโลว์ซีซั่นทรุดหนัก ททท.ชี้กระทบสั้นยอดบุ๊กกิ้งแอร์ไลน์แน่น
- เปิด 10 อันดับมหาวิทยาลัยรัฐ-ราชภัฏ-เอกชน ที่ได้รับความนิยมมากสุด
โดยตัวเลขจีดีพีไตรมาส 1/64 ของสหรัฐขยายตัว 6.4% จากไตรมาสก่อนหน้า ดีกว่าตลาดคาดไว้ 6.1% ส่วนตัวเลขผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานที่ 5.53 แสนราย สูงกว่าตลาดคาดการณ์แต่ถือเป็นตัวเลขต่ำที่สุดตั้งแต่มีการแพร่ระบาดโควิด-19 ทางฝ่ายวิจัยมองว่าตัวเลขเศษฐกิจทั้งสองนี้จะหนุนบรรยากาศการลงทุนได้บางส่วน
ขณะที่คืนนี้ติดตามตัวเลข Core PCE Price Index (y-y) เดือน มี.ค. ของสหรัฐ ตลาดคาดขยายตัว 1.8% เทียบจากช่วงเดียวกันปีก่อน สูงที่สุดนับตั้งแต่จุดต่ำสุดในเดือน พ.ค.63 โดย Core PCE Price Index ถือเป็นหนึ่งในตัวชี้วัดใช้ติดตามทิศทางเงินเฟ้อของสหรัฐ
อย่างไรก็ตาม อัพไซต์ของตลาดจะถูกจำกัดจากการที่ ศบค. ยกระดับคุมเข้มในพื้นที่สีแดงเข้ม 6 จังหวัด ทางฝ่ายวิจัยประเมินว่าการยกระดับมาตรการคุมเข้มจากทาง ศบค.วานนี้
อาจส่งผลกระทบเชิงลบต่อเศรษฐกิจและบรรยากาศการลงทุนบางส่วนแต่ไม่แรงมากนัก เนื่องจากพฤติกรรมของผู้บริโภคส่วนใหญ่ได้ปรับตัวไปในทิศทางเดียวกับมาตรการควบคุมด้งกล่าวไปบ้างแล้ว ตั้งแต่ก่อนการแพร่ระบาดโควิดหนักในช่วงเทศกาลสงกรานต์
ดังนั้นทางฝ่ายวิจัยจึงมองว่ามาตรการควบคุมนี้ “เจ็บเล็กน้อยแต่จบ” เนื่องจากเป็นการช่วยยืดระยะเวลาให้ประชาชนมีความระมัดระวังตัวตลอดเวลา ไม่กลับมาหละหลวมได้โดยง่าย ซึ่งจะส่งผลดีต่อการควบคุมจำนวนผู้ติดเชื้อในช่วงนี้และการกลับมาฟื้นตัวของเศรษฐกิจในระยะต่อไป หลังจากสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิดดีขึ้น
ล่าสุดนายสาธิต ปิตุเตชะ รมช.สาธารณสุข เปิดเผยว่า 1 พ.ค. 2564 จะเปิดให้ประชาชนลงทะเบียนผ่านไลน์ “หมอพร้อม” เพื่อนัดหมายและรับการฉีดวัคซีน COVID-19 โดยประชาชนที่เป็นกลุ่มเป้าหมายประกอบไปด้วย 2 กลุ่มหลัก ได้แก่
1.กลุ่มผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไป มีจำนวนราว 11.7 ล้านคน
และ 2.กลุ่มที่มีโรคประจำตัว 7 กลุ่มโรค มีจำนวนราว 4.3 ล้านคน รวมทั้งสองกลุ่มเป็น 16 ล้านคน
โดยจะใช้วัคซีนลอตใหญ่ของ AstraZeneca ในการฉีดและมีกำหนดการเริ่มการฉีดตั้งแต่ 7 มิ.ย.- 31 ก.ค.64 นี้